‘ราคาทอง’ ช่วงตรุษจีน ปรับตัวลงแต่ตลาดยังซบ

‘ราคาทอง’ ช่วงตรุษจีน  ปรับตัวลงแต่ตลาดยังซบ

“กูรูทองคำ” คาดช่วงตรุษจีนตลาดไม่คึกคัก แม้แนวโน้มราคาทองปรับฐานลงต่อเนื่อง หลุด1,800บาทต่อออนซ์ เหตุโควิด-19ฉุดกำลังซื้อ และราคาโลหะเงินดิ่ง ขณะที่ในระยะยาวปีนี้จับตานโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจขอบไบเดน

ตอนรับเทศกาลตรุษจีนในสัปดาห์หน้ากันแล้ว ด้วยราคาทองคำปิดตลาดช่วงนี้วันศุกร์ที่ผ่านมานี้  ปิดที่ 1,808.50 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำในประเทศอยู่ที่ 25,880 บาทต่อบาททองคำ โดยปรับลง150บาท เป็นการปรับตัวลงต่อเนื่องจากสัปดาห์ที่แล้ว ราคาทองปรับลง250บาท และเดือนม..ที่ผ่านมาปรับลง 650 บาท

โดยการปรับฐานราคาทองคำอย่างต่อเนื่องช่วยสร้างแรงซื้อทองคำกลับมาบ้างก่อนช่วงเทศกาลตรุษจีนในสัปดาห์หน้า

แต่อย่างไรก็ตามบรรดากูรูทองคำต่างฟันธงชัดๆ เลยว่า ในสัปดาห์หน้าบรรยากาศการซื้อทองคำในช่วงตรุษจีนปีนี้ จะไม่กลับมาไม่คึกคักเหมือนในอดีต เรียกว่าเดี๋ยวนี้แทบจะไม่รู้จักเยาวราชกันแล้วเนื่องจากการแพร่ระบาดโควิด-19 คนไม่กล้าออกจากบ้านและกำลังซื้อยังไม่ฟื้น

นายจิตติ ตั้งสิทธิ์ภักดี ประธานกรรมการ บริษัท ห้างขายทอง จินฮั้วเฮง และนายกสมาคมค้าทองคำ เปิดเผยว่า บรรยากกาศการซื้อทองคำช่วงตรุษจีนในสัปดาห์นี้คงไม่คึกคักเหมือนในอดีต  แม้ปิดตลาดสัปดาห์ที่ผ่านมานี้ ราคาทองร่วงลงมาค่อนข้างมาก พอทำให้บรรยากาศการซื้อทองคำอาจดีกว่าช่วงปกติ แต่ด้วยผลกระทบจากการแพร่ระบาดโควิด-19 ระลอกใหม่ กำลังซื้อยังไม่ฟื้นตัวทำให้การใช้จ่ายสินค้าฟุ่มเฟื่อยยังลดลง  อีกทั้งความนิยมซื้อทองเพื่อของกำนัลหรือโบนัสลดลง และส่วนใหญ่นิยมซื้อไปแล้วในช่วงเทศกาลปีใหม่

คาดว่า แนวโน้มราคาทองคำในช่วงตรุษจีนสัปดาห์หน้าจะทรงตัวจากสิ้นสัปดาห์นี้ปิดที่ 1,808.50 ดอลลาร์ต่อออนซ์ มองว่า ในช่วงระยะสั้นยังไม่ขึ้นมาก และระยะยาวปีนี้ ขึ้นกับปัจจัยในตลาดโลก อิงปัจจัยจากนโยบายเศรษฐกิจของประธานาธิบดีสหรัฐฯ โจ ไบเดน และดอลลาร์อ่อนค่า แต่ปัจจุบันทิศทางดอลลาร์ยังสวนทาง ซึ่งขณะนี้ทิศทางค่าเงินดอลลาร์ยังไม่ชัดเจนโดยประเมินกรอบราคาทองคำสิ้นปีนี้ ที่แนวรับ 1,775 บาทต่อออนซ์ และแนวต้าน 1,825 บาทต่อออนซ์ ด้านราคาทองในประเทศประเมินกรอบที่ 25,500- 26,250 บาท

นายณัฐพงศ์ หิรัณยศิริ ประธานฝ่ายบริหาร บริษัท MTS GOLD GROUP กล่าวว่า แม้ราคาทองคำลดลงในสัปดาห์ที่ผ่านและหลายๆสัปดาห์ราคาทองคำเริ่มปรับฐานลง แต่บรรยากาศในการซื้อทองคำช่วงตรุษจีนในปีนี้ ยังไม่คึกคักเช่นเดียวกับจีน เนื่องจากผล กระทบการเดินทางที่ไม่สามารถทำได้ในช่วงการแพร่ระบาดโควิด-19ระลอกใหม่ และการบริโภคเพื่อการลงทุนทองคำแท่งซึ่งเคลื่อนไหวตรงข้ามกับการลงทุนในสกุลเงินดอลลาร์  พร้อมทิศทางราคาโลหะเงินรอบนี้กลับเป็นตัวนำราคาทองคำ แต่เมื่อราคาโลหะเงินปรับตัวลงจะเป็นปัจจัยกดดันให้ราคาทองปรับลงได้

