เช็คที่นี่ รพ.ไหน ‘เลื่อนฉีดวัคซีน’ โควิด 19 เพราะอะไร
หลังจากที่ รพ.หลายแห่ง รวมถึงประกาศจากทางจังหวัด อาทิ ลำปาง เชียงใหม่ ‘เลื่อนฉีดวัคซีน’ โควิด 19 ทำให้ประชาชนเกิดความสับสน และกังวลว่าจะได้รับวัคซีนตามที่ลงทะเบียนไว้หรือไม่ มาดูกันว่า ณ วันนี้มี รพ.ใดที่ประกาศเลื่อนฉีดวัคซีน และเพราะสาเหตุใด
ในต่างจังหวัดขณะนี้มี จังหวัดลำปางประกาศในวันที่ 3 มิ.ย. 64 ระบุถึงสาเหตุที่ต้อง 'เลื่อนฉีดวัคซีน' โควิด-19 ว่า ตามที่ประชาชนจังหวัดลำปาง มีการแจ้งความประสงค์ในการฉีดวัคซีนโควิด-19 เป็นจำนวนมากผ่านช่องทางแอพพลิเคชั่น หมอพร้อม และผ่าน อสม. หรือ เจ้าหน้าที่สาธารณสุข ซึ่งได้นัดหมายวันเวลาในการฉีดวัคซีนกับสถานบริการที่ท่านเลือกไว้แล้ว
เนื่องจากมีการระบาดในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล จึงทำให้จังหวัดลำปางได้รับการจัดสรรวัคซีนมาได้น้อยกว่าที่คาดไว้ จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องยกเลิก การนัดหมายในการให้บริการฉีดวัคซีนไปก่อน อย่างไรก็ตามคิวการจองวัคซีนของท่านยังอยู่ โรงพยาบาลที่ท่านแจ้งความประสงค์ผ่าน หมอพร้อม จะติดต่อแจ้งวันเวลาในการฉีดที่แน่นอนให้ท่านทราบอีกครั้ง ผ่านช่องทางดังนี้
1.กรณีจองผ่านหมอพร้อม เจ้าหน้าที่จะติดต่อมาที่เบอร์โทรของท่านหรือจะแจ้งให้ท่านทราบที่บ้าน
2.กรณีแจ้งความประสงค์ผ่านอสม. หรือเจ้าหน้าที่สาธารณสุข อสม.จะเป็นผู้แจ้งให้ท่านทราบ
หากมีข้อสงสัยโปรดติดต่อ call center ของโรงพยาบาลที่ท่านได้ลงทะเบียนฉีดวัคซีนไว้
- สสจ.เชียงราย ยันวัคซีนพร้อม
ด้าน สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงราย ได้โพสข้อมูลจากทางกระทรวงสาธารณสุข หน้าแฟนเพจ 3 มิ.ย. 64 โดยระบุว่า ขณะนี้ กระทรวงสาธารณสุข กำลังจัดส่งวัคซีนโควิด 19 ไปทั่วประเทศ ประมาณ 2 ล้านโดส และจะทยอยส่งเพิ่มอีก ตลอดเดือนมิถุนายน ยืนยันทุกจังหวัดจะมีวัคซีนโควิด 19 ฉีดในวันที่ 7 มิถุนายน 2564 พร้อมกันทุกพื้นที่อย่างแน่นอน
- รพ.เชียงใหม่ ราม
ส่วนจังหวัดเชียงใหม่ มีโรงพยาบาลเอกชนประกาศหลายแห่ง อาทิ รพ.เชียงใหม่ ราม แจ้ง ‘เลื่อนฉีดวัคซีน’ ภาครัฐที่ลงทะเบียนผ่านระบบหมอพร้อม ผ่านหน้าแฟนเพจ เมื่อวันที่ 3 มิ.ย. 64 โดยระบุว่า เรียน ท่านที่ลงทะเบียนฉีดวัคซีนโควิด-19 ที่ได้รับการจัดสรรจากภาครัฐผ่านระบบหมอพร้อม กับโรงพยาบาลเชียงใหม่ ราม
โรงพยาบาล ได้เตรียมความพร้อมในการให้บริการฉีดวัคซีนโควิดให้แก่ท่านเรียบร้อยแล้ว และยังคงยืนยันให้ความร่วมมือกับทางภาครัฐเป็นหน่วยบริการฉีดวัคซีนของภาครัฐ แต่ทั้งนี้ทาง #ภาครัฐขอเลื่อนการจัดส่งวัคซีนโควิด-19 ที่จัดสรรมาให้โรงพยาบาลเชียงใหม่ ราม #ออกไปก่อนอย่างไม่มีกำหนด หากมีความคืบหน้าจากภาครัฐ ทางโรงพยาบาลจะรีบแจ้งให้ท่านทราบโดยทันที หากท่านต้องการสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมใดๆ เกี่ยวกับวัคซีนโควิดหมอพร้อมจ.เชียงใหม่ ท่านสามารถติดต่อสอบถามไปยัง สำนักงานสาธารณสุข จ.เชียงใหม่ เบอร์โทร 053-211048-50
