'นายกฯ'จ่อขยาย'แซนด์บ็อกซ์'รับท่องเที่ยวทุกภาค ลั่น ภูเก็ตอย่าพลาด
"นายกฯ" เผย พอใจ การเตรียมการ "ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์" เชื่อ นทท. จะมากขึ้น เล็งขยายไปทุกภาค เพื่อเป็นส่วนในการเปิดประเทศ ใน120 วัน ตรงไหนเปิดได้ให้เปิด รับ มีความเสี่ยง แต่ต้องแลก เพื่อให้ทำมาหากินได้ ลั่น ภูเก็ตอย่าพลาด คนทั้งประเทศดูอยู่ ย้ำ สถานที่ไหนระบาด จำเป็นต้องปิด ถ้าโจมตีกันประเทศไม่ก้าวหน้า
ที่โรงแรมรอยัลภูเก็ตซิตี้ อ.เมือง จ.ภูเก็ต พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เป็นประธานการประชุมติดตาม Phuket Sandbox โดยภายหลังการประชุม นายกฯ แถลงระบุว่า จากการตรวจการเตรียมการ ได้รับฟังคำชี้แจงจากผู้เกี่ยวข้อง ตนเห็นแล้วอุ่นใจขึ้น ว่ามีการเตรียมการอย่างไร การทำงานสอดประสานกับศบค. และรัฐบาล ตนถือว่าเป็นที่น่าพอใจ และพร้อมจะเป็นกำลังใจให้จ.ภูเก็ต วันนี้ได้รับ รายงานมีเที่ยวบินเข้ามาแล้ว ตั้งแต่เมื่อ 11.00 น. และมีการจองไปมาเป็นระยะ 14-15 วันข้างหน้า รวมถึงไตรมาสต่อไปน่าจะ มีมากขึ้น ถ้าเราทำตรงนี้สำเร็จด้วยคนไทยทุกคน
"ถ้าเราทำภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ได้ เราก็จะขยายไปที่อื่นได้ วันนี้ผมก็สั่งแนวทางว่าภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์จะนำไปใช้เป็นแซนด์บ็อกซ์ที่อื่นอีกได้ไหม ในทุกภาคที่มีการท่องเที่ยว มันต้องไปทีละขั้นทุกอย่างมันต้องมีการเริ่มต้นนับหนึ่งเสมอ ถ้าเปิดโครมทีเดียวมันมีปัญหาหมด เข้าใจไหมเพราะการสัญจรไปมามันก็คือปัญหา เราต้องเร่งรัดภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ ก็เพราะมีศักยภาพอยู่แล้ว และมีพื้นที่ควบคุมได้ เพียงแต่ขอความร่วมมือและมีความเดือดร้อนสำหรับประชาชนทั่วไปที่อยู่อาศัยอยู่บ้างเพราะต้องมีการตรวจคัดกรอง ท่านก็ต้องรักพื้นที่ของท่าน รักจังหวัดของท่านถ้าไม่ทำแบบนี้จังหวัดของท่านก็ไปไม่ได้ เศรษฐกิจ 90 กว่าเปอร์เซนต์เป็นเรื่องของการท่องเที่ยวและบริการซึ่งยึดโยงไปหลายอย่างด้วยกัน วันนี้ก็ดีใจที่ได้รับการชี้แจงอย่างนั้น" นายกฯกล่าว
นายกฯ กล่าวอีกว่า วันนี้ก็ดีใจที่ได้รับคำชี้แจงอย่างนั้น และอยากย้ำว่าการเปิดภูเก็ต ไม่ใช่เป็นเรื่องของภูเก็ตอย่างเดียว แต่เป็นเรื่องของทั้งประเทศ ทุกจังหวัดที่จะต้องมีการเริ่มนำร่องดูความเหมาะสม ดูประสิทธิภาพของมาตรการและขั้นตอนต่างๆ ให้เป็นส่วนหนึ่งในการเดินหน้าให้ประเทศไทยเดินไปข้างหน้าภายใน 120 วันตามที่ตนพูด ตรงไหนเปิดได้เปิด ตรงไหนทำได้ทำ ตัวอย่างจะเกิดขึ้นอย่างนี้
นายกฯ กล่าวว่า บางประเทศในยุโรปมีผู้เสียชีวิตเพิ่มกลับมาอีก ประเทศที่มีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวประเทศไทยจำนวนมากทุกปี วันนี้มีสถิติเข้ามาอีกแล้ว เสียชีวิตวันละ 650 คน แล้วเราจะประมาทได้หรือไม่ เราต้องรอบคอบทำอะไรก็ตามนึกถึงชีวิตประชาชนเสมอ เรื่องของเศรษฐกิจธุรกิจก็ต้องเดินไปด้วยอย่างระมัดระวัง เดินอย่างผ่อนคลาย แต่ถ้าไม่ปฏิบัติตามคำสั่งมันก็จำเป็นต้องมีมาตรการ ก็มีอย่างเดียวกฎหมาย ถ้าเราไม่มีสักอย่างเลยไม่ได้หรอก เราอยู่ไม่ได้โลกวันนี้อยู่ไม่ได้ ทั้งนี้ สถิติดังกล่าวทำให้บางประเทศ ต้องมีมาตรการควบคุมโรคซ้ำอีก เปิดแล้วก็ต้องปิด นั่นคือความเสี่ยงที่เราจะยอมรับได้บ้างไหม
