เลี่ยง ‘โควิด’ กับ 9 ท่า ‘ออกกำลังกาย’ ที่บ้าน ได้ประโยชน์ทั้งตัว
9 ท่า “ออกกำลังกาย” อย่างง่าย เลี่ยง “โควิด” และอาการออฟฟิศซินโดรม เตรียมอุปกรณ์แค่ขวดน้ำดื่ม ทำได้เองที่บ้าน ได้ประโยขน์ตั้งแต่บ่า หัวไหล่ หน้าท้อง ลงไปถึงน่อง
ฟิตเนสยังปิดให้บริการอยู่เนื่องจากโควิดระลอกใหม่ จะออกไปวิ่งตามสนามกีฬาก็ยังน่าเป็นห่วง ถ้าไม่จำเป็นจริงๆ ก็ไม่ควรเดินทางออกจากบ้านบ่อยนัก จะ WFH-Work From Home ให้สุขภาพดี ก็ควรแบ่งเวลาออกกำลังกายด้วย โดยเฉพาะการนั่งทำงานท่าเดียวติดต่อกันเป็นเวลานานหลายชั่วโมง มีผลโดยตรงสุขภาพ
วันนี้ขอนำชุดการออกกำลังกายที่แนะนำโดย มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน (มทร.อีสาน) เป็นท่ากายบริหารที่สามารถทำได้เองง่ายๆ ที่บ้าน ไม่ต้องมีอุปกรณ์ทันใหม่แบบในฟิตเนส ใช้เพียง ขวดน้ำดื่ม เป็นอุปกรณ์ประกอบ แนะนำโดย ชารี จันสุพรม อาจารย์ประจำสาขาวิชาวิทยาศาสตร์การกีฬาและสุขภาพ คณะวิทยาศาสตร์และศิลปศาสตร์ มทร.อีสาน
อ.ชารี กล่าวว่า ภายหลังจากที่ มทร.อีสาน ประกาศปิดสถานที่เป็นการชั่วคราว โดยสนับสนุนทำงานจากที่บ้าน (Work from home) และปรับเปลี่ยนรูปแบบการเรียนการสอนเป็นการสอนในระบบออนไลน์ 100 เปอร์เซนต์ ตั้งแต่เดือนมกราคม 2564 เพื่อความปลอดภัยตามมาตรการของภาครัฐ รวมถึงการงดใช้สนามกีฬา สถานที่ส่วนกลางทั้งหมด โดย ผศ.ดร.วิโรจน์ ลิ้มไขแสง อธิการบดี มทร.อีสาน และ ดร.ชาคริต นวลฉิมพลี คณบดีคณะวิทยาศาสตร์และศิลปศาสตร์ มทร.อีสาน ได้ตระหนักในการให้ความสำคัญเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพของทุกคนในช่วงที่ต้องเรียนหรือปฏิบัติงานที่บ้าน จึงได้ออกแบบ วิธีออกกำลังกายอย่างง่าย ไม่ต้องหาซื้ออุปกรณ์ให้ยาก และสามารถออกกำลังกายเองได้ที่บ้าน ซึ่งเป็นท่ากายบริหาร 9 ท่า ดังนี้
ท่าที่ 1) Arms Balance Squat ท่านี้ช่วยบริหารกล้ามเนื้อต้นขา สะโพกให้กระชับ และยังช่วยบริหารข้อต่อของไหล่อีกด้วย
เริ่มต้นด้วยยืนแยกเท้า กว้างเท่าช่วงไหล่ พร้อมกับกางแขนทั้งสองข้างออก หลังจากนั้นให้ย่อเข่าลง พร้อมดันสะโพกไปทางด้านหลัง เข่าไม่เลยปลายเท้า พร้อมกับวาดแขนทั้งสองข้างมาด้านหน้า แล้วกลับสู่ท่าเริ่มต้น
ทำ 2-3 เซต เซตละ 10-15 ครั้ง พักระหว่างเซต 30 วินาที
ท่าที่ 2) Calf Raises ท่านี้ช่วยบริหารกล้ามเนื้อน่อง ให้แข็งแรงกระชับ และยังช่วยบริหารข้อเท้าได้อีกด้วย
เริ่มต้นด้วยยืนแยกเท้ากว้างเท่าช่วงไหล่ มือจับเอว ค่อย ๆ ยกส้นเท้าขึ้น ลำตัวตั้งตรง และค่อยวางส้นเท้าลงกลับสู่ท่าเริ่มต้น
