‘วัคซีนโควิด19’ของ’แอสตร้าเซนเนก้า’ผ่านตรวจสอบพร้อมฉีด ‘นายกฯ’
‘วัคซีนโควิด19’ ของ’แอสตร้าเซนเนก้า’ผ่านตรวจสอบจากกรมวิทย์ พร้อมฉีด ‘นายกฯ’ 12มี.ค.นี้ สธ.ห่วงการชุมนุมของเมียนมาในไทย หวั่นเกิดการแพร่ระบาดโควิด 19 ระลอกใหม่ หลังสถานการณ์ในไทยดีขึ้น ขณะที่ 5 จังหวัดฉีดวัคซีนล็อตแรกเข็มแรกครบ 100 %
เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 11 มี.ค.2564 ที่กระทรวงสาธารณสุข นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ภายหลังการรับมอบับมอบตู้เก็บวัคซีน และอุปกรณ์ Monitoring ให้แก่สถานพยาบาลของรัฐ 77 จังหวัด มูลค่า 3,927,000 บาท จากสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ร่วมกับกลุ่มอุตสาหกรรมไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์และโทรคมนาคม กลุ่มอุตสาหกรรมเครื่องปรับอากาศและเครื่องทำความเย็น และเครือข่ายภาคเอกชนว่า "วัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า" มีการรับรองคุณภาพความปลอดภัยมาแล้ว แต่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ได้มีการตรวจสอบคุณภาพของรุ่นการผลิตอีกครั้ง ซึ่งได้รับรายงานว่าผ่านการตรวจสอบแล้ว
“ในวันที่ 12 มี.ค.นี้ จึงมีความพร้อมที่จะฉีดให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม โดยได้เรียนเชิญศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยมาดำเนินการฉีด ณ สถาบันบำราศนราดูร กรมควบคุมโรค เพราะมีความพร้อมที่จะให้บริการอย่างเต็มที่อยู่แล้ว เพราะเป็นสถานพยาบาลที่ให้บริการฉีดวัคซีนป้องกันโรค "โควิด19"กับประชาชนที่เป็นกลุ่มเป้าหมายอยู่แล้ว ทั้งสถานที่ ห้องสังเกตอาการ อุปกรณ์การแพทย์ต่างๆ และบุคลากร”นายอนุทินกล่าว
นายอนุทิน กล่าวอีกว่า สำหรับคณะรัฐมนตรี(ครม.)ประมาณ 36 คน นายกฯได้สั่งการให้เข้ารับการฉีด"วัคซีนโควิด19" เพื่อเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับประชาชน โดยแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มผู้ที่มีอายุมากกว่า 60 ปีขึ้นไป จะได้รับ"วัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า" และผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 60 ปี จะได้รับวัคซีนของซิโนแวค ทั้งนี้ การฉีดวัคซีนจะต้องเป็นไปตามความสมัครใจหากใครไม่ประสงค์จะรับวัคซีนก็ไม่สามารถจะไปบังคับอะไรได้ แต่การฉีดวัคซีนมีความปลอดภัยส่วนตัวที่รับวัคซีนตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ. ที่ผ่านมาก็เป็นปกติดีไม่มีอาการข้างเคียงและจะเข้ารับการตรวจหาภูมิคุ้มกันอีกครั้งในสัปดาห์หน้า
"วัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า"มีคุณภาพ
นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวว่า สถาบันชีววัตถุได้รับข้อมูลการผลิตและการควบคุมของ"วัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า"รุ่นที่นำเข้าเมื่อวันที่ 4 มี.ค. 2564 ได้เร่งดำเนินการพิจารณาข้อมูลการผลิตและการควบคุมคุณภาพในทุกขั้นตอนสำคัญ ตั้งแต่เชื้อไวรัสตั้งต้นจนถึงวัคซีนสำเร็จรูป พบว่ามีกระบวนการผลิตและคุณภาพสอดคล้องตามที่ได้ขึ้นทะเบียนไว้กับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา(อย.) โดยกระบวนการรับรองรุ่นการผลิตนี้เป็นไปตามข้อแนะนำขององค์การอนามัยโลก หรือฮู นอกจากนี้ยังได้มีการตรวจวิเคราะห์ตัวอย่าง ทางห้องปฏิบัติการเพิ่มเติม จึงมั่นใจได้ว่าวัคซีนจากแอสตร้าเซนเนก้ารุ่นการผลิตที่นำเข้ามาใช้นี้มีคุณภาพ และความปลอดภัยเป็นไปตามมาตรฐาน
ปิดรพ.สนาม 7 แห่ง
นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) กล่าวว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค"โควิด 19" ใน จ.สมุทรสาคร มีแนวโน้มที่ดีขึ้น สามารถควบคุมได้ ส่งผลให้ช่วงนี้พบผู้ติดเชื้อโดยเฉลี่ย 30-50 รายต่อวัน จึงเริ่มมีการผ่อนปรนมาตรการต่างๆ รวมถึงลดจำนวนเตียงในโรงพยาบาลสนาม จากเดิมต้องใช้ดูแลผู้ติดเชื้อที่เป็นแรงงานต่างชาติ ปัจจุบันเริ่มว่างลงมาก มีการใช้งานจริง 120 เตียง ทำให้มีเตียงที่ไม่ได้ใช้งานเกินความจำเป็น จึงได้หารือกับนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดในการวางแผนปิดโรงพยาบาลสนามจำนวน 7 แห่ง จำนวน 2,227 เตียง จากทั้งหมด 10 แห่ง รวม 4,127 เตียง เพื่อให้นำสถานที่ไปใช้งานให้เกิดประโยชน์ตามปกติ ส่วนอีก 3 แห่ง รวม 1,900 เตียงสำรองไว้เผื่อเกิดสถานการณ์ฉุกเฉิน หากไม่มีความจำเป็นต่อการใช้งานจะมีการปิดเพิ่มซึ่งต้องดูตามสถานการณ์ต่อไป
หวั่นเกิด"โควิด19"ระลอกใหม่
นพ.เกียรติภูมิ กล่าวด้วยว่า จากเหตุการณ์การชุมนุมของชาวเมียนมาในประเทศไทย ที่บริเวณหน้าองค์การสหประชาชาติประจำประเทศไทย (UN) ซึ่งมีการนัดรวมตัวกันเป็นประจำทุกสัปดาห์สร้างความกังวลใจให้กับคนไทยเป็นอย่างมาก เกรงว่าจะก่อให้เกิดการติด"โควิด 19" และการระบาดตามมาได้ เนื่องจากพบว่าผู้ร่วมชุมนุมเป็นชาวเมียนมาที่เดินทางมาจากหลายพื้นที่ที่ยังมีการแพร่ระบาดของ"โควิด 19" รวมถึงจ.สมุทรสาคร ซึ่งมาตรการสำคัญหนึ่งที่ช่วยให้การควบคุมโรคได้ผลดี คือ การห้ามเคลื่อนย้ายแรงงานออกนอกพื้นที่ทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดโรคเป็นวงกว้าง