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
- รพ.กรุงเทพเชียงใหม่
รพ.กรุงเทพเชียงใหม่ ชี้แจงผ่านหน้าแฟนเพจ 3 มิ.ย. 64 ระบุว่า เรียนท่านผู้ลงทะเบียนฉีดวัคซีน COVID-19 ที่ได้รับการจัดสรรจากทางราชการตาม โครงการหมอพร้อม ที่ โรงพยาบาลกรุงเทพเชียงใหม่ทุก ๆ ท่าน ขออนุญาตชี้แจงให้ท่านทราบว่าทางโรงพยาบาลฯ ได้มีการเตรียมพร้อมในการฉีดวัคซีนให้ท่านเรียบร้อยแล้วและยังคงให้ความร่วมมือกับภาครัฐในการเป็นหน่วยบริการฉีดวัคซีนของภาครัฐในโครงการ #หมอพร้อม รวมทั้งโครงการอื่นๆ ของทางราชการ
ขอเรียนแจ้งให้ท่านทราบว่า #ทางราชการขอเลื่อนการจัดส่งวัคซีนตามโครงการหมอพร้อม ที่มีการลงทะเบียนไว้แล้วให้กับโรงพยาบาลกรุงเทพเชียงใหม่ออกไปก่อนอย่างไม่มีกำหนด หากทางราชการมีความคืบหน้าใดๆ ทางโรงพยาบาลกรุงเทพเชียงใหม่จะรีบสื่อสารให้ทราบต่อไป กรณีที่ท่านต้องการรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการรับวัคซีนหมอพร้อมในจังหวัดเชียงใหม่ สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ โทร 053211048-50
- รพ.แมคคอร์มิค
ด้าน รพ.แมคคอร์มิค ระบุผ่านหน้าแฟนเพจ โรงพยาบาลแมคคอร์มิค McCormick Hospital ว่า เรียนท่านที่ลงทะเบียนฉีดวัคซีนโควิด 19 ที่ได้รับการจัดสรรจากภาครัฐกับโรงพยาบาลแมคคอร์มิค ทางโรงพยาบาลมีการเตรียมพร้อมฉีดวัคซีนให้ท่านเรียบร้อยแล้ว และยังคงให้ความร่วมมือกับภาครัฐเป็นโรงพยาบาลที่เป็นหน่วยบริการฉีด 'วัคซีนโควิด 19' ให้แก่ท่านตามที่ได้ทำการนัดหมายไว้ แต่ขณะนี้วัคซีนโควิด 19 มีจำนวนไม่เพียนงพอที่จะจัดสรรมาให้กับทางโรงพยาบาล ทางโรงพยาบาลจำเป็นต้องเลื่อนการนัดหมายของท่านโดยไม่มีกำหนด หากมีข้อมูลเพิ่มเติมจะรีบแจ้งให้ทราบโดยทันที เพื่อรับข้อมูลที่ถูกต้อง โปรดติดตามผ่านช่องทาง เฟซบุ๊ค : mccormick hospital
- รพ.ลานนา
รพ.ลานนา แจ้งผ่านหน้าแฟนเพจ 4 มิ.ย. 64 เรื่อง ‘เลื่อนฉีดวัคซีน’ ป้องกันโรคโควิด-19 สำหรับผู้ลงทะเบียนผ่านหมอพร้อม เลือกโรงพยาบาลลานนา อ้างอิง ประกาศจากคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ วันที่ 3 มิถุนายน 2564 ความว่า เนื่องจากมีการปรับเปลี่ยนระบบการบริหารจัดการวัคซีน ทำให้ 'วัคซีนโควิด 19' ในช่วงแรกจัดส่งมาไม่ทันกับยอดที่จองไว้
จึงต้องขออภัยผู้ที่จองคิวฉีดไว้ในทุกโรงพยาบาลในช่วงสัปดาห์แรก 7 - 11 มิถุนายนนี้ ที่ต้องเลื่อนการฉีดวัคซีนออกไปก่อน โดยคิวที่จองไว้จะนำไปรวบรวมเพื่อการจัดลำดับอีกครั้ง เมื่อวัคซีนได้รับการจัดสรรมาแล้ว ทางโรงพยาบาลจะโทรนัดหมายให้เข้ามารับการฉีดวัคซีนทันที