ทำ 2-3 เซต เซตละ 10-15 ครั้ง พักระหว่างเซ ต 30 วินาที
ท่าที่ 3) Biceps Curl ท่านี้ช่วยบริหารกล้ามเนื้อต้นแขนด้านหน้าให้กระชับ โดยการเพิ่มแรงต้านจากขวดน้ำดื่มของเราเอง
เริ่มต้นด้วยยืนแยกเท้ากว้างเท่าช่วงไหล่ มือจับขวดน้ำทั้งสองข้าง ล็อคหัวไหล่ไม่ให้ขยับ งอศอกยกขวดน้ำดื่มขึ้นมาระดับหน้าอก และลดแขนลงกลับสู่ท่าเริ่มต้น
ทำ 2-3 เซต เซตละ 10-15 ครั้ง พักระหว่างเซต 30 วินาที
ท่าที่ 4) Triceps Kick Back ท่านี้ช่วยบริหารกล้ามเนื้อต้นแขนด้านหลังให้กระชับ โดยการเพิ่มแรงต้านจากขวดน้ำดื่ม จะทำทีละข้าง หรือทำพร้อมกันก็ได้
เริ่มต้นด้วยการวางเท้าไปทางด้านหน้า และอีกข้างหนึ่งวางเข่าลง เอนลำตัวไปทางด้านหน้า มือจับขวดน้ำ ดึงศอกไปทางด้านหลัง งอศอกประมาณ 90 องศา ให้ต้นแขนขนานกับพื้น เหยียดปลายแขนไปทางด้านหลัง จากนั้นลดแขนลงกลับสู่ท่าเริ่มต้น ทำช้าๆ ซ้ำไปเรื่อยจนครบจำนวน
ทำ 2-3 เซต เซตละ 10-15 ครั้ง พักระหว่างเซต 30 วินาที
ท่าที่ 5) Chest Press ท่านี้ช่วยบริหารกล้ามเนื้อต้นหน้าอกให้กระชับ โดยการเพิ่มแรงต้านจากขวดน้ำดื่มที่มีอยู่ในบ้าน
เริ่มต้นด้วยการนอนหงายลงบนเสื่อหรือผ้า วางเท้าชันเข่าขึ้น มือทั้งสองข้างจับขวดน้ำ วางแขนลงบนพื้น งอศอกประมาณ 90 องศา แล้วดันแขนขึ้นให้ฝาขวดน้ำดื้มสัมผัสกันเบาๆ จากนั้นลดแขนลงในแนวการเคลื่อนไหวเดียวกัน กลับสู่ท่าเริ่มต้น ทำช้า ๆ ซ้ำไปเรื่อยจนครบจำนวน
ทำ 2-3 เซต เซตละ 10-15 ครั้ง พักระหว่างเซต 30 วินาที
ท่าที่ 6) W – Extension ท่านี้มีลักษณะคล้ายตัวอักษร W ช่วยบริหารกล้ามเนื้อหลังส่วนล่าง และหัวไหล่ ให้แข็งแรงป้องกันอาการปวดหลัง ในการนั่งนานๆ ได้
เริ่มต้นด้วยการนอนคว่ำราบลงบนเสื่อหรือผ้า มือทั้งสองข้างเหยียดกางออกไปด้านหน้า ยกหน้าอกขึ้น จากนั้นดึงแขนงอข้อศอกทั้งสองข้างมาทางด้านหลัง ทำช้า ๆ ซ้ำไปเรื่อยจนครบจำนวน
ทำ 2-3 เซต เซตละ 10-15 ครั้ง พักระหว่างเซต 30 วินาที
ท่าที่ 7) Plank Shoulder Taps ท่านี้ช่วยบริหารกล้ามเนื้อแกนกลางลำตัว หน้าท้อง และหัวไหล่
เริ่มต้นด้วยท่าเตรียมดันพื้น วางฝ่ามือทั้งสองข้างกว้างเท่าช่วงไหล่ โดยให้ข้อมือ ข้อศอก และไหล่อยู่ในแนวเดียวกัน หลังจากนั้นดึงแขนขึ้นมาใช้ฝ่ามือแตะหัวไหล่ และวางมือลง ทำสลับกันทั้งสองข้าง ทำช้า ๆ ซ้ำจนครบจำนวน
ทำ 2-3 เซต เซตละ 10 ครั้ง (ทำข้างซ้าย สลับขวา นับเป็น 1 ครั้ง) พักระหว่างเซต 30 วินาที
ท่าที่ 8) Abdominal Crunches ท่านี้ช่วยบริหารกล้ามเนื้อหน้าท้องให้กระชับ โดยการเกร็งกล้ามเนื้อหน้าท้องแบบเน้น ๆ
เริ่มต้นด้วยท่านอนหงายวางเท้าชันเข่า วางมือด้านข้างลำตัว ยกศีรษะและบริเวณหลังส่วนบนขึ้นมา ใช้ปลายนิ้วมือแตะที่หัวเข่า และกลับสู่ท่าเริ่มต้น
ทำ 2-3 เซต เซตละ 10-15 ครั้ง พักระหว่างเซต 30 วินาที
ท่าที่ 9) Flutter Kicks ท่านี้ช่วยบริหารกล้ามเนื้อหน้าท้องส่วนล่างให้กระชับ โดยการใช้ข้อสะโพกในการเคลื่อนต้นขาขึ้นและลง
เริ่มต้นด้วยท่านอนหงายราบกับพื้น เหยียดปลายเท้าทั้งสองข้างขึ้น วางมือข้างลำตัว หรือวางลองไว้ที่หลัง เตะเท้าทั้งสองข้างสลับขึ้นลง โดยใช้สะโพก ทำช้า ๆ ซ้ำไปเรื่อยจนครบจำนวน
ทำ 2-3 เซต เซตละ 15 ครั้ง (ทำขึ้น และลง นับเป็น 1 ครั้ง) พักระหว่างเซต 30 วินาที
อ.ชารี กล่าวด้วยว่า สำหรับการออกกำลังกายทุกครั้ง ควรเริ่มด้วยการบริหารร่างกายให้พร้อมก่อน เพื่อลดอาการบาดเจ็บที่อาจจะเกิดขึ้นจากออกกำลังกายได้ ซึ่งการออกกำลังกายด้วยท่าทางง่าย ๆ ทั้ง 9 ท่านี้ นอกจากจะช่วยลดอาการปวดเมื่อยร่างกายจากการนั่งเรียนหรือทำงานเป็นเวลานาน ๆ ได้แล้ว จะสามารถกระตุ้นการทำงานให้กับกล้ามเนื้อ และช่วยเพิ่มอัตราการเผาผลาญพลังงานในร่างกายเพิ่มขึ้นได้ อีกทั้งหากสามารถออกกำลังกายเป็นประจำอย่างน้อย 150 นาทีต่อสัปดาห์ ควบคู่กับการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย และพักผ่อนให้เพียงพอ ก็จะทำให้ทุกคนสุขภาพที่ดี และมีภูมิคุ้มกันต้านทานโรคต่างๆ
ขณะที่ ผศ.ดร.วิโรจน์ ลิ้มไขแสง อธิการบดี มทร.อีสาน กล่าวว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 ระลอกใหม่ที่เกิดขึ้นในปี 2564 ส่งผลให้ประชาชนทุกคนต้องปรับเปลี่ยนวิถีการใช้ชีวิตอย่างจริงจังมากขึ้น ซึ่งปัจจุบัน หน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า และเจลแอลกอฮอล์ กลายเป็นสิ่งของจำเป็นที่ทุกคนต้องใช้ชีวิตประจำวัน รวมถึงการปรับเปลี่ยนวิธีการเรียน การทำงาน จากรูปแบบปกติมาเป็นรูปแบบออนไลน์เพื่อลดความเสี่ยงในการแพร่กระจายเชื้อไวรัสโควิด-19 นั้น อาจช่วยลดการแพร่กระจายของเชื้อโรคได้ก็จริง แต่หากต้องนั่งจดจ่ออยู่กับหน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน ๆ ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อสุขภาพ ไม่ว่าจะเป็นอาการปวดไหล่ ปวดคอ ปวดหลัง จนนำไปสู่โรคออฟฟิศซินโดรมหรือโรคอ้วน การออกกำลังกาย ควบคู่ไปด้วยจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม
* * * * * *
++ วิธีออกกำลังกายที่คุณอาจสนใจ ++