โดยประเมินกรอบราคาทองคำในสัปดาห์หน้าที่ แนวรับ 1,780 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และแนวต้าน 1,820 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ด้านราคาทองในประเทศประเมินกรอบที่ แนวรับ 25,300 บาท และแนวต้าน 26,800-27,000 บาท  ซึ่งกรอบราคาทองคำผันผวนส่วนใหญ่มาจากตัวเลขเศรษฐกิจต่างๆ ของสหรัฐฯ มากกว่า โดยปัจจุบันมีปัจจัยเรื่องมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐของประธานาธิบดี โจ ไบเดน ที่อยู่ระหว่างพิจารณาต้องติดตาม

มองว่าระยะสั้นราคาทองคำมีโอกาสเป็นขาลงอยู่ หากหลุดระดับ1,800 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ในสัปดาห์หน้ามีโอกาสปรับฐานลงมาที่แนวรับใหม่ 1,700-1,750 บาทต่อออนซ์ น่าจะเป็นจุดรอเข้าซื้อรอบใหม่ คาดว่าน่าจะมีแรงซื้อกลับเข้ามาได้

แต่อย่างไรก็ตามในระยะยาว ยังมองเป็นราคาทองคำเป็นขาขึ้นได้ โดยประเมินกรอบราคาทองคำที่ระดับ2,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ด้านราคาทองในประเทศประเมินกรอบ 28,000-29,000 บาท จากปัจจัยมาตรการอัดฉีดเม็ดเงินของสหรัฐและเฟดยังไม่ปรับขึ้นดอกเบี้ยในปีนี้

นางสาวฐิภา นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (YLG) เปิดเผยว่า วาแนวโน้มราคาทองคำช่วงตรุษจีนปีนี้ คาดราคาในตลาดโลกยังแกว่งตัวแคบแม้มีแรงซื้อจากจีน-สิงคโปร์ แต่ยังมีปัจจัยกดดันจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่เริ่มแข็ง หลังมีความกังวลมาตรการกระตุ้นทางการคลังของโจ ไบเดน อาจต้องปรับลดวงเงิน คาดตรุษจีนปีนี้ราคาทองยังไปไม่ถึง 28,000 บาท

ขณะเดียวกันยังต้องงจับตาความสัมพันธ์จีน-สหรัฐในประเด็นความขัดแย้งจีน-ไต้หวัน ล่าสุดวายแอลจี ออกคอลเลกชั่นทองคำแท่งลายปีฉลูมหามงคลต้อนรับตรุษจีน ให้เลือกเป็นของขวัญตรุษจีนได้ทั้งแบบแท่ง หนัก 0.5 บาท และ 1 บาท รวมถึงแท่งจิ๋วบนการ์ดลวดลายใหม่น้ำหนักเพียง 0.5 กรัม และ 1 กรัม เพื่อให้คนจับต้องได้ง่ายขึ้น

แนวโน้มราคาทองคำ ประเมินว่า ทองคำมีสัญญาณปรับตัวลดลงในระยะสั้นหลังมีปัจจัยลบฉุด ทั้งราคาโลหะเงินดิ่งรับเหตุการณ์นักลงทุนรายย่อยดันราคาก่อนจะถูกสะกัดด้วยมาตรการเรียกหลักประกันเพิ่มส่งผลให้ราคาโลหะเงินปรับลดลง ขณะเดียวกันค่าเงินดอลลาร์สหรัฐกลับมาแข็งค่าหลังสหรัฐได้รับวัคซีนโควิด-19 ในอัตราสูงกว่าฝั่งสหภาพยุโรป

แนะใช้จังหวะทองพักฐานเข้าซื้อเพื่อทำกำไรจากการดีดตัวระยะสั้น สามารถเข้าทะยอยซื้อได้ ที่แนวรับ 1,818 -1,800 หรือประมาณ 25,800 - 25,550 บาทต่อบาททองคำ แนวต้านอยู่ที่ 1,856 -1,875 หรือ 26,400 -26,650 บาทต่อบาททองคำ ล่าสุดตามเทรนด์ตลาดโลกเพิ่มทางเลือกนักลงทุน เปิดให้บริการลงทุนในโลหะเงิน ผ่าน Silver Online Futures ชี้เป็นตลาดขนาดใหญ่ เหตุแร่เงินมีผู้ซื้อเพื่อนำไปใช้ในหลายอุตสาหกรรมทั้งชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ และเครื่องประดับทั่วโลก