- รพ.ในเครือบางปะกอกและปิยะเวท 'เลื่อนฉีดวัคซีน'
ส่วนในพืื้นที่กรุงเทพมหานคร มี รพ.ในเครือบางปะกอกและปิยะเวท ออกประกาศเช่นกัน โดย รพ.บางปะกอก 1 โพสผ่านหน้าแฟนเพจ เมื่อวันที่ 1 มิ.ย. 64 ประกาศเรื่องการจัดสรร 'วัคซีนโควิด 19' โดยระบุว่า เนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงระบบการกระจายวัคซีนของภาครัฐ ทำให้โรงพยาบาลไม่ได้รับวัคซีนครบตามจำนวนและวันที่ ตามที่ท่านได้ลงทะเบียนไว้ จึงต้องแจ้งให้ทุกท่านที่ลงทะเบียนฉีดวัคซีนไว้กับโรงพยาบาลในเครือบางปะกอกและปิยะเวท จำนวน 39,430 คน ทราบว่า ทางโรงพยาบาล ยืนยันที่จะดูแลคนไข้ทั้งหมดที่ลงทะเบียนกับเราให้ได้รับวัคซีนอย่างแน่นอน โดยจะมีการปรับจำนวนที่ได้รับในแต่ละวันตามจำนวนวัคซีนที่ได้มา ซึ่งวัคซีนจะได้รับวันละเท่าไหร่ จะทราบวันต่อวันจึงขอให้ทุกท่านรอติดตามประกาศจากหน้าเพจ ไลน์ และเว็บไซต์ของโรงพยาบาล และสำหรับท่านที่ได้ฉีดจะได้รับ SMS แจ้งก่อนวันฉีดอย่างน้อย 1 วัน
- 'ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์' ชะลอฉีดเข็มแรก
ขณะเดียวกัน 'ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์' โพสผ่านเฟซบุ๊คแฟนเพจ ว่า เนื่องจาก 'ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์' ไม่ได้รับการจัดสรร วัคซีนหลัก (ซิโนแวคและแอสตร้าเซนเนก้า) เพื่อให้บริการอีกต่อไป 'โรงพยาบาลจุฬาภรณ์' จึงต้องขออภัยทุกท่านที่ไม่สามารถให้บริการฉีดวัคซีนเข็มแรกให้กับผู้ที่ได้ลงทะเบียนผ่านระบบ 'ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์' ไว้แล้ว ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 14 มิถุนายน 2564 เป็นต้นไป รวมถึงสถานศึกษา และหน่วยงานของรัฐที่ได้ขอติดต่อเพื่อรับการฉีดวัคซีนหลักทั้งสองชนิดด้วย
ส่วนผู้ที่มีปัญหาในการหาสถานที่ลงทะเบียนที่อื่นและยังมั่นใจประสงค์ที่จะเข้ารับการฉีดวัคซีนกับ 'โรงพยาบาลจุฬาภรณ์' 'ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์' จะพยายามอย่างเต็มความสามารถในการหาวัคซีนอื่นที่มีคุณภาพมาให้บริการเพื่อช่วยเหลือประชาชนตามพระปณิธานขององค์ประธาน 'ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์' สำหรับผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนเข็มแรกไปแล้วท่านยังสามารถมารับการฉีดเข็มที่สองได้ตามนัดหมาย
