ส่อง IPO 'เงินติดล้อ' รายได้-กำไรเท่าไหร่ ราคาหุ้นแพงไหม?
ส่องว่าที่หุ้นน้องใหม่ "เงินติดล้อ" จ่อขาย IPO ปลายเดือน เม.ย.นี้ ผลงานย้อนหลัง "รายได้-กำไรสุทธิ" แข็งแกร่งไหม ราคาหุ้นแพงไปหรือไม่ หากเทียบกับคู่แข่งในตลาด?
กลายเป็นประเด็นร้อนช่วงวันหยุดสงกรานต์ หลัง บริษัท เงินติดล้อ จำกัด (มหาชน) หรือหุ้น TIDLOR ประกาศแผนขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนแก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) วันที่ 22-26 เม.ย.นี้! พร้อมเปิดเผยช่วงราคาขายระหว่าง 34.00-36.50 บาทต่อหุ้น แถมเปิดให้รายย่อยจองซื้อผ่านช่องทางออนไลน์ด้วยเงินขั้นต่ำ 36,500 บาท
แม้แบรนด์ "เงินติดล้อ" จะเป็นที่คุ้นเคย แต่นักลงทุนควรศึกษาข้อมูลในอดีต รวมถึงโอกาสการเติบโตในอนาคตของบริษัทก่อนตัดสินใจลงทุน โดย TIDLOR จะจัดโรดโชว์นำเสนอข้อมูลแก่สื่อมวลชนและนักลงทุนในวันพรุ่งนี้ (16 เม.ย.) เวลา 09.30 – 11.50 น. ผ่านการถ่ายทอดสดเฟซบุ๊กเพจ https://www.facebook.com/ngerntidlor
สำหรับผลการดำเนินงานย้อนหลัง จากข้อมูลในหนังสือชี้ชวน (ไฟลิ่ง) พบว่า รายได้ของบริษัทฯ ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา (2561-2563) อยู่ที่ 7,569.4 ล้านบาท 9,457.9 ล้านบาท และ 10,558.9 ล้านบาท ตามลำดับ ขณะที่กำไรสุทธิในช่วงเวลาเดียวกันอยู่ที่ 1,306.2 ล้านบาท 2,201.7 ล้านบาท และ 2,416.1 ล้านบาท ตามลำดับ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
ส่วนการกำหนดช่วงราคาเสนอขายที่ 34.00-36.50 บาทต่อหุ้น แพงไปหรือไม่? หากพิจารณากำไรสุทธิของบริษัทฯ ในช่วง 12 เดือนย้อนหลัง (ตั้งแต่ 1 ม.ค. - 31 ธ.ค.2563) ที่ 2,416.1 ล้านบาท หารด้วยจำนวนหุ้นสามัญทั้งหมดจำนวน 2,318,984,570 หุ้น (Fully Diluted) (บนสมมติฐานว่ามีการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนทั้งจำนวน 212,951,549 หุ้น) จะได้กำไรสุทธิต่อหุ้น (Earnings Per Share) เท่ากับ 1.04 บาทต่อหุ้น และอัตราส่วนราคาหุ้นต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (Price to Earnings Ratio: P/E) ประมาณ 32.60–35.00 เท่า
เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการประเมินราคาหุ้น บริษัทฯ ได้เปรียบเทียบอัตราส่วน P/E ของบริษัทฯ เทียบเคียงที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยและต่างประเทศ ที่มีลักษณะการประกอบธุรกิจที่คล้ายคลึงหรือใกล้เคียงกันกับธุรกิจการให้สินเชื่อของบริษัทฯ จำนวน 10 บริษัท และธุรกิจนายหน้าประกันวินาศภัยและประกันชีวิตของบริษัทฯ จำนวน 5 บริษัท เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการประเมินราคาหุ้นที่เสนอขาย โดยมีรายละเอียดดังนี้