ประสาน 9 จว. เตรียมพร้อมรับมือฝนตกหนัก น้ำท่วมฉับพลัน
กอปภ.ก. ประสาน 9 จังหวัดภาคกลางและภาคใต้ฝั่งตะวันตกเตรียมพร้อมรับมือ ฝนตกหนักและคลื่นลมแรงเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ช่วงวันที่ 25-29 พ.ค. 64
เมื่อวันที่ 25 พ.ค. 64 กระทรวงมหาดไทยโดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ประสาน 6 จังหวัดภาคกลางและภาคใต้ฝั่งตะวันตกเตรียมพร้อมรับมือฝนตกหนักและคลื่นลมแรงเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ในช่วงวันที่ 25-29 พ.ค. 64 โดยจัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศปริมาณฝนระดับน้ำและแนวโน้มสถานการณ์ภัยอย่างใกล้ชิดพร้อมจัดชุดเคลื่อนที่เร็ว เครื่องมืออุปกรณ์ประจำพื้นที่เสี่ยงให้พร้อมปฏิบัติการเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัย รวมถึงแจ้งเตือนประชาชนติดตามพยากรณ์อากาศและปฏิบัติตามประกาศเตือนภัยอย่างเคร่งครัด
นายบุญธรรม เลิศสุขีเกษม อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยในฐานะผู้อำนวยการกลาง กล่าวว่า กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก) ได้ติดตามสภาพอากาศและพิจารณาปัจจัยเสี่ยงประกอบกับกรมอุตุนิยมวิทยาได้มีประกาศฉบับที่ 1 (76/2564) ลงวันที่ 24 พฤษภาคม 2564 เวลา 12.00 น. แจ้งว่า พายุไซโคลน “ยาอาส” บริเวณอ่าวเบงกอลตอนบน กำลังเคลื่อนัวทางทิศเหนือค่อนตะวันตกคาดว่าจะเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณประเทศอินเดียตอนบนในช่วงวันที่ 26-27 พฤษภาคม 2564 ส่งผลให้มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามันประเทศไทยและอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักบางพื้นที่คลื่นลมในทะเลอันดามันมีกำลังแรง ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2-4 เมตร และบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 4 เมตร ส่วนอ่าวไทยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร
กอปภ.ก.โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) จึงได้ประสาน 9 จังหวัดในพื้นที่ภาคกลางและภาคใต้ฝั่งตะวันตกเตรียมพร้อมรับมือฝนตกหนักและคลื่นลมแรง เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ในช่วงวันที่ 25 – 29 พฤษภาคม 2564 แยกเป็น
สถานการณ์น้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก ดังนี้
ภาคกลาง 1 จังหวัด ได้แก่ เพชรบุรี(อำเภอหนองหญ้าปล้อง อำเภอท่ายาง และอำเภอบ้านลาด)
ภาคใต้ 8 จังหวัด ได้แก่
- ประจวบคีรีขันธ์ (อำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ อำเภอบางสะพานอำเภอบางสะพานน้อยอำเภอหัวหิน อำเภอปราณบุรี อำเภอกุยบุรี และอำเภอสามร้อยยอด)
- ชุมพร (อำเภอเมืองชุมพรอำเภอปะทิว อำเภอสวี อำเภอท่าแซะอำเภอหลังสวน อำเภอละแม และอำเภอทุ่งตะโก)
- ระนอง (อำเภอละอุ่น และอำเภอกะเปอร์)
- พังงา (อำเภอตะกั่วป่า และอำเภอคุระบุรี)
- ภูเก็ต (อำเภอเมืองภูเก็ต อำเภอกระทู้ และอำเภอถลาง)
- กระบี่ (อำเภอเขาพนมอำเภอปลายพระยา และอำเภอลำทับ)
- ตรัง (อำเภอเมืองตรัง อำเภอนาโยง อำเภอย่านตาข่าว อำเภอกันตัง อำเภอห้วยยอด อำเภอปะเหลียนและอำเภอวังวิเศษ)
- สตูล (อำเภอควนโดน อำเภอควนกาหลง อำเภอมะนังและอำเภอทุ่งหว้า)
สถานการณ์คลื่นลมแรง ดังนี้
- ระนอง(อำเภอเมืองระนอง อำเภอกะเปอร์ และอำเภอสุขสำราญ)
- พังงา (อำเภอเกาะยาวอำเภอตะกั่วป่า อำเภอตะกั่วทุ่ง อำเภอคุระบุรี และท้ายเหมือง)
- ภูเก็ต(อำเภอเมืองภูเก็ต อำเภอกระทู้ และอำเภอถลาง) กระบี่ (อำเภอเมืองกระบี่อำเภออ่าวลึก อำเภอเหนือคลอง
- อำเภอคลองท่อม และอำเภอเกาะลันตา)
- ตรัง (อำเภอกันตัง อำเภอสิเกาอำเภอปะเหลียน และอำเภอหาดสำราญ)
- สตูล (อำเภอเมืองสตูล อำเภอละงูอำเภอมะนัง และอำเภอทุ่งหว้า)
รวมถึงสั่งการศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตในพื้นที่เสี่ยงภัยเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ภัยในช่วงดังกล่าวโดยจัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศ ปริมาณฝนพร้อมวิเคราะห์ปัจจัยเสี่ยงและแนวโน้มสถานการณ์ภัยต่อเนื่องตลอด24 ชั่วโมง โดยเฉพาะในพื้นที่เสี่ยงภัย ทั้งที่ลาดเชิงเขา พื้นที่ลุ่มต่ำพื้นที่ชุมชนเมือง รวมถึงจัดชุดเผชิญสถานการณ์วิกฤต (ERT) รถปฏิบัติการและเครื่องจักรกลสาธารณภัยให้พร้อมเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัยทันทีอีกทั้งประสานหน่วยงานในพื้นที่ อำเภอองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นสร้างการรับรู้และแจ้งเตือนประชาชนติดตามพยากรณ์อากาศและประกาศเตือนภัยอย่างใกล้ชิดตลอดจนประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้มงวดมาตรการความปลอดภัยทางทะเล โดยเพิ่มการติดตั้งสัญญาณแจ้งเตือนภัยบริเวณชายฝั่งทะเลจัดเตรียมเครื่องมือประจำเรือและอุปกรณ์ช่วยชีวิตทางน้ำให้พร้อมใช้งานอีกทั้งหลีกเลี่ยงการเดินเรือบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งทั้งนี้ ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์ภัยสามารถแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือทางไลน์“ปภ.รับแจ้งเหตุ1784” โดยเพิ่มเพื่อน Line ID @1784DDPM และแอปพลิเคชัน“พ้นภัย” รวมถึงสายด่วนนิรภัย1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป