เมียนมา สั่งล็อคดาวน์ 5 เมือง ควบคุมการระบาด
เมียนมา สั่งล็อคดาวน์ 5 เมือง ท่าขี้เหล็ก เชียงตุง เมืองโตง เมืองยอง และเมืองสาด ควบคุมการแพร่ระบาด ครม.ญี่ปุ่น อนุมัติงบประมาณกว่า 11,000 ล้านดอลลาร์ ช่วยธุรกิจระดับล่าง ด้าน สหราชอาณาจักร ประกาศลดจำนวนวันกักตัว เหลือ 10 วัน
วันที่ 12 ธันวาคม 2563 ที่ผ่านมา ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด19 (ศบค.) รายงานสถานการณ์โควิด-19 ที่น่าสนใจในต่างประเทศ ว่า รัฐบาลกลางของเมียนมา สั่งการไปยังรัฐฉานออกมาตรการปิดเมือง (lockdown) 5 เมือง ได้แก่ ท่าขี้เหล็ก เชียงตุง เมืองโตง เมืองยอง และเมืองสาด เพื่อควบคุมการแพร่ระบาด ส่วนคนไทยที่ตกค้างอยู่ในท่าขี้เหล็กได้ลงทะเบียนกลับไทย 102 คน ส่วนใหญ่เดินทางเข้าเมืองเมียนมาโดยผิดกฎหมาย ขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินคดี จากนั้นจะนำตัวส่งข้ามแดนมายังฝั่งไทยผ่านทางสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมาข้ามลำน้ำสายแห่งที่ 2 โดยทันที
ด้าน ครม.ญี่ปุ่น อนุมัติงบประมาณกว่า 3,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อเป็นงบประมาณฉุกเฉินรองรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค COVID-19 โดยเฉพาะขยายโครงการ “Go To Travel” ซึ่งจะสิ้นสุดใน ม.ค.64 ออกไปอีก 5 เดือน นอกจากนี้ ยังเตรียมงบประมาณอีกกว่า 11,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐเพื่อช่วยเหลือภาคธุรกิจในระดับล่างที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดใน ช่วงปลายปี 2563 จนถึง มี.ค.64
ขณะที่ สหราชอาณาจักร ประกาศลดจำนวนวันกักตัวสังเกตอาการของผู้ติดโรค COVID-19 จาก 14 วัน เหลือ 10 วันมีผลตั้งแต่วันที่ 14 ธ.ค.63 เป็นต้นไป มาตรการนี้จะบังคับใช้ในอังกฤษ สก๊อตแลนด์ ไอร์แลนด์ และเวลส์ โดยผู้มีผลตรวจว่าติดโรค COVID-19 ต้องกักตัวเองรวม 10 วันนับตั้งแต่ปรากฏอาการ หรือนับจากวันที่เข้ารับการตรวจหาเชื้อแต่หากไม่มีอาการให้เริ่มนับวันเริ่มกักตัวหลังจากต้องสงสัยว่าได้รับเชื้อ 1 วัน
ทั้งนี้ แนวโน้มการระบาดของโรคโควิด-19 ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะแถบประเทศเพื่อนบ้าน กระทรวงสาธารณสุข ได้สั่งการให้ทุกจังหวัดเปิดศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข กรณีโรคโควิด-19 (EOC) โดยให้ปฎิบัติ ดังนี้ ติดตามและประเมินสถานการณ์ภายในจังหวัด , เตรียมความพร้อมโรงพยาบาล เวชภัณฑ์ห้องปฏิบัติการ และบุคลากร , เฝ้าระวังผู้ป่วยโรคปอดบวม และผู้ป่วยโรคทางเดินหายใจ , ส่ง อสม.เคาะประตูบ้านแจ้งข่าวประชาชน และคัดกรองกลุ่มเสี่ยง
รวมทั้ง เปิดสายด่วน ให้กลุ่มเสี่ยงรายงานตัว แนะนำมาตรการต่าง ๆ ต่อประธานคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด ที่สำคัญจะต้องกำกับดูแลสถานประกอบการในพื้นที่ โดยเฉพาะสถานบันเทิง เพื่อให้ปฏิบัติตามมาตรการควบคุมป้องกันโรคได้ตามมาตรฐาน