บัตรเครดิตโค้งแรกปี 64 อ่วม ยอดใช้จ่ายวูบ15%
นอนแบงก์ซึม ยอดใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตติดลบ จากพิษโควิด-19 เคทีซีลั่นม.ค.ยอดใช้บัตรติดลบ 15% หวังทั้งปีพลิกบวก8% ขณะที่กรุงศรี อีออนเร่งปรับกลยุทธ์เพิ่มยอดใช้บัตร ไปสู่ฐานลูกค้าเงินเดือนสูงเกิน 5 หมื่น และเจาะกลุ่มข้าราชการ-การแพทย์
นางพิทยา วรปัญญาสกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธุรกิจบัตรเครดิต บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด(มหาชน) (KTC) กล่าวว่า หากดูยอดการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต ต้นปี 2564 ในเดือนม.ค. ติดลบราว 15%
. ซึ่งปรับลดลงมาก หากเทียบกับธ.ค. 2563 ที่ผ่านมา ที่ยอดการใช้จ่ายผ่านบัตรกลับมาสู่ระดับปกติ ใกล้เคียงกับช่วงธ.ค.ปีก่อนหน้าแล้ว เนื่องจากผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา สายพันธ์ุใหม่ หรือโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบทำให้ผู้บริโภคหยุดการใช้จ่าย ระมัดระวังในการใช้จ่ายมากขึ้น
ทั้งนี้คาด ว่าแนวโน้มการใช้จ่ายผ่านบัตรเดือนก.พ. น่าจะติดลบเช่นเดียวกัน แม้จะมีเทศกาลตรุษจีน แต่การใช้จ่ายไม่ได้คึกคักมากนัก ดังนั้นคาดว่ายอดใช้จ่ายน่าจะกลับมาฟื้นได้หลังเม.ย.หรือหลังไตรมาส2 ไปแล้ว
อย่างไรก็ตาม แม้จะยังมีผลกระทบจากโควิด-19 อยู่ แต่บริษัทคาดว่าปีนี้ ยอดบัตรใหม่ น่าจะกลับมาเติบโตได้ โดยตั้งเป้าบัตรใหม่ปีนี้ที่2.3 แสนบัตร และคาดว่า ยอดการใช้จ่ายผ่านบัตรจะกลับมาพลิกเป็นบวกราว 8% จากปีก่อนที่ติดลบราว 7.7% เนื่องจากมองว่าผลกระทบโควิด-19ปีนี้น่าจะน้อยลงหากเทียบกับปีก่อน
“ภายใต้ยอดการอนุมัติบัตรที่มีแนวโน้มต่ำลง มาอยู่ที่ระดับ 34% หากเทียบกับปีก่อนที่ยอดอนุมัติอยู่ที่ 43%ดังนั้นเราต้องทำให้พอร์ตของเราให้แข็งแรงไว้ก่อน คือปรับกลยุทธ์ไปสู่ออนไลน์ ฟู้ดดิลิเวอรี่มากขึ้นและแอฟทีฟโปรโมชั่นทางการตลาดที่ใกล้ชิดคนใช้บัตรมากขึ้น เพื่อให้เข้าเกิดการใช้บัตรเพิ่มขึ้นในปีนี้”
นายสมหวัง โตรักตระกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัท บัตรกรุงศรีอยุธยา กล่าวว่า ในด้านยอดการใช้จ่ายผ่านบัตรของกรุงศรี เดือนม.ค. ติดลบราว 7-8% จากการที่ลูกค้ามีการระมัดระวังการใช้จ่ายมากขึ้น แต่คาดว่าหลังจากเริ่มเห็นผลกระทบโควิด-19 ลดลง จะเริ่มเห็นยอดการใช้จ่ายเริ่มกลับมาฟื้นตัวมากขึ้น เนื่องจากการเปิดห้าง หรือการท่องเที่ยวเริ่มกลับมาค่อยๆฟื้นตัวต่อเนื่อง
ดังนั้นคาดว่า ยอดใช้จ่ายผ่านบัตรปีนี้ จะมาบวกได้ราว 5-6% จากสิ้นปีก่อนที่ติดลบราว 10% โดยเฉพาะการใช้จ่ายออนไลน์ที่คาดจะกลับมาเติบโตขึ้น จากปีก่อนที่เติบโตได้ไม่ต่ำกว่า 40%
นอกจากนี้ ปีกนี้บริษัทตั้งเป้าคุมเอ็นพีแอลไม่ให้เกินที่ระดับ 1.1% โดยการปรับกลยุทธ์มุ่งไปสู่ฐานลูกค้าเงินเดือนสูง เกิน 50,000 บาทต่อเดือนมากขึ้น จากเดิมที่ในพอร์ตส่วนใหญ่มีลูกค้าที่มีเงินเดือนต่ำกว่า 3 หมื่นบาทค่อนข้างมาก
ด้านนายนันทวัฒน์ โชติวิจิตร กรรมการบริหาร บริษัท อิออน ธนสินทรัพย์ (ไทยแลนด์) กล่าวว่า หากดูยอดการใช้จ่ายผ่านบัตรในช่วงต้นปี พบว่า ยังไม่กลับมา โดยยอดการใช้จ่ายบัตรยังอยู่ในทิศทางทรงๆตัวและมีโอกาสติดลบได้ จากผลกระทบจากโควิด-19 ส่วนการใช้จ่ายผ่านบัตรปี 2564 คาดว่ามีโอกาสกลับมาเติบโตได้หลักเดียว จากก่อนหน้าที่จะเจอโควิด-19ที่การใช้จ่ายผ่านบัตรเติบโตได้ต่อเนื่องระดับ 2 หลัก
ทั้งนี้จากผลกระทบจากโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบทำให้ผู้บริโภคมีรายได้ลดลง บริษัทจึงปรับกลยุทธ์ไปเน้นเจาะฐานลูกค้าข้าราชการมากขึ้น เพราะกลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่ไม่ได้รับผลกระทบด้านรายได้ รวมถึงแรงงานในอุตสาหกรรมการแพทย์ เพื่อรักษาฐานการใช้จ่ายผ่านบัตรของบริษัทให้สามารถเติบโตได้ต่อเนื่อง
นอกจากนี้ การรุกเพิ่มฐานลูกค้ากลุ่มดังกล่าว ยังช่วยดูแลด้านคุณภาพหนี้เสียให้อยู่ในระดับที่บริหารจัดการได้ง่ายมากขึ้น โดยบริษัทปีนี้บริษัทตั้งเป้าคุมหนี้เสียให้อยู่ระดับใกล้เคียงเดิมที่ราว 3% ต้นๆ