ศบค.ถก19 มี.ค.ผ่อนคลายแง้มประเทศมากขึ้น
ศบค.ถก19 มี.ค.แง้มประเทศมากขึ้น แบ่ง 3 ระยะ ยกเลิกพรก.ฉุกเฉิน-ผ่อนคลายมาตรการต่างชาติเข้าไทย-ใช้ประกาศนียบัตรวัคซีน ระหว่างรอฮูกำหนดมาตรฐานวัคซีนพาสปอร์ต ส่วนติดเชื้อรายใหม่ 71 ราย
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 8 มี.ค.2564 ที่ทำเนียบรัฐบาล พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19(ศบค.) แถลงสถานการณ์โควิด-19ว่า มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 71 ราย พบจากระบบเฝ้าระวัง 41 รายในจ. สมุทรสาคร 34 ราย กทม. 1 ราย ปทุมธานี 1 ราย ปราจีนบุรี 3 ราย ตาก 2 ราย ค้นหาเชิงรุกในชุมชน 7 ราย ในจ.สมุทรสาคร 6 ราย ปทุมธานี 1 ราย และเดินทางมาจากต่างประเทศ 23 ราย ผู้ติดเชื้อสะสม 26,441 ราย เสียชีวิตสะสม 85 คน เฉพาะระลอกใหม่ 22,204 ราย เสียชีวิตสะสม 25 คน
ไม่เลื่อนสอบ
พญ.อภิสมัย กล่าวอีกว่า ที่ประชุมศบค.ชุดเล็กมีการพิจารณา สิ่งในส่วนของการสอบต่างๆของนักเรียนที่จะเริ่มมีขึ้นตั้งแต่เดือนมี.ค.เป็นต้นไปนั้น โดยเมื่อวันที่ 5 มี.ค.2564 ในส่วนของกระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.) มีการหารือในเรื่องนี้ และได้คงการสอบตามวันที่กำหนดซึ่งจะเกิดขึ้น ใน 77 จังหวัดและหลายสนามสอบ ซึ่งแต่ละแห่งจะมีผู้เข้าสอบ 100-1,000 คน จึงได้เน้นย้ำไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดต่างให้เข้มงวดมาตรการป้องกันการแพร่กระจายเชื้อตามที่กระทรวงสาธารณสุข(สธ.กำหนด ) เช่น การจัดห้องเข้าสอบไม่เกิน ห้องละ 30 คน เพื่อให้สนามทุกแห่งมีมาตรฐานเดียวกัน และขอความร่วมมือทุกฝ่ายปฏิบัติตามมาตรตการ
ถก 19 มี.ค.ผ่อนคลาย 3 ระยะ
พญ.อภิสมัย กล่าวด้วยว่า ศบค.ชุดเล็กยังได้หารือเรื่องการกำหนดมาตรการผ่อนคลายในภาคส่วนอื่นๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ภาคสังคมและเศรษฐกิจต้องมีการขับเคลื่อน ซึ่งนายกรัฐมนตรีเน้นย้ำเสนอให้มีมาตรการผ่อนคลายมากขึ้น โดยจะมีการนำเสนอเข้าสู่การพิจารณาของศบค.ชุดใหญ่ในวันที่ 19 มี.ค.2564 กำหนดเป็น 3 ระยะ คือ ระยะที่ 1 ตั้งแต่ 1 เม.ย.2564 จะนับจำนวนผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนทั้งประเทศ ตั้งแต่ 28 ก.พ. 2564 โดยศบค.จะเสนอแผนการผ่อนคลายมาตรการให้สอดคล้องกับสถานการร์การฉีดวัคซีนที่เกิดขึ้นภายในประเทศ อาจพิจารณาปรับระดับพื้นที่ปรับสีพื้นที่ รวมถึง หารือกรณีชาวต่างประเทศที่จะเดินทางเข้ามาในประเทศไทย อาจจะมีการผ่อนคลายกระบวนการเข้าสู่ราชอาณาจักร การกำหนดการกักตัว การใช้พรก.ฉุกเฉินอาจจะมีการเสนอใช้ ถึง 31 พ.ค.2564 จากนั้นให้ใช้พรบ.โรคติดต่อ พ.ศ.2558
ระยะที่ 2 ตั้งแต่ 1 มิ.ย.เป็นต้นไป มีการนำเสนอกรณีผู้ที่เดินทางจากต่างประเทศ ถ้าได้วัคซีนแล้วจะมีกระบวนการอย่างไร กักตัวนานแค่ไหน รายละเอียดเป็นอย่างไร อาจมีการเปลี่ยบนแปลงแตกต่าง ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่คนไทยได้รับวัคซีนมากยิ่งขึ้น จะทำให้มีภูมิคุ้มกันมากขึ้น อาจทำให้การกักตัวชาวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทยมีการผ่อนคลายมากขึ้น
และระยะ 3 ตั้งแต่ 1 ต.ค. 2564 มีการผ่อนคลายมากขึ้น โดยสธ.มีการทบทวนมาตรการการผ่อนคลายต่างๆทั้งสถานการณ์ในประเทศและบุคคลเดินทางเข้าประเทศ และสอดคล้องกับการกระจายวัคซีนที่เกิดขึ้น ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศ(กต.)มีการหารือเรื่องวัคซีนพาสปอร์ตสำหรับอนาคตถ้ามีการเปิดประเทศ เพื่อเป็นการแสดงตัวตนว่าฉีดวัคซีนแล้ว สามารถเดินทางเข้าได้ตามมาตรการแต่ละประเทศกำหนด แต่ต้องรอมาตรฐานเดียวกันทั่วโลกที่ออกโดยองค์การอนามัยโลก(ฮู)ด้วย แต่ระหว่างนี้สามารถกำหนดเป็นประกาศนียบัตร ให้กับผู้ที่ได้รับวัคซีนถูกต้องตามมาตรฐานองค์การอนามัยโลก จนเมื่อมีวัคซีนพาสปอร์ตเป็นมาตรฐานโลกก็ปรับเปลี่ยนประกาศนีบัตรให้ตรงมาตรฐานโลกได้ทันที