กทม.สั่งมาตรการป้องกัน 'โควิด' รับโรงเปิดเทอม '5 On' 1 มิ.ย.นี้
กทม.สั่งโรงเรียนในสังกัด เตรียมมาตรการป้องกัน "โควิด" รับเปิดเทอมรูปแบบ "5 On" วันที่ 1 มิ.ย.นี้
วันที่ 13 พ.ค. นายเกรียงยศ สุดลาภา รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร(กทม.) เป็นประธานเปิดการประชุมออนไลน์ การขับเคลื่อนนโยบายด้านการศึกษาสู่การปฏิบัติ ร่วมกับนายขจิต ชัชวานิชย์ รองปลัดกรุงเทพมหานคร นายเกรียงไกร จงเจริญ ผู้อำนวยการสำนักการศึกษา ผู้บริหารสำนักการศึกษา ผู้แทนสำนักอนามัย ที่ห้องนพรัตน์ ชั้น 5 ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (เสาชิงช้า) เขตพระนครผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอร์เรนซ์ โดยมีผู้เข้าร่วมประชุมทั้งสิ้น 600 คน เพื่อให้ผู้ปฏิบัติงานด้านการศึกษารับทราบแนวทางการปฏิบัติงาน และเตรียมความพร้อมเปิดภาคเรียน ปีการศึกษา 2564 ในวันที่ 1 มิ.ย.2564
นายเกรียงยศ กล่าวว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิดจึงได้เลื่อนการเปิดภาคเรียนที่ 1/2564 จากวันที่ 17 พ.ค. เป็นวันที่ 1 มิ.ย. แต่เพื่อไม่ให้กระทบต่อจัดการเรียนการสอนและการเรียนรู้ของผู้เรียน จะมีการปรับเปลี่ยนนโยบายให้สอดคล้องกับสถานการณ์ตามที่เคยดำเนินการจัดการเรียนการสอนแบบ New Normal มาแล้ว สำหรับการเรียนการสอน โรงเรียนจะมีการจัดการเรียนการสอนชดเชยให้ครบตามหลักสูตรภายหลัง จากเปิดการเรียนการสอนแล้ว โดยจะสอนชดเชยที่โรงเรียน หรือผ่านช่องทางต่างๆ ตามความพร้อมของผู้เรียนในช่องทางใดช่องทางหนึ่ง หรือผสมผสานกันในรูปแบบ 5 On ได้แก่
1.On Line ผ่านช่องทางออนไลน์ต่าง ๆ 2.On Air ทางโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม เช่น DLTV 3.On Hand จัดส่งหนังสือ แบบเรียน แบบฝึกหัด หรือใบงานที่โรงเรียนจัดทำขึ้นไปยังนักเรียนผ่านผู้ปกครอง 4.On Site จัดการเรียนเป็นกลุ่มเล็กๆ และเรียนในสถานที่ที่ปลอดภัย และ 5.On School Line โดยใช้ช่องทางกรุ๊ปไลน์แต่ละห้องเรียนติดต่อสื่อสารระหว่างครูประจำชั้นกับผู้ปกครองและนักเรียนรวมทั้งใช้เป็นช่องทางมอบหมายงาน หรือส่งการบ้าน
นายเกรียงยศ กล่าวอีกว่า ด้านความปลอดภัยในโรงเรียน ให้โรงเรียนสำรวจวัสดุอุปกรณ์ต่าง ๆ เช่น CCTV อุปกรณ์ในห้องเรียนเครื่องวัดอุณหภูมิ น้ำยาทำความสะอาดฆ่าเชื้อโรค เป็นต้น พร้อมเพิ่มความเข้มข้นมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิดในโรงเรียนสังกัด กทม.โดยเน้นย้ำให้ทุกคนสวมหน้ากากอนามัย 100% เพิ่มความถี่ในการทำความสะอาดพื้นที่ส่วนรวมในโรงเรียนอาทิ สนามเด็กเล่น ห้องน้ำ ลูกบิดประตู อาคารสถานที่ และบริเวณโรงเรียนโดยสม่ำเสมอและต่อเนื่อง ให้โรงเรียนจัดการเรียนการสอนในที่สถานที่ที่อากาศถ่ายเทสะดวก มีระยะห่างระหว่างบุคคลตามบริบทของสถานที่ จำกัดจำนวนผู้ปกครองและบุคคลที่จะเข้าภายในบริเวณโรงเรียนเพื่อลดความแออัด และกรณีที่ผู้ปกครองมารับบุตรหลานที่โรงเรียน ต้องจัดพื้นที่พักคอยสำหรับผู้ปกครองบริเวณหน้าโรงเรียน
นายเกรียงยศ กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ ให้มีการตรวจคัดกรองอุณหภูมิร่างกายนักเรียน ข้าราชการครู และบุคลากรทางการศึกษากทม. บุคลากรของโรงเรียน และผู้มาติดต่อราชการทุกคน โดยเฉพาะนักเรียนให้ตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายวันละ 3 ครั้ง คือ ก่อนเข้าโรงเรียน ก่อนรับประทานอาหารกลางวัน และก่อนเดินทางกลับบ้าน ส่วนการรับประทานอาหารให้มีระยะห่างที่เหมาะสม โดยอาจเหลื่อมเวลาในการพัก หรือจัดที่รับประทานอาหารที่ไม่แออัด และกำชับให้นักเรียนล้างมือบ่อยๆ พร้อมทั้งประสานผู้ปกครองให้ตรวจคัดกรองบุตรหลานก่อนพามาโรงเรียน
"หากมีอาการไข้ ไอ จาม หรืออาการอื่นใดให้นักเรียนหยุดเรียน เพื่อเฝ้าดูอาการที่บ้าน หรือพบแพทย์ และขอความร่วมมือผู้ปกครองแจ้งข้อมูลการเจ็บป่วยของนักเรียนให้โรงเรียนทราบ กรณีโรงเรียนพบนักเรียนที่สงสัยติดเชื้อโควิดที่เข้าเกณฑ์สอบสวนโรคให้แยกเด็กออกมาจากผู้อื่น จากนั้นแจ้งผู้ปกครองและแจ้งสายด่วนสุขภาพ 1646 ศูนย์เอราวัณ สำนักการแพทย์ หรือแจ้งศูนย์บริการสาธารณสุข กทม.ในพื้นที่ เพื่อประเมินสถานการณ์ตามเกณฑ์สอบสวนโรค รวมถึงขอให้ครูและบุคลากรทางการศึกษา ซึ่งเป็นผู้ใกล้ชิดกับนักเรียน เข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด"นายเกรียงยศ ระบุ