'สุพัฒนพงษ์' เล่าเบื้องหลังความสำเร็จ 'โครงการคนละครึ่ง'
"สุพัฒนพงษ์" ปลื้มโครงการคนละครึ่ง เล่าเบื้องหลังความสำเร็จพร้อมเผยชื่อ 2 คีแมนย์ผลักดันโครงการ "ปีติ" ช่วยคิด และ "สมคิด" เอาไปทำให้เป็นรูปธรรม สั่งนำข้อมูลไปพัฒนาแพลตฟอร์มค้าออนไลน์สู้อีคอมเมิร์ซต่างชาติ
ความสำเร็จของ “โครงการคนละครึ่ง” ที่ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีทั้งจากประชาชนและร้านค้า และได้รับการยอมรับว่าเป็นโครงการที่สร้างความคึกคักให้กับระบบเศรษฐกิจไทย โดยปัจจุบันมีประชาชนที่ลงทะเบียนในโครงการกว่า 10 ล้านคน และร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการกว่า 1 ร้านร้านค้ามีการใช้จ่ายแล้วเกือบ 3 หมื่นล้านบาท
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีไฟเขียวให้กระทรวงการคลังในฐานะหน่วยงานที่รับผิดชอบโครงการเดินหน้าต่ออายุมาตรการนี้ในระยะที่ 2 ขณะที่อาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลังบอกว่าจะให้โครงการนี้เป็นของขวัญปีใหม่ให้ประชาชน และคณะกรรมการบริหารสถานการณ์เศรษฐกิจเศรษฐกิจจากผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบศ.) ในวันที่ 2 ธ.ค.นี้จะมีการนำเอารายละเอียดของโครงการคนละครึ่งเฟส 2 เข้ามาพิจารณาหากได้รับความเห็นชอบก็จะเสนอครม.พิจารณาต่อไป
ท่ามกลางความสำเร็จของโครงการนี้ทำให้หลายคนอยากรู้ถึงที่มาที่ไป จุดเริ่มต้น และผู้ที่อยู่เบื้องหลังเป็นผู้คิดโครงการที่ตอบโจทย์ประชาชนแบบโครงการคนละครึ่งขึ้นมาว่าเป็นหน่วยงานใด หรือใครเป็นคนที่คิดโครงการนี้ขึ้นมา
ล่าสุดนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พลังงาน เล่าถึงที่มาของโครงการนี้ว่าตอนที่เข้ามารับตำแหน่งเป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจแนวนโยบายที่วางไว้คือว่านอกจากภาครัฐต้องให้ประชาชนและภาคธุรกิจเอกชนเข้ามาร่วมกันขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศให้ผ่านพ้นวิกฤต
แนวนโยบายจึงออกมาแบบร่วมกันจ่าย (co-pay) โดยที่คิดและผลักดันส่วนแรกเลยคือการจ้างงานนักศึกษาจบใหม่ที่ภาครัฐร่วมกันจ่ายเงินเดือนกับภาคเอกชน ต่อมาก็เป็นเรื่องเราเที่ยวด้วยกันที่ภาครัฐช่วยสนับสนุนเงินค่าตั๋วเครื่องบิน และค่าที่พักให้กับประชาชน
ในส่วนของประชาชนที่มีรายได้น้อยมากซึ่งถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐตรงนั้นก็มีการเพิ่มเงินให้นำไปใช้ซื้อของใช้ในร้านค้าเพิ่มได้ ซึ่งเมื่อดูนโยบายทั้งหมดก็ยังเห็นว่ายังมีอยู่บางส่วนที่ยังขาดอยู่ จะต้องหานโยบายอะไรบางอย่างมาเติมเต็มเพื่ออุดช่องว่างที่มีอยู่
จึงได้เอาเรื่องนี้ไปหารือกับหลายคนสุดท้ายคนที่ช่วยคิดนโยบายคนละครึ่งออกมาได้แบบในปัจจุบันก็คือ “ปีติ ตัณฑเกษม” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารธนาคารทหารไทยหรือ “TMB” ซึ่งปัจจุบันอยู่ในคณะที่ปรึกษาเศรษฐกิจของนายกรัฐมนตรี
ส่วนอีกคนหนึ่งที่นำเอาแนวคิดนี้ไปทำต่อให้เป็นรูปเป็นร่างจนเป็นโครงการคนละครึ่งแบบที่เห็นในปัจจุบันที่มีการต่อเชื่อกับแอพพลิเคชั่นเป๋าตังค์ และ้ใช้งานได้ไหลลื่นก็คือ "สมคิด จิรานันตรัตน์” ที่ปัจจุบันนั่งตำแหน่งที่ปรึกษากรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย ผู้ปลุกปั้นและรับผิดชอบแพลตฟอร์มรวมทั้งระบบลงทะเบียนในโครงการ “เราไม่ทิ้งกัน” และอยู่เบื้องหลังแพลตฟอร์มต่างๆ ของรัฐ เช่น แพลตฟอร์มไทยชนะ,จี วอลเล็ต มาก่อนหน้านี้
สุพัฒนพงษ์ยังบอกว่าได้มอบหมายงานท้าทายชิ้นต่อไปให้กับสมคิดในการนำข้อมูลที่มีอยู่จากโครงการคนละครึ่งที่มีร้านค้ามาลงทะเบียนกว่า 1 ร้านค้า และผู้ลงทะเบียนใช้งานจำนวน 10 ล้านรายมาพัฒนาต่อเนื่องเป็นแพลตฟอร์มสำหรับการค้าขายออนไลน์ของประเทศท้าชนกับแบรนด์ชั้นนำอีคอมเมิร์ซที่กำลังโหมทำการตลาดอย่างหนักหน่วงในเมืองไทย
...เป็นเบื้องหลังของโครงการคนละครึ่งที่รองนายกฯด้านเศรษฐกิจเล่าให้ฟังว่าโครงการนี้ใครคิด ใครทำ และใครจะช่วยต่อยอดโครงการนี้ให้สำเร็จในขั้นตอนต่อไปสร้างประโยชน์ทางเศรษฐกิจให้ประเทศได้มากขึ้นในอนาคต