“แอสเสทเวิรด์” แปลงโฉม “พันธุ์ทิพย์ ประตูน้ำ” สู่ “AEC TRADE CENTER ”

“แอสเสทเวิรด์” แปลงโฉม “พันธุ์ทิพย์ ประตูน้ำ” สู่ “AEC TRADE CENTER ”

“แอสเสทเวิรด์” ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในเครือเจ้าสัวเจริญ สิริวัฒนภักดี แปลงโฉม “พันธุ์ทิพย์ ประตูน้ำ” สู่ “AEC TRADE CENTER - PANTIP WHOLESALE DESTINATION” ฮับค้า พร้อมผนึกหอการค้าฯกับ11 สมาคมการค้าผลักดันเป็นฮับค้าส่งใจกลางเมืองใหญ่ที่สุดในอาเซียน

นางวัลลภา ไตรโสรัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ AWC กล่าวว่า บริษัทฯได้ลงนามความร่วมมือกับสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และสมาคมการค้า รวม 11 หน่วยงาน เพื่อเดินหน้าโครงการ “AEC TRADE CENTER - PANTIP WHOLESALE DESTINATION” หลังได้เปลี่ยนชื่อและเปลี่ยนตำแหน่งทางการตลาด (Repositioning) จาก “พันธุ์ทิพย์ ประตูน้ำ” ซึ่งมีพื้นที่รวมกว่า 30,000 ตร.ม. สู่การพัฒนาเป็นศูนย์กลางการค้าส่งใจกลางเมืองที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อสนับสนุนไทยในภาคธุรกิจต่างๆ ทั้งผู้ผลิต ผู้ส่งออก และนำเข้าสินค้า ในการแสวงหาโอกาสในการขยายธุรกิจ ด้วยช่องทางในการขายสินค้าและเข้าถึงกลุ่มลูกค้าใหม่ ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ

นายกลินท์ สารสิน ประธานกรรมการสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางทางการค้าในภูมิภาคที่เชื่อมโยงทั้งตลาดและโลจิสติกส์ซึ่งมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง สภาหอการค้าแห่งประเทศไทยในฐานะตัวแทนของผู้ประกอบการภาคเอกชน ซึ่งมีเครือข่ายครอบคลุม ทั่วประเทศจากหอการค้าในภูมิภาค สมาคมการค้า หอการค้าต่างประเทศ มีสมาชิกกว่า 100,000 ราย และมีนโยบายในการสนับสนุนและช่วยเหลือผู้ประกอบไทย โดยเฉพาะ SMEs ซึ่งในปัจจุบัน SMEs มีจำนวนไม่ต่ำกว่า 95% ของภาคธุรกิจรวมของประเทศ ให้อยู่รอดภายใต้ภาวะวิกฤติโควิด-19 ซึ่งมีผลกระทบตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา

สภาหอการค้าฯ มีความยินดีที่ได้ร่วมมือกับ AWC ในโครงการ AEC TRADE CENTER - PANTIP WHOLESALE DESTINATION ซึ่งจะเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนกิจกรรมทางการค้าให้แก่ผู้ประกอบการไทย ซึ่งเป็นตัวสนับสนุนนโยบายของรัฐบาลเกี่ยวกับ Regional Hub ในการขยายการค้าสู่ตลาดเดิมและตลาดใหม่ ดังนั้นการเกิดขึ้นของศูนย์ค้าส่งครบวงจรอย่าง AEC TRADE CENTER - PANTIP WHOLESALE DESTINATION จะช่วยให้คู่ค้าสามารถเจรจาธุรกิจได้ตลอด 365 วัน เสริมศักยภาพให้ไทยเป็นศูนย์กลางการค้าในภูมิภาคอย่างแท้จริงและเป็นการสร้างโอกาสสำคัญให้คู่ค้าได้มาสรรหา (Sourcing) สินค้าในพื้นที่เดียวทำให้ประหยัดค่าใช้จ่ายและเวลา ซึ่งทางสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยยังคงเดินหน้าที่จะช่วยเหลือสนับสนุน SMEs ทั้งซัพพลายเชนต่อไป โดยการแสวงหาตลาด ช่องทาง และเครื่องมือทางธุรกิจใหม่ๆ เพื่อเชื่อมโยง ผู้ผลิต ผู้ค้าปลีก ผู้ค้าส่ง ผู้นำเข้า ผู้ส่งออก รวมถึงผู้ให้บริการด้านโลจิสติกส์ เพื่อส่งเสริมการค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศอย่างครบวงจร ดังนั้น การพัฒนาโครงการ AEC TRADE CENTER - PANTIP WHOLESALE DESTINATION ให้เกิดขึ้นจึงเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการดำเนินธุรกิจของ SMEs

