'ตรุษจีน 2564' ได้ 'แต๊ะเอีย' ทำยังไงให้ยิ่งเพิ่มพูน
เทคนิคจัดการเงิน "อั่งเปา" ตรุษจีน 2564 สามทางเลือก ที่ช่วยต่อยอดความ "มั่งคั่ง" เพิ่มพูนคุณค่าแบบไม่สูญเปล่า
"ตรุษจีน 2564" ปีนี้ "วันเที่ยว" ตรงกับ 12 ก.พ. 64 ลูกหลานชาวจีนหรือ "ชาวไทยเชื้อสายจีน" เตรียมรับ "แต๊ะเอีย" จากญาติผู้ใหญ่ เป็นสิริมงคลรับปีใหม่
นอกจากการเก็บไว้สิริมงคล หรือขวัญถุง การรับทรัพย์แบบไม่ต้องลงแรงในยุควิกฤติเป็นเรื่องที่โชคดีไม่น้อย แต่จะดีแค่ไหนถ้าเราสามารถทำให้เงิน "แต๊ะเอีย" เพิ่มพูนขึ้น และเกิดประโยชน์สูงสุด
"กรุงเทพธุรกิจออนไลน์" ชวนไปดู 3 ทางเลือกเพิ่มพูนมูลค่า และคุณค่าของเงินแต๊ะเอีย ตามไลฟ์สไตล์ของแต่ละคน ที่ช่วยให้เงินแต๊ะเอียในปีนี้ของเราเป็นจุดเริ่มต้นความมั่งคั่งในชีวิตของเรา
ข่าวที่น่าสนใจ :
- ย้อนรอย 'ราคาทอง' ช่วง 'ตรุษจีน' 5 ปี สูงขึ้นเท่าไร?
- รู้จัก 'ไท้ส่วยเอี้ย' ประจำปี 2564 ก่อนแก้ชง 'ตรุษจีน'
- 5 ขั้นตอน 'แก้ชง' 2564 ให้ถูกต้อง พร้อมรู้วิธีแก้ชงที่บ้าน
- "เก็บออม" เพิ่มพูนทรัพย์
ทางเลือกสุดคลาสสิกที่หลายคนตั้งเป้าเมื่อได้รับ "แต๊ะเอีย" แต่น้อยคนที่จะเก็บได้อยู่มือ สำหรับคนที่เก็บเงินสดเก่ง การออมเงินสดหรือเก็บเงินไว้สำรองฉุกเฉินในบัญชีออมทรัพย์ในยุคนี้ ถือว่าเป็นทางเลือกที่ดีไม่น้อย โดยเฉพาะสำหรับใครที่ยังไม่มีเงินสำรองไว้ใช้ในช่วงฉุกเฉิน อาจใช้เงินก้อนนี้ตั้งต้นเป็นเงินสำรองที่ควรมี ประมาณ 3-6 เท่าของค่าใช้จ่ายต่อเดือน แต่สำหรับคนมีเงินสำรองฉุกเฉินมากพอแล้ว อาจใช้เงินก้อนนี้เป็นเงินออมเพื่อเป้าหมายอื่นๆ ในระยะสั้นๆ ได้
อย่างไรก็ตามการออมอาจไม่ใช่ทางเลือกสำหรับที่ต้องการให้เงินเเพิ่มพูนแบบเติบโตไปพร้อมกับกาลเวลา เนื่องการออมเงินตามปกติ เช่น เก็บเงินสด หรือฝากเงินในบัญชีออมทรัพย์ไว้เฉยๆ ในระยะยาว มูลค่าของเงินที่มีอยู่อาจจะมีมูลค่าลดลงเมื่อเวลาผ่านไป เนื่องจาก "เงินเฟ้อ" ซึ่งหมายถึงการที่เงินมีมูลค่าลดลง ณ เวลาหนึ่ง ซึ่งส่งผลให้จำนวนเท่าเดิม มีมูลค่าน้อยลงในอนาคตได้
ดังนั้น สำหรับใครก็ตามมีเงินออมอยู่พอสมควร แล้วอยากให้เงินส่วนอื่นๆ เติบโตชนะเงินเฟ้อที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคตได้ทัน อาจจะลองใช้ทางเลือกทำให้เงินเพิ่มพูนอื่นๆ ได้
บทความที่เกี่ยวข้อง:
- "ลงทุนสินทรัพย์" เพิ่มพูนความมั่งคั่ง
สำหรับคนที่อยากให้เงินเพิ่มพูนมากขึ้นจะต้องเสี่ยงมากขึ้นเช่นกัน โดยอาจเลือกใช้เงิน "แต๊ะเอีย" ไปกับเส้นทาง "การลงทุน" ที่ช่วยมีโอกาสได้รับผลตอบแทนมากขึ้นตามสภาวะตลาด ซึ่งสามารถลงทุนได้ด้วยเงินจำนวนไม่มาก เช่น
กองทุนรวม คือการซื้อหน่วยลงทุนในกองทุนรวม ที่มีการรวมเงินของเราและนักลงทุนรายย่อยคนอื่นๆ ไปลงทุนในสินทรัพย์ต่างๆ ตามนโยบายของกองทุน เพื่อสร้างผลตอบแทนตามความคาดหวัง การลงทุนในกองทุนรวมมีความเสี่ยงมากน้อยไปตามลักษณะการลงทุน โดยสามารถลงทุนผ่าน "บลจ." (บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน) รวมถึง "บลน." (บริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน) โดยไม่จำกัดจำนวนเงินลงทุนขั้นต่ำ 500 บาท 1,000 บาท ขึ้นอยู่กับนโยบายของแต่ละกองทุน
