'วัคซีนโควิดเชื้อตายไทยทำ' ผลต่อกลายพันธุ์ดี

'วัคซีนโควิดเชื้อตายไทยทำ' ผลต่อกลายพันธุ์ดี

วัคซีนโควิดอภ.ชนิดเชื้อตาย  ผลทดลองในคนระยะ 1 ภูมิคุ้มกันขึ้นได้ดี เดินหน้าศึกษาระยะ 2 ต้นส.ค.นี้  ทดสอบกับสายพันธุ์กลายพันธุ์ผลลัพธ์ค่อนข้างดี ภูมิคุ้มกันไม่ได้ลดลงมากนัก ส่งกรมวิทย์ตรวจวัคซีนตอบสนองสายพันธุ์ใดบ้าง


        ที่กระทรวงสาธารณสุข นพ.วิฑูรย์ ด่านวิบูลย์ ผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม (อภ.) กล่าวถึงความคืบหน้าการศึกษาวิจัยวัคซีนป้องกันโควิด-19 ชนิดเชื้อตายในมนุษย์ระยะที่ 1 ว่า การพัฒนาวัคซีน HXP-GPOVac เป็นความร่วมมือระหว่างคณะเวชศาสตร์เขตร้อน มหาวิทยาลัยมหิดล ร่วมกับอภ. ซึ่งเริ่มทดลองในอาสาสมัครระยะที่ 1 เมื่อเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา จากนั้นได้ส่งไปตรวจในห้องปฏิบัติการ(แล็ป)ที่ได้มาตรฐานจากหลายสถาบัน อาทิ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) และางประเทศ
      “ผลที่ออกมาเบื้องต้นพบว่าค่อนข้างดี มีภูมิคุ้มกันตอบสนองได้ดี เป็นที่น่าประทับใจมาก ทั้งนี้จะมีการรายงานผลการทดสอบอย่างเป็นทางการในเดือน ก.ค.นี้ และจะเลือกวัคซีน 2 สูตรที่ให้ผลดีที่สุด จากที่มีการทดลองไป 5 สูตร เพื่อมาทำการทดลองระยะที่ 2 ในอาสาสมัคร 250 คนในราวเดือนส.ค. และเลือก 1 สูตรที่ดีที่สุดเพื่อลดลองในระยะที่ 3 ต่อไป”นพ.วิฑูรย์กล่าว   

162459849023

       นพ.วิฑูรย์ กล่าวด้วยว่า  ปัจจุบันวัคซีนโควิด 19 ทุกชนิดก็ตั้งต้นพัฒนามาจากเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 สายพันธุ์อู่ฮั่น ซึ่งวัคซีน HXP-GPOVac ก็เป็นการทดลองกับเชื้อไวรัสสายพันธุ์อู่ฮั่น แต่ใช้เทคโนโลยีล็อคโปรตีนไวรัส 6 ตำแหน่ง เมื่อเทียบกับวัคซีนตัวอื่นที่มีการล็อคโปรตีนไวรัส 2 ตำแหน่ง ซึ่งการล็อคตำแหน่งโปรตีนหลายจุดนั้นจะทำให้ร่างกายจดจำเชื้อได้หลากหลายกว่า สร้างภูมิคุ้มกันได้กว้างกว่า และผลการทดสอบของอภ.ที่ออกมาก็พบว่าภูมิคุ้นกันขึ้ดีมาก และเมื่อนำมาทดสอบกับสายพันธุ์อัลฟา (อังกฤษ) ก็ให้ผลลัพธ์ค่อนข้างดี ภูมิคุ้มกันไม่ได้ลดลงมากนัก
      ขณะนี้อยู่ระหว่างการทดสอบกับสายพันธุ์เบตา (แอฟริกาใต้) และสายพันธุ์เดลตา (อินเดีย) และส่งตรวจที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เพื่อดูว่าวัคซีนตอบสนองกับสายพันธุ์ใดบ้าง สำหรับเทคโนโลยีนี้ ในรุ่นต่อไปจะมีการเปลี่ยนหัวเชื้อ เปลี่ยนเชื้อต้นแบบ อาจจะมีการนำเชื้อหลายสายพันธุ์มารวมกัน เอาสไปรท์โปรตีนของแต่ละสายพันธุ์รวมกัน เพื่อดูประสิทธิภาพของวัคซีน

        “วัคซีนมีความปลอดภัยและกลุ่มอาสาสมัครเองก็ปลอดภัย อยู่ในเกณฑ์ดีหมดทุกคน อาจมีบางรายที่ตั้งครรภ์และออกจากการศึกษาไป และยังไม่มีผู้ที่แพ้วัคซีนรุนแรง”นพ.วิฑูรย์กล่าว