นายอนันต์ ลาภสุขสถิต หัวหน้าคณะกลุ่มโฮลเซลล์ บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) กล่าวเสริมว่า “AEC TRADE CENTER - PANTIP WHOLESALE DESTINATION สร้างโมเดลรูปแบบตอบโจทย์ผู้ประกอบการเปิดพื้นที่กระตุ้นเศรษฐกิจ เพิ่มศักยภาพการค้า โดยไม่เก็บค่าเช่าเป็นเวลา 6 เดือน เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการในช่วงนี้ อีกทั้งผลักดันให้มีสินค้าจากผู้ผลิตต้นน้ำที่มีคุณภาพในหลากหลายหมวดสินค้า อาทิ เฟอร์นิเจอร์ อุปกรณ์ตกแต่งภายใน ของเล่น ของชำร่วย เครื่องเขียน ของขวัญ ของตกแต่งบ้าน นวัตกรรมการพิมพ์ เป็นต้น ซึ่งในวันนี้เราได้รับเกียรติจากทางสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย นำทีมสมาคมการค้าที่สำคัญมาร่วมลงนามเพื่อสนับสนุนให้สมาชิกของสมาคมต่างๆ ได้ประโยชน์จากโครงการนี้

AEC TRADE CENTER เกิดจากแนวคิดของ AWC ในการพัฒนาศูนย์ค้าส่งครบวงจรที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาค CLMVT (กัมพูชา ลาว เมียนมา เวียดนาม ไทย) และเชื่อมโยงไปยังประเทศจีน เพื่อผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการค้านานาชาติของอาเซียนครบวงจร ซึ่งปัจจุบันใกล้เสร็จสมบูรณ์วางแผนจะเปิดในต้นปี 2564 แต่ในวันนี้เราพบว่าสถานการณ์โควิดทำลายบรรยากาศการค้าทั้งในและต่างประเทศ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยปลุกชีพจรการค้า เราจึงนำแนวคิดดังกล่าวมาพัฒนา AEC TRADE CENTER - PANTIP WHOLESALE DESTINATION ให้เป็นโครงการแฟล็กชิพของเออีซี เทรด เซ็นเตอร์ ในฐานะศูนย์กลางการค้าส่งแบบวันสต็อป ครบวงจรใจกลางกรุงเทพฯ เป็นแห่งแรกของไทย มีพื้นที่รวมกว่า 30,000 ตร.ม. ที่ศูนย์การค้าพันธุ์ทิพย์ ประตูน้ำ ด้วยความมุ่งมั่นที่จะสนับสนุนผู้ประกอบการไทยที่มีศักยภาพให้เติบโตบนเวทีการค้าโลก

ด้วยพื้นที่แสดงสินค้า และศูนย์ SMEs Service Solution (SSS) ซึ่งจะมีสตูดิโอถ่ายภาพเพื่อให้ผู้ค้าสามารถใช้บริการถ่ายทอดสดออนไลน์ (Live Streaming) ห้องประชุม และสัมมนาขนาดย่อม พื้นที่ให้บริการคำปรึกษาด้านธุรกิจ ที่จะเชื่อมโยงกลุ่มผู้ซื้อ ทั้งผู้ผลิต ผู้ส่งออก และ ผู้นำเข้าสินค้า ทั้งภายในประเทศ ระหว่างภูมิภาคและทั่วโลกตลอดทั้งปี

นอกจากนั้น เพื่อให้เป็นศูนย์กลางการค้าส่งในภูมิภาคอย่างแท้จริง โครงการยังได้รับความร่วมมือจาก Yiwu หรือ Zhejiang China Commodities City Group Co., Ltd. (CCC Group) ผู้พัฒนาและบริหารตลาดค้าส่งสินค้าเบ็ดเตล็ดที่ใหญ่ที่สุดในโลกจากเมืองอี้อู (Yiwu) ประเทศจีน มาเปิดศูนย์นำเข้าและส่งออกที่โครงการ โดยจะมีศูนย์แสดงสินค้าคุณภาพคัดสรร “Yiwu Selection Thailand Showcase” เพื่อให้โครงการเป็นศูนย์ค้าส่งระดับภูมิภาค ให้ผู้ซื้อจากต่างประเทศได้มาเลือกสินค้าที่ไทย และยังเป็นช่องทางช่วยผู้ประกอบการส่งออกสินค้าไปยังประเทศจีนผ่านเครือข่าย IC Mall ของอี้อู ซึ่งทั้งหมดนี้พร้อมจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 26 พ.ย. 2563

นอกจากนี้ AEC TRADE CENTER - PANTIP WHOLESALE DESTINATION ยังมีช่องทางออนไลน์ อย่างเว็บไซต์และแอปพลิเคชั่น Phenixbox ซึ่งอยู่ระหว่างพัฒนาขึ้นเพื่อเป็นส่วนสนับสนุนให้ผู้เช่าของโครงการ สามารถดำเนินธุรกิจแบบออนไลน์ให้ครอบคลุมทั่วโลกได้ ในรูปแบบของ O2O ที่เชื่อมต่อออนไซต์และออนไลน์เข้าด้วยกัน  ซึ่งจะช่วยให้ผู้เช่าสามารถมีพื้นที่ขายออนไลน์ในรูปแบบของการขายส่งได้ตลอด 24 ชั่วโมง 365 วัน โดยมีฟีเจอร์การใช้งานที่ตอบโจทย์ ทั้งเรื่อง การทำใบเสนอราคา การแชทรับส่งข้อความแบบเรียลไทม์ การทำธุรกรรมการเงินแบบออนไลน์ ระบบการขนส่ง และโลจิสติก ฟังก์ชั่นการค้นหาสินค้าอัจฉริยะ และการจัดการซื้อขายในลักษณะกลุ่ม