ทองคำ คือการทองคำแท่งหรือทองคำรูปพรรณเก็บไว้เพื่อเก็บเป็นสินทรัพย์ อาจมีมูลค่าลดลงหรือเพิ่มขึ้นในอนาคต ปัจจุบันมีห้างทองและตัวกลางต่างๆ ที่เปิดให้บริการ "ออมทอง" คือการซื้อใช้เงินซื้อทองสะสมโดยไม่ต้องใช้เงินก้อน แต่ใช้เงินก้อนเล็กๆ ซื้อทองสะสมไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนเงินที่ซื้อจะครบกับราคาทองคำน้ำหนักต่างๆ ที่อยากได้ และสามารถนำทองออกมาเก็บไว้ หรือขายออกเป็นเงินสดได้เมื่อราคาทอง ณ เวลานั้นๆ อยู่ในระดับที่พึงพอใจ
หุ้น การลงทุนในหุ้นเป็นการลงทุนที่มีความเสี่ยงสูง เนื่องจากเป็นการลงทุนในบริษัทใดบริษัทหนึ่งในฐานะของ "ผู้ถือหุ้น" คนหนึ่งของกิจการนั้นๆ โดยการเปลี่ยนแปลงของราคาหุ้นสามารถเปลี่ยนได้ตลอดเวลาที่มีการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ ตามความต้องการซื้อ (Demand) และความต้องการขาย (Supply) ที่ทำให้ได้ "กำไร" หรือ "ขาดทุน" ได้รายวินาทีกันเลยทีเดียว ซึ่งเกิดได้จากหลายปัจจัยที่เกี่ยวข้องที่ต้องศึกษาและทำความเข้าใจก่อนตัดสินใจลงทุน
ทั้งนี้ ปัจจุบันการลงทุนในหุ้นสามัญสามาสามารถเริ่มต้นลงทุนได้ด้วยเงินจำนวนน้อยๆ ตั้งแต่หลักร้อย และสามารถซื้อขายได้แบบเรียลไทม์ผ่านแอพพลิเคชั่น ซึ่งมีค่าธรรมเนียมต่ำลงกว่าในอดีตมาก อย่างไรก็ตาม "การลงทุน" ก็ย่อมมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลให้เข้าใจก่อนตัดสินใจลงทุน และลงทุนให้สอดคล้องกับเป้าหมายทางการเงินของตัวเอง
- "ลงทุนในตัวเอง" เพิ่มพูนอนาคต
ว่ากันว่า การลงทุนที่ไม่มีวันขาดทุน และให้ผลตอบแทนที่ดีที่สุดคือ "การลงทุนในตัวเอง" การแบ่งเงิน "แต๊ะเอีย" มาลงทุนในตัวเองบางส่วนจึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้เงินเพิ่มพูนในอนาคตได้
การลงทุนในตัวเอง ณ ทีนี้หมายถึงการพัฒนาตัวเองในมิติต่างๆ ที่จะใช้เงินเป็นตัวช่วยหรือไม่ก็ได้ เช่น การลงทุนในความรู้ อาจใช้วิธีซื้อคอร์สเรียนเพิ่มทักษะของตัวเองเพื่อต่อยอดอาชีพในอนาคต เพิ่มความรู้ด้านการลงทุน ที่ช่วยให้เข้าใจการลงทุนมากขึ้น มีโอกาสได้รับผลตอบแทนที่คาดหวังไว้ในอนาคต
การลงทุนด้านสุขภาพ รับประทานอาหารที่ดี ตรวจสุขภาพ ออกกำลังกาย ฯลฯ ที่ช่วยให้มีสุขภาพที่แข็งแรง ไกลโรค มีแรงสร้างความมั่งคั่งในมิติอื่นๆ ได้อีกนานๆ หรือแม้แต่การแบ่งเงินบางส่วนมาท่องเที่ยว หาประสบการณ์ใหม่ๆ ชาร์จแบตให้ตัวเอง หรือหาแรงบันดาลใจใหม่ๆ ที่ช่วยส่งเสริมให้งานหรือธุรกิจที่กำลังทำอยู่ต่อยอดไปในทิศทางที่ดีขึ้น ก็ถือเป็นการลงทุนในตัวเองอีกทางหนึ่งได้เช่นกัน
อย่างไรก็ตามใครที่ไม่มีเชื้อสายจีน ไม่มีแต๊ะเอีย ก็สามารถใช้แนวทางเหล่านี้เพิ่มพูนความมั่นคง มั่งคั่ง และอนาคต ของตัวเองได้เช่นกัน อาจเริ่มจัดสรรจากรายได้หรือเงินเดือนหรือโบนัสของตัวเอง โดยสิ่งสำคัญคือต้อง "เริ่มต้น" ลงทุนมือทำอย่างจริงจัง ก่อนที่เงินเหล่านี้จะถูกใช้ไปกับเรื่องที่ไม่ช่วยให้มันเพิ่มพูนขึ้น