'หมอโอภาส' ยัน 7 มิ.ย.ได้ฉีดวัคซีนแน่ เตรียมลงนามจองไฟเซอร์สัปดาห์หน้า
อธิบดีกรมควบคุมโรค ยันแผนกระจายวัคซีนเป็นไปตามแผนเริ่ม 7 มิถุนายน ไม่มีเลื่อน สัปดาห์หน้าเตรียมลงนามจองไฟเซอร์
นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค ชี้แจงแผนการกระจายวัคซีนว่าเป้าหมายสำคัญที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีกลาโหมได้ให้นโยบายว่าคนไทยรวมไปถึงชาวต่างชาติที่อยู่ในประเทศไทยที่สมัครใจรับวัคซีน จะได้รับการฉีดวัคซีนโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายทุกคน อยู่ขณะนี้รัฐบาลมีจุดบริการวัคซีนนอกสถานพยาบาลสามารถรองรับประชาชนได้มากถึง1หมื่นคนต่อวัน โดยตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์จนถึงปัจจุบัน สามารถฉีดให้กับประชาชนไปแล้วกว่า 3.6 ล้านโดส สำหรับเป้าหมายการจัดหาวัคซีนในปี 2564 นายกรัฐมนตรีได้ให้นโยบายว่า จะต้องหาวัคซีนให้ได้ 100 ล้านโดส และในปี 2565 ต้องจัดหาให้ได้150 ล้านโดส โดยเป็นการเผื่อวัคซีนสำหรับการกระตุ้นภูมิคุ้มกันรวมทั้งรองรับหากมีเชื้อกลายพันธุ์ ที่จะต้องมีการเตรียมไว้อย่างน้อย 50 ล้านโดส ขอประชาชนอย่าเป็นห่วงว่างบประมาณปี 2565 จะเป็นอย่างไร รัฐบาลมีแนวทางในการจัดสรรงบให้กับกระทรวงสาธารณสุขในการจัดหาวัคซีน ไม่ว่าจะเป็นงบเงินกู้หรืองบกลาง ซึ่งความต้องการของประชาชนในการฉีดวัคซีนโดย เฉพาะในพื้นที่ที่มีการแพร่ระบาดอย่างมาก โดยเฉพาะภายในกรุงเทพฯที่ฉีดไปแล้วกว่า1ล้านโดส ช่วยให้สามารถระงับยับยั้งและชะลอการแพร่ระบาดได้ส่วนหนึ่ง
นายแพทย์โอภาสขณะนี้ได้มีการจัดหาวัคซีนตามแผนโดย วัคซีนซิโนแวค 6 ล้านโดส / และลงนามในสัญญาของ astrazeneca ประเทศไทยไปอีก 61 ล้านโดส ที่ขณะนี้ส่งมอบแล้ว 2 ล้านโดส ซึ่งในปีนี้ไทยยัง ขาดวัคซีนอยู่ 33 ล้านโดส ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้ให้วัคซีนเพิ่มเติมที่ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการลงนามสัญญาสั่งจองจัดหาวัคซีน จากบริษัทไฟเซอร์ ที่จะมีความชัดเจนในสัปดาห์หน้า ส่วนวัคซีนของจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน อยู่ในขั้นตอนการเตรียมทำสัญญาร่างลงนามสั่งจอง ซึ่งทั้งสองวัคซีนนี้คาดว่าจะได้สั่งจองได้ 25 ล้านโดส นอกจากนี้ยังมีแผนสั่งซื้อวัคซีนซิโนแวคอย่างน้อย 8 ล้านโดสเพื่อให้ครบ 100 ล้านโดส
อธิบดีกรมควบคุมโรค ยืนยันว่า วัคซีนของซิโนแวคและastrazenecaได้ผ่านการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา หรือ อย.รวมทั้งองค์การอนามัยโลกเป็นวัคซีนที่ใช้ในภาวะสถานการณ์ฉุกเฉินเหมือนกันทั่วโลก รวมทั้งผู้เชี่ยวชาญด้านวัคซีนได้ทบทวนวัคซีนทั้งสองชนิดที่ไทยมีอยู่สามารถฉีดให้กับประชาชนที่มีอายุ18ปีขึ้นไป โดยไม่มีการจำกัดอายุแล้ว ซึ่งในเดือนมิถุนายนนี้จะมีวัคซีนถึง6ล้านโดส ซึ่งนายกรัฐมนตรีร่วมกับสมาคมและกระทรวงสาธารณสุขได้หารือร่วมกันว่าส่งมอบกระจายในทุกสัปดาห์ตามจำนวนประชาชนรวมไปถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของจังหวัดนั้นๆ และจังหวัดชายแดนและพื้นที่เศรษฐกิจ ซึ่งเป็นแผนพิเศษที่จะต้องมีแรงงานในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจเนื่องจากมีการระบาดในโรงงานหลายแห่งซึ่งเป็นไปตามแผนเริ่มวัคซีนแบบเต็มระบบตั้งแต่วันที่7มิถุนายนนี้