“จากการติดตามสถานการณ์การชุมนุม พบว่า มีการรวมตัวของผู้คนเป็นจำนวนมาก มีการตะโกน พูดคุยกันใกล้ชิด โดยไม่ได้ป้องกันตัวเองที่เพียงพอ ทั้งการเว้นระยะห่าง การสวมหน้าอนามัย/หน้ากากผ้า อีกทั้งการที่แรงงานชาวเมียนมาออกนอกพื้นที่ ที่ยังมีการระบาดของโรคร่วมชุมนุม อาจทำให้เกิดการแพร่ระบาดของโรค"โควิด 19" ระลอกใหม่ได้ ต้องขอความร่วมมือนายจ้าง ผู้ประกอบการ ทำความเข้าใจกับแรงงานของตน ว่าการชุมนุมและการออกนอกพื้นที่ผิดกฎหมาย ที่สำคัญคือความเสี่ยงเกิดโรคระบาดในประเทศ ดังนั้น ขอแจ้งเตือนให้ทุกคนร่วมมือกันเคร่งครัดมาตรการป้องกันตนเอง การ์ดอย่าตก แม้จะเริ่มมีการทยอยฉีดวัคซีนในประเทศไทยแล้ว” นพ.เกียรติภูมิ กล่าว
ติด "โควิด19"ใหม่ 58 ราย
ต่อมาเวลา 15.00 น. ที่กระทรวงสาธารณสุข ในการแถลงสถานการณ์โควิด19 นพ.เฉวตสรร นามวาท รักษาราชการแทนผู้อำนวยการกองควบคุมโรคและภัยสุขภาพในภาวะฉุกเฉิน กรมควบคุมโรค กล่าวว่า ผู้ติดเชื้อรายใหม่ 58 ราย พบจากระบบเฝ้าระวังและบริการ 17 ราย ในจ.ประจวบคีรีขันธ์ 1 ราย นนทบุรี 1 ราย สมุทรสาคร 12 ราย กรุงเทพมหานคร(กทม.) 2 ราย ราชบุรี 1 ราย จากการคัดกรองเชิงรุก 36 รายในจ.กทม. 10 ราย สมุทรสาคร 26 ราย และผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ 5 ราย ผู้ติดเชื้อสะสม 26,598 ราย เสียชีวิตสะสม 85 ราย เฉพาะระลอกใหม่ ติดเชื้อ สะสม 22,361 ราย และผู้เสียชีวิตสะสม 25 ราย
ฉีด"วัคซีนโควิด19"แล้ว 36,797 ราย
นพ.เฉวตสรร กล่าวอีกว่า ผลการฉีด "วัคซีนโควิด19" ตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ.-10 มี.ค.2564 มีผู้ได้รับสะสม 36,797 ราย แยกเป็น บุคลากรการแพทย์/สาธารณสุข รวมอสม. 27,984 ราย เจ้าหน้าที่อื่นๆที่มีโอกาสสัมผัสผู้ป่วย 7,718 ราย บุคคลที่มีโรคประจำตัว 680 ราย และประชาชนในพื้นที่เสี่ยง 415 ราย ส่วนการเฝ้าระวังอาการไม่พึงประสงค์หลังการรับวัคซีน ส่วนใหญ่เป็นอาการไม่รุนแรง ไม่จำเป็นต้องใช้ยา ไม่ต้องนอนรักษาในรพ. ส่วนที่มีความรุนแรงที่ต้องเข้าเกณฑ์การสอบสวนโรคนั้น เมื่อวันที่ 10 มี.ค. ไม่มีรายงาน แสดงว่าเป็นวัคซีนที่มีความปลอดภัย
5 จ.ฉีดเข็มแรกครบ 100 %
นพ.เฉวตสรร กล่าวด้วยว่า จำนวนผู้รับวัคซีนโควิด19 สะสมรายจังหวัดใน 13 จังหวัดที่เป็นการจัดสรรในล็อตแรก พบว่า 1.เชียงใหม่ จัดสรร 3,520 โดส ผู้ได้รับวัคซีนเข็มแรกแล้ว 96.5 %ของกลุ่มเป้าหมาย ตาก จัดสรร 5,000 โดส ฉีดแล้ว 75 % นนทบุรี จัดสรร 6,000 โดส ฉีดแล้ว 89.3% ปทุมธานี จัดสรร 8,000 โดส ฉีดแล้ว 61.7% สมุทรสาคร จัดสรร 35,080 โดส ฉีดแล้ว 33.8% นครปฐม จัดสรร 3,560 โดส ฉีดแล้ว 97.5% สมุทรปราการ จัดสรร 6,000 โดส ฉีดแล้ว87.7% กรุงเทพฯ จัดสรร 33,600 โดส ฉีดแล้ว 11.8 % ส่วนจ.ชลบุรี จัดสรร 4,720 โดส ภูเก็ต จัดสรร 4,000 โดส สุราษฎร์ธานี จัดสรร 2,520 โดส สมุทรสงคราม จัดสรร 2,000 โดส ราชบุรี จัดสรร 2,520 โดส ทั้ง 5 จังหวัดฉีดครบ 100 % แล้ว