ในวันเดียวกัน ศาสตราจารย์ นพ.นิธิ มหานนท์ ผอ.โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ และเลขาธิการราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ โพสต์ เฟซบุ๊คส่วนตัว โดยชี้แจงว่า เนื่องจาก ราชวิทยาลัยฯ / 'โรงพยาบาลจุฬาภรณ์' ต้องเตรียมจัดระบบใหม่ในการจัดการวัคซีนตัวเลือกที่จะเริ่มกระจายฉีดภายในไม่เกิน 2-3 สัปดาห์นี้ ประกอบกับขณะนี้กทม. ก็เตรียมการเพื่อบริการฉีดวัคซีนได้หลายที่แล้ว และกระจายอยู่ทั่วไปมากกว่า 20 แห่ง ซึ่งหลายหน่วยงานมาดูวิธีการบริหารระบบที่ให้บริการฉีดอย่างมีประสิทธิภาพที่ราชวิทยาลัยฯ ทำเป็นตัวอย่างไปแล้วด้วย เราจึงต้องปรับเลื่อนการให้บริการฉีดวัคซีนหลักออกไปก่อนพักนึง (เริ่ม 14 มิถุนายน)
- กทม. ฉีด 6 ล้านคน ยับยั้งการระบาด
ล่าสุด (4มิ.ย) ศาสตราจารย์ นพ.นิธิ ได้โพสต์ เฟซบุ๊คส่วนตัว เพิ่มเติม ระบุว่า ใน กทม. มีประชาชนประมาณ 10 ล้านคน ซึ่งควรได้รับวัคซีนอย่างน้อย 6 ล้านคน จึงจะเกิดภูมิคุ้มกันหมู่เพื่อยับยั้งการระบาด รวมแล้วต้องให้บริการฉีดวัคซีน 12 ล้านโดส เราควรฉีดให้เสร็จใน 4 เดือน หรือ 120 วัน (ถ้าช้ากว่านี้ อาจจะมีปัญหาในการยับยั้งเชื้อสายพันธุ์ใหม่ๆ) ดังนั้น ในกรุงเทพมหานคร เราต้องบริการฉีดวัคซีนให้ได้วันละ 100,000 โดส การเปิดจุดบริการฉีดน้อยแห่งจะทำให้เป็นไปได้ยากมากถึงมากที่สุด ขณะนี้ กทม. มีจุดบริการฉีดวัคซีน ไม่ต่ำกว่า 20 แห่ง คิดว่ายังไม่รวมของมหาวิทยาลัยต่างๆ คำนวณง่ายๆ เอาตัวเลขกลมๆ แต่ละจุดบริการควรฉีดได้ 3,000 ถึง 5,000 ราย ทุกวันโดยไม่มีวันหยุด
ในการเริ่มต้นแรกๆ แต่ละจุดอาจจะฉีดได้ไม่ถึงเป้าและควรต้องปรับระบบไปทุกๆ วัน พร้อมกับการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนไม่ลังเลที่จะฉีดและอำนวยความสะดวกในการไปรับการฉีด
สำหรับ หกแสนกว่าคนที่ได้ลงทะเบียนรอมารับการฉีดวัคซีนที่ศูนย์บริการวัคซีนของราชวิทยาลัยฯ และได้รับหมายเลข ID ที่ไปแล้ว ผู้ที่ได้รับหมายเลข ID มากกว่า 250000 ขึ้นไปที่สามารถหาจุดฉีดวัคซีนที่อื่นๆ ใน กทม.ได้ ผมขอแนะนำว่าให้ไปลงทะเบียนและหาที่ฉีดวัคซีนโดยเร็ว โดยเฉพาะผู้ที่มีความเสี่ยงสูงที่จะมีอาการรุนแรงถ้าติดเชื้อและผู้ที่เสี่ยงสูงในการได้รับเชื้อและแพร่เชื้อได้ง่าย ส่วนผู้สูงอายุ ผู้ป่วยของ 'โรงพยาบาลจุฬาภรณ์' และผู้ด้อยโอกาสที่เข้าไม่ถึงอินเตอร์เน็ตหรือการจองออนไลน์ รวมถึงผู้ที่ไว้วางใจ 'โรงพยาบาลจุฬาภรณ์' โรงพยาบาลจะทยอยเรียกเข้ามารับวัคซีนต่อไปโดยเร็ว เช่นเดียวกันกับผู้ที่มีนัดรับวัคซีนเข็มที่สองยังเข้ามารับตามนัดได้ครับ……และเมื่อมีวัคซีนมาเพิ่มปรับแผนใหม่จะแจ้งอีกครั้ง
- 7 มิ.ย. วัคซีน 'แอสตร้าเซนเนก้า' ต้องกระจายไปที่ไหนบ้าง
ข้อมูลจาก ชมรมแพทย์ชนบท ซึ่งได้โพสผ่านเฟซบุ๊คแฟนเพจ ในวันนี้ (4 มิ.ย. 64) ระบุว่า การฉีดวัคซีนในวันที่ 7 มิถุนายน 2564 ซึ่งต้องมีวัคซีน 'แอสตร้าเซเนก้า' ฉีดให้ตามสัญญา มีเป็นดังนี้
