วิเคราะห์สถานการณ์"ราคาน้ำมัน" (14 ต.ค.63)
ราคาเวสต์เทกซัสและเบรนท์ปรับเพิ่ม หลังตัวเลขนำเข้าน้ำมันดิบในจีนปรับเพิ่ม
+ ราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสและเบรนท์ปรับเพิ่ม หลังประเทศจีน ผู้นำเข้าน้ำมันดิบรายใหญ่ของโลก รายงานตัวเลขการนำเข้าน้ำมันดิบในเดือน ก.ย. 63 ปรับตัวสูงขึ้นกว่าร้อยละ 5.5 หรือ 11.8 ล้านบาร์เรลต่อวัน จาก 11.2 ล้านบาร์เรลต่อวันในเดือนก่อนหน้า
- การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ยังกดดันความต้องการใช้น้ำมันดิบทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง ทำให้กลุ่มโอเปคปรับลดตัวเลขคาดการณ์ความต้องการใช้น้ำมันดิบในปี 2564 ปีหน้าลงต่อเหลือเพียงเติบโต 6.54 ล้านบาร์เรลต่อวัน สู่ระดับ 96.84 บาร์เรลต่อวัน ซึ่งปรับลดตัวเลขคาดการณ์ลงจากเดือนก่อนหน้าราว 0.08 ล้านบาร์เรลต่อวัน
- อุปทานน้ำมันดิบคาดว่าจะถูกกดดัน หลังคนงานเริ่มกลับไปทำงาน ณ แท่นขุดเจาะอ่าวเม็กซิโก สหรัฐฯ ต่อ หลังถูกพายุเฮอร์ริเคนเดลต้าถล่ม จนทำให้มีการอพยพคนงานออกจากแท่นการผลิต 281 แท่น และหยุดดำเนินการผลิตราว 1.68 ล้านบาร์เรลต่อวัน หรือคิดเป็นร้อยละ 92 ของกำลังการผลิตในอ่าวเม็กซิโก ขณะที่กลุ่มโอเปคและประเทศพันธมิตร จะทำการปรับเพิ่มกำลังการผลิตตั้งแต่ ม.ค. 64 ปีหน้าเป็นต้นไป
ราคาน้ำมันเบนซิน
ปรับตัวลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังอุปทานน้ำมันเบนซินในภูมิภาคปรับเพิ่มจากการส่งออกของจีน ขณะที่อุปสงค์ยังถูกกดดันจากการแพร่ระบาดโดยเฉพาะประเทศมาเลเซียที่มีการออกมาตรการปิดเมือง
ราคาน้ำมันดีเซล
ปรับตัวลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังความต้องการใช้น้ำมันดีเซลในภูมิภาคยังถูกกดดันจากการแพร่ระบาด ท่ามกลางอุปทานที่ปรับตัวลดลงจากการปรับลดกำลังการผลิตของโรงกลั่นในภูมิภาค