จัดตั้งธุรกิจใหม่เดือนมี.ค.ทุบสถิติ ทะลุ 8,841 ราย

จัดตั้งธุรกิจใหม่เดือนมี.ค.ทุบสถิติ ทะลุ 8,841 ราย

กรมพัฒนาธุรกิจการค้า เผย ยอดจัดตั้งธุรกิจใหม่เดือน มี.ค.จำนวน 8,841 ราย เพิ่มขึ้น 46 % ทำสถิติสูงที่สุดตั้งแต่เริ่มมีการจดทะเบียนจัดตั้งนิติบุคคล หลังคนมั่นใจเศรษฐกิจฟื้น  จับตาโควิดรอบใหม่อาจกระทบจัดตั้งธุรกิจใหม่เดือนเม.ย.

นายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า  เปิดเผยว่า   การจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจเดือนมี.ค. 2564 มีการจดทะเบียนจัดตั้งใหม่จำนวน 8,841 ราย เพิ่มขึ้น 46 % ทำสถิติสูงที่สุดตั้งแต่เริ่มมีการจดทะเบียนจัดตั้งนิติบุคคล โดย มีมูลค่าทุนจดทะเบียนจำนวน 19,426.89 ล้านบาท   ลดลง 21%  บริษัทตั้งใหม่สูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป จำนวน 667 ราย คิดเป็น 8% รองลงมา คือ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ จำนวน 366 ราย คิดเป็น 4% และอันดับ 3 คือ ธุรกิจบริการด้านอาหารในภัตตาคาร ร้านอาหาร จำนวน 232 ราย คิดเป็น 3% ตามลำดับ ส่วนยอดรวมธุรกิจจัดตั้งใหม่ ไตรมาสแรก ปี 44 (ม.ค-มี.ค.)มีจำนวน 23,389 ราย เทียบกับไตรมาสที่ 1ของปี 2563 เพิ่มขึ้นถึง 20%

สำหรับจำนวนธุรกิจเลิกประกอบกิจการ เดือนมี.ค. 2564 มีจำนวน 790 ราย มีมูลค่าทุนจดทะเบียนจำนวน 5,550.37 ล้านบาท ซึ่งสอดคล้องกับแนวโน้มการเลิกกิจการในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา   โดยธุรกิจเลิกประกอบกิจการสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ จำนวน 68 ราย คิดเป็น 9% รองลงมาคือ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป จำนวน 67 ราย คิดเป็น 8% และธุรกิจภัตตาคาร/ร้านอาหาร จำนวน 31 ราย คิดเป็น 4% ตามลำดับ  

  161899794332               

นายทศพล กล่าวว่า  การเพิ่มขึ้นของจำนวนการจดทะเบียนนิติบุคคลจัดตั้งใหม่ในไตรมาสแรกของปี มีผลมาจากปัจจัยหนุนด้านเศรษฐกิจที่มีสัญญาณฟื้นตัว โดยดัชนีราคาผู้บริโภคในเดือนมี.ค. 64 ของสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้าหดตัวน้อยที่สุดในรอบ 13 เดือน และดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจในเดือนมี.ค. 64 ของธนาคารแห่งประเทศไทย ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้า 9.87% รวมทั้งนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจที่มีออกมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้สถานการณ์และผู้ประกอบการมีความมั่นใจในการเริ่มฟื้นตัวของเศรษฐกิจมากยิ่งขึ้น

นอกจากนี้การเพิ่มขึ้นของจำนวนการจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจส่วนหนึ่งมีสาเหตุมาจากนโยบายการผลักดันให้วิสาหกิจ
ชุมชนจดทะเบียนเป็นนิติบุคคลของภาครัฐ แต่ขณะเดียวกันธุรกิจบางประเภทมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นสอดรับกับ
พฤติกรรมของประชาชนที่เปลี่ยนแปลงไปจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 เช่น ธุรกิจการขายปลีก
ทางอินเตอร์เน็ตในไตรมาสที่ 1 มีจำนวนจัดตั้งใหม่ 1,987 ราย เพิ่มขึ้น 72% เทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้า
และธุรกิจขายส่งสินค้าทางเภสัชภัณฑ์และทางการแพทย์ในไตรมาสที่ 1 มีจำนวนจัดตั้งใหม่ 1,224 ราย เพิ่มขึ้น 44%
เทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้า        

              

อย่างไรก็ตามในช่วงต้นเดือนเม.ย.ที่ผ่านมามีสถานการณ์การแพร่ระบาดที่กลับมารุนแรงอีกครั้งเป็นปัจจัยที่สำคัญที่ส่งผลต่อความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจและธุรกิจ อาจส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการทั้งความเชื่อมั่นในการดำเนินธุรกิจและสถานการณ์เศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ ซึ่งจะต้องมีการติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดต่อไป