ใน 58 จังหวัดทั่วไทย จะได้รับการจัดสรรวัคซีน 'แอสตร้าเซเนก้า' ที่ผลิตจากประเทศเกาหลีที่สั่งซื้อมาเป็นพิเศษ 240,000 โดส โดยจัดสรรเท่าๆ กันไม่ว่าจังหวัดเล็กใหญ่ จังหวัดละ 360 ขวด หรือ 3,600 โดส รวมจัดสรรไป 208,800 โดส เหลือ 31,200 โดสเอาไปสมทบฉีดในพื้นที่กรุงเทพมหานคร
ใน 19 จังหวัดภาคกลาง ภาคตะวันออก และ กทม. กล่าวคือ เขต 4 จังหวัดปทุมธานี/นนทบุรี/อยุธยา/ลพบุรี/สระบุรี/สิงห์บุรี/อ่างทอง เขต 5 จังหวัดกาญจนบุรี/นครปฐม/เพชรบุรี/ราชบุรี/สมุทรสงคราม/สมุทรสาคร/ เขต 6 จังหวัดฉะเชิงเทรา/ชลบุรี/ปราจีนบุรี/ระยอง/สมุทรปราการ และเขต 13 กรุงเทพมหานคร จะได้รับการจัดสรรวัคซีน 'แอสตร้าเซเนก้า' ที่ผลิตจากสยามไบโอไซแอนซ์จำนวนรวม 1.8 ล้านโดส โดยจัดให้กับกรุงเทพมหานครมากที่สุดจำนวน 1 ล้านโดส และจัดให้อีก 18 จังหวัดจำนวน 8 แสนโดส (เฉลี่ยจังหวัดละ 44,444 โดส) เพื่อเน้นในการควบคุมการระบาด
สำหรับ รอบจัดสรร 'แอสตร้าเซนเนก้า' จะมีอีกรอบในช่วงกลางและปลายเดือนมิถุนายน คาดว่าจะได้มารวมเป็น 2-3 ล้านโดส รวมเป็น 4-5 ล้านโดส และเดือนถัดไปจะมาตามสัญญาเดือนละ 10 ล้านโดส ปิดฉากความโกลาหลการขาดแคลนวัคซีนลงไป ส่วนวัคซีนซิโนแวค ในวันนี้ยังไปไม่ถึงโรงพยาบาล แต่ทาง สธ.ยืนยันว่า ถึงทันเวลาแน่นอน รวม 7.5 แสนโดสก่อน เพื่อเอาไว้ชดเชยในส่วนของวัคซีน 'แอสตร้าเซเนก้า' ที่มีไม่พอตามจำนวนที่ได้ลงทะเบียนจองไว้
- สธ. ยันไม่เลื่อนฉีด
ด้าน นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวภายหลังการรับมอบวัคซีน 'แอสตร้าเซนเนก้า' จากบริษัท แอสตร้าเซเนก้า (ประเทศไทย)ว่า ไม่มีการ 'เลื่อนฉีดวัคซีน' และไม่เคยคิดที่จะเลื่อน วันนี้ทุกอย่างเป็นไปตามข้อตกลงและสัญญาว่า 'แอสตร้าเซนเนก้า' จะส่งมอบวัคซีนที่ผลิตวัคซีนในประเทศไทยภายในเดือนมิ.ย. โดยวันนี้เป็นการส่งมอบล็อตแรกจากอีกหลานๆล็อตที่จะส่งมอบจากโรงงานที่ผลิตในประเทศไทย จากนี้วัคซีนแอสตร้าฯก็จะกระจายไปทุกจังหวัดตามแผน เพื่อฉีดวัคซีนในวงกว้างและมีอีกยี่ห้อไปคู่ด้วย ตามนโยบายสาธารณสุขที่มีแผนรองรับกับสิ่งที่ไม่คาดหวังเสมอ
ยืนยันว่าประเทศไทยไม่ได้ขี่ม้าตัวเดียวมาตั้ง แต่ต้นอยู่แล้ว จะเห็นว่ามีม้าที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ขึ้นทะเบียนตัวแรกคือ 'แอสตร้าเซนเนก้า' ต่อมามี ซิโนแวค จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน โมเดอร์นา และล่าสุด คือ ซิโนฟาร์ม และจะมีตัวต่อๆ ไป ตราบใดที่ผู้ผลิตวัคซีนมีความมั่นใจว่าผลิตภัณฑ์ของเขามีคุณภาพที่ดีสามารถทำให้ประชาชนของเรา มีความปลอดภัยจากการระบาดของโรคโควิดได้เขาก็จะมาขึ้นทะเบียนกับ อย. ที่มีผู้เชี่ยวชาญพิจารณาได้เร็ว และเป็นไปตามมาตรฐาน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
