'WeVo' เอาด้วย รวมพลหน้าสถานทูตเมียนมาร์ อ่านแถลงการณ์ต้านรัฐประหาร

ผู้สื่อข่าวรายงานการชุมนุมกลุ่มมวลชนอาสา หรือ We Volunteer ว่า เมื่อเวลา 15.30 น. เริ่มมีกลุ่มมวลชนอาสา ทยอยเดินทางมาที่หน้าสถานเอกอัครราชทูตเมียนมาร์ตามเวลานัดหมาย เขตยานนาวา ภายหลังเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา กลุ่มมวลชนอาสา ได้โพสต์ข้อความกรณีทหารของประเทศเมียนมาได้ก่อการรัฐประหารขึ้นในประเทศ ในฐานะพลเมืองชาติสมาชิกอาเซียน ได้ขอประณามและประกาศไม่รับรองการรัฐประหาร และรัฐบาลที่มาจากการรัฐประหาร

ทั้งนี้ ตั้งแต่เวลา 12.00 น.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจสน.ยานนาวา ได้นำรั้วแผงเหล็กมาวางแนวป้องกันที่ด้านหน้าสถานทูตเมียนมาเรียบร้อยแล้ว

นอกจากนี้ พบว่ามีแรงงานชาวเมียนมาร์กลุ่มหนึ่งสวมชุดสีแดง พร้อมนำรูปภาพนางออง ซาน ซูจี ที่ปรึกษาแห่งรัฐและรัฐมนตรีต่างประเทศเมียนมา เดินทางมาประท้วงต่อการทำรัฐประหารของกองทัพในครั้งนี้ ขณะเดียวกันยังพบ น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ แกนนำกลุ่มคณะราษฎร 2563 นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ส.ส.พรรคก้าวไกล เดินทางมาร่วมสังเกตการณ์ด้วย

จากนั้นเวลา 15.45 น. กลุ่มมวลชนอาสาได้อ่านแถลงการณ์ว่า แถลงการณ์ประณามการรัฐประหารในเมียนมาร์(พม่า) จากสถานการณ์ที่มีทหารของประเทศเมียนมาร์(พม่า) ได้กระทำการอุกอาจก่อการรัฐประหารขึ้นในประทศ เมื่อช่วงเช้มืดของวันนี้ (1 ก.พ.64) และมีการจับกุม ผู้นำรัฐบาล รัฐมนตรี นักการเมือง รวมถึงประชาชนหลายคน ซึ่งเหตุปัจจัยในการทำรัฐประหารครั้งนี้มาจากการที่เผด็จการทหารเมียนมาร์ไม่ยอมให้ประเทศของตนมีประชาธิปไตยผ่านการเลือกตั้ง และการแก้ไขรัฐธรรมนูญของผู้แทนราษฎรและที่พวกผด็การทหารพึ่งเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ไปในสนามเลือกตั้ง นำไปสู่ความหวาดกลัวว่ารัฐบาลประชาชนที่ชนะเลือกตั้งอย่างถถ่มกลายกำลังจะมีการเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อลดบทบาท และอำนาจกองทัพลง

ในฐานะพลเมืองชาติสมาชิกอาเซียน เราไม่อาจจะนิ่งเฉยได้ต่อการกระทำดังกล่าว ประเทศไทยจะต้องไม่รับรองการทำรัฐประหาร และไม่รับรองรัฐบาลที่มาจากการรัฐประหาร ไม่ว่าจะชนชาติ เชื้อชาติ ศาสนา และความเชื่อใด ก็ควรได้รับการช่วยเหลือจากมนุษยชาติด้วยกันเพื่อรับรองสิทธิเสรีภาพในการแสดงออกทางการเมืองของทุกคน We Volunteer ขอเรียกร้องให้ผู้นำการรัฐประหารในเมียนมาร์ ยุติการกระทำดังกล่าว หยุดการจับกุมคุมขังประชาชน และเร่งคืนประชาธิปไตยโดยเร็วที่สุด

ทั้งนี้ นายปิยรัฐ จงเทพ แกนนำกลุ่มมวลชนอาสา กล่าวว่า เราไม่ยอมรับการรัฐประการในเมียนมาร์ ตราบใดที่ยังรัฐประหารแสดงว่ายังไม่มีการเคารพสิทธิเสรีภาพของประชาชน เราต้องไม่ยอมรับอำนาจของคณะรัฐประหารใดๆทั้งสิ้น

ด้านนายพริษฐ์ กล่าวว่า เราต้องมาคล้องแขนกันว่าประชาธิปไตยไม่มีพรมแดน รัฐประการเป็นเหมือนมะเร็งร้ายกัดกลืนกินความเจริญของประเทศชาติ หากมีรัฐประหารประเทศใด ประเทศนั้นจะอยู่ในวังวนของรัฐประหารไปด้วย วันนี้เรามาในฐานะนักเคลื่อนไหวของประเทศไทย เราขอสนับสนุนการต่อต้านของชาวเมียนมาร์ เพราะทั้งไทยและเมียนมาร์ก็ตกอยู่ภายใต้รัฐประหารด้วยกัน จึงขอให้มาร่วมต่อสู้กันเพื่อให้เผด็จการพินาศ และประชาธิปไตยจงเจริญ

ขณะที่นางสาวปนัส กล่าวสนับสนุนขอให้ประชาชนชาวอาเซียนออกมาแสดงจุดยืนและสนับสนุนชาวเมียนมาร์ให้มีระบอบประชาธิปไตยร่วมกัน