PTTEPกำไรไตรมาส3/63ดิ่ง34%เหตุยอดขายลง-หวังอิบิด้ามาร์จิ้นปีนี้ 65-70%

บริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ PTTEP แจ้งผลดำเนินงานไตรมาส3ปี 2563 อยู่ที่ 7,201.85 ล้านบาท ลดลง 34.64%จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 11,018.96 ล้านบาท เนื่องจากรายได้จากการขายที่ลดลง ส่งผลให้งวด9 เดือนมีกำไรสุทธิ 20,137.20 ล้านบาท ลดลง 45.84% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 37,182.18 ล้านบาท

สำหรับแนวโน้มปลการดำเนินงานในปี2563 PTTEP คาดปริมาณการขายเฉลี่ยของปี2563 อยู่ที่ประมาณ 350,000 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน ซึ่งลดลงจากปริมาณการขายเฉลี่ยปี 2562จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ทําให้ความต้องการพลังงานลดลง ประกอบกับมีการนําเข้า LNG เพื่อใช้ในประเทศเพิ่มขึ้นจากการที่ราคา Spot LNG ปรับตัวลดลงเป็นอย่างมากในช่วงครึ่งแรกของปี พร้อมคาดอิบิด้ามาร์จิ้นปีนี้อยู่ที่ 65-70%

ส่วนราคาขายราคานํ้ามันดิบของบริษัทจะผันแปรตามราคานํ้ามันดิบในตลาดโลก ราคาก๊าซธรรมชาติซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์หลักของบริษัทนั้นมีโครงสร้างราคาส่วนหนึ่งผูกกับราคานํ้ามันย้อนหลังประมาณ 6-24เดือน บริษัทคาดว่าราคาก๊าซธรรมชาติเฉลี่ยของปี 2563 จะอยู่ที่ประมาณ 6.3 ดอลลาร์สรอ. ต่อล้านบีทียู เป็นผลจากการปรับตัวของราคานํ้ามันในตลาดโลก

ขณะที่การประกันความเสี่ยงราคานํ้ามัน ณ สิ้นไตรมาส 3 ปี2563 มีปริมาณน้ำมันภายใต้สัญญาประกันความเสี่ยงที่ยังไม่ครบกําหนดอยู่ที่ประมาณ 9 ล้านบาร์เรล ทั้ง บริษัทมีความยืดหยุ่นในการปรับแผนการประกันความเสี่ยงราคาน้ำมันตามความเหมาะสมต้นทุน
สําหรับปี 2563 ปตท.สผ. คาดว่าจะสามารถรักษาต้นทุนต่อหน่วยได้ที่ประมาณ 30 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบ โดยคาดว่าจะสามารถลดรายจ่ายจากแผนการลงทุนเดิมได้มากกว่าร้อยละ 16 จากประมาณ 4,600 ล้านดอลลาร์ ที่ตั้งไว้เมื่อต้นปี

ทั้งนี้ณ 30 กันยายน 2563 ปตท.สผ. และบริษัทย่อย มีเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด รวมทั้งเงินลงทุนระยะสั้นซึ่งเป็นเงินฝากประจําธนาคารที่มีอายุมากกว่า 3 เดือนแต่ไม่เกิน 12 เดือน จํานวน 3,491 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 468 ล้านดอลลาร์เมื่อเปรียบเทียบกับณ วันที่31ธันวาคม 2562 ซึ่งมีเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสดรวมทั้งเงินลงทุนระยะสั้น จํานวน 3,023 ล้านดอลลาร์