เตือน! ร้านค้า 'คนละครึ่ง' ขึ้นราคาเกินจริง ถูกดำเนินคดีแน่
กระทรวงการคลัง เตือนร้านค้าเข้าโครงการ "คนละครึ่ง" ห้ามฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้าเกินจริง หากพบการกระทำผิด ไม่ใช่แค่ถูกระงับการจ่ายเงิน แต่ยังจะถูกดำเนินการตามกฎหมายอีกด้วย!
ย้ำกันให้ชัดๆ อีกครั้ง สำหรับโครงการ "คนละครึ่ง" ซึ่งเพิ่งประกาศข่าวดี โดยที่ประชุม ศบศ. มีมติไฟเขียวขยายโครงการ "คนละครึ่ง เฟส2" เป็นของขวัญปีใหม่แก่ประชาชน 2 เด้ง ทั้งเห็นชอบ "ขยายสิทธิ" คนละครึ่งอีก 5 ล้านราย แถมยังเพิ่มวงเงินอุดหนุนจากเดิมที่รัฐจ่ายให้คนละ 3,000 บาท ก็เพิ่มวงเงินเป็น 3,500 บาท ให้ใช้จ่ายในระยะเวลา 3 เดือน
และยังปลอบใจให้แก่ผู้ลงทะเบียนรายเดิมที่รับสิทธิ 3,000 บาทไปแล้ว ก็จะได้ต่ออายุอัตโนมัติและได้วงเงินเพิ่มคนละ 500 บาท ในเฟส 2 นี้ด้วย โดยผู้ที่สนใจ เตรียมตัวให้พร้อม เพราะโครงการคนละครึ่งเฟส 2 จะเปิดให้ลงทะเบียนวันที่ 16 ธ.ค. 2563 เป็นต้นไป
สำหรับโครงการ "คนละครึ่ง เฟสแรก" วงเงิน 3,000 บาท ที่เริ่มใช้งานได้ตั้งแต่ 23 ตุลาคม 63 ต่อเนื่องมาจนปัจจุบัน ความคืบหน้าล่าสุด ณ วันที่ 30 พ.ย. 63 มีร้านค้าลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการแล้วกว่า 870,000 ร้านค้า และผู้ใช้สิทธิแล้วจำนวน 9,515,956 คน
ยอดใช้จ่ายสะสม 31,777 ล้านบาท แบ่งเป็นเงินที่ประชาชนจ่าย 16,226 ล้านบาท และภาครัฐร่วมจ่ายอีก 15,551 ล้านบาท ยอดใช้จ่ายเฉลี่ย 184 บาทต่อครั้ง โดยจังหวัดที่มีการใช้จ่ายสะสมมากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ กรุงเทพมหานคร สงขลา นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี และชลบุรี ตามลำดับ
แม้ว่า โครงการดังกล่าว จะช่วยให้ผู้ประกอบการรายย่อย โดยเฉพาะกลุ่มร้านค้า แผงลอย หาบเร่ มีรายได้จากการขายสินค้าเพิ่มขึ้น แต่แน่นอนว่า เมื่อมีคนใช้จ่ายผ่านโครงการดังกล่าวมากขึ้น บางครั้งอาจมีผู้ต้องการเอาผลประโยชน์เข้าตัวเอง โดยใช้ช่องทางโครงการ ในรูปแบบต่าง ๆ
ล่าสุด กระทรวงการคลัง เตือนร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการ “คนละครึ่ง” อย่าฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้า เพราะเป็นการเอาเปรียบผู้ใช้สิทธิ ผิดเงื่อนไขของโครงการ และยังทำลายบรรยากาศการจับจ่ายใช้สอยโดยรวม
หากตรวจสอบพบว่า กระทำผิดเงื่อนไขจริง จะระงับการใช้แอปพลิเคชัน ระงับการจ่ายเงินของร้านค้าทันที และจะดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
อย่างไรก็ตาม หากประชาชน พบพฤติกรรมการขึ้นราคาสินค้า หรือ มีการใช้จ่ายที่ไม่เป็นไปตามเงื่อนไขโครงการ เช่น การรวมค่าบริการอินเทอร์เน็ตมือถือของร้านค้าอยู่ในราคาสินค้า รับแลกสิทธิเป็นเงินสด สามารถแจ้งเบาะแสไปได้ที่ [email protected] หรือ โทร. 02 273 9020 ต่อ 3697 3527 3548 3509 และธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) โทร. 02 111 1144