อัพเดท ‘เราเที่ยวด้วยกัน’ ส่อง 8 เงื่อนไข เพิ่มสิทธิทั้งที่พัก-ตั๋วเครื่องบิน

จากมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2563 ที่ได้เห็นชอบปรับปรุงเงื่อนไขโครงการ "เราเที่ยวด้วยกัน" เพิ่มเติม และมีการปรับลดวงเงินโครงการเหลือ 15,000 ล้านบาท จากเดิมที่มีการตั้งกรอบวงเงินไว้ 20,000 ล้านบาท โดยมีรายละเอียด 8 เงื่อนไขที่เปลี่ยนแปลงปรับปรุงที่น่าสนใจ ดังนี้

1.ปรับปรุงให้สิทธิการจองห้องพัก จากเดิมประชาชนใสามารถจองที่พักได้ไม่เกิน 10 คืนต่อสิทธิ รอบใหม่ได้เพิ่มเป็น 15 คืนต่อสิทธิ

2.ขยายช่วงเวลาการจองที่พัก จากเดิม 06.00 - 21.00 น. รอบใหม่ขยายเวลาเป็นตั้งแต่ 06.00 - 24.00 น. 

3.เพิ่มจำนวนห้องพักในโครงการเราเที่ยวด้วยกัน จากเดิม 5 ล้านคืน เป็น 6 ล้านคืน โดยจำนวนห้องที่เพิ่มมาจะสนับสนุนเฉพาะ E-voucher แต่ไม่อุดหนุนค่าที่พัก 

4.ขยายเวลาใช้สิทธิโครงการถึง 30 เม.ย.2564 

5.เพิ่มโรงแรมที่ไม่มีใบอนุญาต แต่มีหมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษีและมีการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ให้ร่วมโครงการได้

6.อนุมัติให้ธุรกิจและบริการที่เกี่ยวข้องในห่วงโซ่อุปทานการท่องเที่ยวใช้ระบบคูปองออนไลน์ (E-Voucher) ได้ ประกอบด้วย ธุรกิจการขนส่งภาคท่องเที่ยว ธุรกิจสปาหรือนวดเพื่อสุขภาพ โดยต้องเป็นธุรกิจที่จดทะเบียนเป็นนิติบุคคล ไม่ใช่หน่วยงานในสังกัดภาครัฐ  

7.ปรับปรุงเกณฑ์สนับสนุนค่าบัตรโดยสารเครื่องบิน เป็นสูงสุดไม่เกิน 3,000 บาทต่อสิทธิ จากเดิมรัฐสนับสนุน 40% แต่สูงสุดไม่เกิน 2,000 บาทต่อสิทธิ แต่เฉพาะการเดินทางไปท่องเที่ยวในจังหวัดที่ภาคท่องเที่ยวพึ่งพารายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติสูง ทั้งหมด 7 จังหวัด ประกอบด้วย ภูเก็ต พังงา กระบี่ สุราษฎร์ธานี สงขลา เชียงใหม่ และเชียงราย

8.กำหนดหลักเกณฑ์การลาสำหรับข้าราชการ พนักงาน ลูกจ้าง และพนักงานรัฐวิสาหกิจ สามารถลาพักร้อนในวันธรรมดาเพิ่มได้ 2 วัน โดยไม่ถือเป็นวันลาเมื่อใช้สิทธิในโครงการเราเที่ยวด้วยกัน ซึ่งต้องมีการแสดงหลักฐาน

ทั้งนี้ผู้ที่สนใจสามารถเข้าไปศึกษารายละเอียด และดูจำนวนสิทธิคงเหลือ ทั้งสิทธิคงเหลือที่พัก และสิทธิคงเหลือตั๋วเครื่องบิน ได้ที่เว็บไซต์ www.เราเที่ยวด้วยกัน.com พร้อมดูวิธีการลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิโครงการ และค้นหาร้านหาที่เข้าร่วมโครงการได้ด้วย