เคลียร์ชัด 'โควิด-19' สายพันธ์ุ G จาก 'ท่าขี้เหล็ก' ร้ายแรงแค่ไหน?
อธิบดีกรมควบคุมโรค รายงานสถานการณ์โควิดในไทย พบกลุ่มคนไทยจากจ.ท่าขี้เหล็ก เมียนมา ป่วย 49 คน โดยกลุ่มที่เพิ่งเข้าไทย 107 คน พบเชื้ออีก 4 รวมเป็น 9 คน ขณะที่พันธุกรรมเป็นสายพันธ์ุ G มีต้นทางจากอินเดีย เมียนมา แพร่มาไทย และพบการระบาดอยู่ทั่วโลก
นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข แถลงกรณีคนไทย 107 คน ที่เดินทางกลับจาก จ.ท่าขี้เหล็ก เมียนมา ผ่านทางข้อตกลงของคณะกรรมการชายแดนไทย-เมียนมาระดับท้องถิ่น(ทีบีซี ) กลุ่มแรกเมื่อวันที่ 11 ธ.ค. พบติดเชื้ออีก 4 คนจากเดิมมีอาการชัด 5 คน รวม 9 คน โดยส่งเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ และส่วนที่เหลือเข้าใน Local Quarantine
ส่วนผู้ที่เดินทางกลับจากจ.ท่าขี้เหล็ก ข้อมูล วันที่ 12 ธ.ค. พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ทั้งหมด 49 คนอยู่ใน 7 จังหวัด มากสุดที่เชียงราย 37 คน เชียงใหม่ 5 คน พะเยา 1 คน กทม.3 คนพิจิตร ราชบุรี สิงห์บุรี จังหวัดละ 1 คน
สำหรับสายพันธุ์เชื้อโควิด จาก จ.ท่าขี้เหล็ก อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า เชื้อมีการการกลายพันธุ์ตลอดเวลา แต่การกลายพันธุ์ที่สำคัญคือทำให้ติดง่ายขึ้น เชื้อรุนแรง และทำใหวัคซีนใช้ไม่ได้ผล และสายพันธุ์ที่ระบาดในตอนนื้คือสายพันธุ์ G ไม่ได้มาจากเมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน ที่เคยเป็นต้นทางระบาดในช่วงแรก แต่มาจากอินเดีย มาที่เมียนมา และไทย
ทั้งนี้ ผลยืนยันจากห้องปฏิบัติการพบว่าสายพันธุ์ G เมื่อติดในเซลล์ จะออกเป็นเชื้อไวรัสตัวใหม่มากขึ้นๆ ในห้องปฏิบัติการ แต่ขณะเดียวกันข้อมูลในไทยพบว่าผู้ติดเชื้อ 100 กว่าคนไม่ได้มีอาการรุนแรงและรักษาหายได้ ซึ่งความรุนแรงไม่ได้มากกว่าเดิม และสายพันธุ์นี้ก็มีการระบาดทั่วโลกร้อยละ 80 ซึ่งจากการทดลองวัคซีนในพื้นที่ระบาด "ได้ผล"