"เรารู้อยู่แล้วว่ามีความเสี่ยง แต่เพื่อจะให้ประชาชนคนไทยได้ทำมาหากินได้บ้าง สิ่งสำคัญที่สุดคือเรารับไหวไหม รับ ความเสี่ยงพอได้ไหม ถ้าเราพร้อมอย่างนี้ เราดูสิทำได้ไหม ทำได้ก็ทำต่อไปเป็นขั้นๆ เป็นพื้นที่ๆไป ผมก็ห่วงใยหลายจังหวัด อยากให้ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ ทำให้สำเร็จเพื่อเป็นแนวทางในการปฏิบัติต่อไป ไปถึงเป้าหมายใหญ่ของเรา" นายกฯ กล่าวว่า
นายกฯ กล่าวว่า ขอให้ชาวภูเก็ตทุกคนช่วยกันระมัดระวังอย่างที่สุดในทุกอย่าง ช่วยกันทำตามกฎกติกาอย่างเคร่งครัด ไม่มีการฝ่าฝืนมาตรการต่างๆ ไม่มีการพาคนเข้าหรือออกจากพื้นที่โดยไม่ถูกขั้นตอน จะต้องคำนึงถึงความรับผิดชอบ ตอบประเทศของเราตลอดเวลา ทุกอย่างที่เกิดในภูเก็ตนั้น มีผลต่อทั้งประเทศ ก็ขอให้ชาวภูเก็ตและประชาชนทุกคนได้มีความภูมิใจ นี่คือการทำภารกิจเพื่อชาติของท่าน ภูเก็ตกำลังทำหน้าที่เพื่อชาติของท่าน เพื่อประเทศของท่าน ในฐานะเป็นผู้นำที่จะเปิดแซนด์บ็อกซ์ตรงนี้ขึ้นมา ทั้งประเทศกำลังรอดูท่านอยู่ อย่าพลาด คนในจังหวัดอื่นๆก็ต้องให้กำลังใจชาวภูเก็ต
นายกฯ กล่าวว่า หลายประเทศมีความตั้งใจจะมาประเทศไทย มีบางประเทศที่ไม่เคยมีเที่ยวบินมาประเทศไทย ก็เริ่มมา น่าแปลกใจหรือไม่ แสดงว่าเขาเห็นว่ามาตรการที่เราเปิดที่ภูเก็ตเป็นมาตรการที่ยอมรับได้ แล้วเขายอมปฏิบัติตามกติกาของเรา ถ้าเปิดมั่วไปหมด มันก็มีปัญหาเหมือนเดิม ขอให้เข้าใจว่ารัฐบาลมีความห่วงใยท่านเสมอ ผมไม่เคยทิ้งประชาชนเลย ผมไม่เคยทิ้งให้ใครอยู่ข้างหลัง แต่ทุกอย่างมันต้องค่อยแก้ปัญหาไป ไม่ว่าจะ SMEs เรื่องหนี้ ทุกอย่างต้องทำไปด้วยกันหมด วันนี้เราต้องทำให้ประเทศไทยเราใหม่ ปฏิรูปเศรษฐกิจ การค้าการลงทุน เราเปิดประเทศจากโควิดต่อไปเราก็ต้องเปิดประเทศไปสู่โลกกว้างข้างนอก พ้นกับดักประเทศรายได้ปานกลาง นั่นคืออนาคตประเทศไทย ซึ่งพร้อมทุกอย่าง เราเดินหน้ามา 6-7 ปีแล้ว ทำอะไรไว้เยอะแยะพอสมควร แต่เมื่อมีโควิดเราก็พร้อมจะเปิดไปตรงโน้นเพื่อให้คนเห็นว่าประเทศไทยมีศักยภาพด้านอื่นเหมือนกัน เราต้องช่วยกันพัฒนาตัวเอง คน ความคิด จิตสำนึกสาธารณะ เผื่อแผ่แบ่งปัน ไม่สนับสนุนการทุจริต นั่นคือมาตรฐานที่ตนต้องการในอนาคต แล้วเราจะทำให้
"อย่าไปแปลเจตนาผิดเวลานายกฯ พูดอะไรออกมา ไปแปลเจตนาเป็นคนละเรื่องเลย แล้วผมก็เยอะไง เรื่องมันเยอะหลายเรื่อง ถามเรื่องโควิดสถานการณ์อื่นผมก็ต้องทำด้วย วันๆผมก็ทำงานทุกงาน มันหยุดนิ่งไม่ได้ประเทศ เราอย่าทำอะไรให้มาดึงขารั้งขา ทุกอย่างมันก็เกิดขึ้นไม่ได้ มันก็ช้าไปหมด ขอฝากแค่นี้ ผมอารมณ์ดีนะเนี่ย มาวันนี้ดีใจ ถ้าเราเผชิญหน้ากันด้วยความรักความเห็นใจซึ่งกันและกัน นี่คือพลังสำคัญมากที่สุดกว่าอย่างอื่น ความร่วมมือก็จะเกิดขึ้น ถ้าทุกคนคอยแต่จะจ้องหลบเลี่ยงได้อย่างไร มาตรการนี้จะเลี่ยงได้อย่างไร ผมว่าไม่มีทางสำเร็จ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสถานประกอบการที่จะต้องเอาคนจำนวนมากมาอยู่ด้วยกัน ก็เห็นอยู่แล้วว่ามันแพร่ระบาด มันก็จำเป็นต้องปิด ถ้าไม่มีการแพร่ระบาดมันก็ไม่ต้องปิด ทั้งนี้ คนที่อยู่นอกระบบประกันสังคมรัฐบาลก็ดูแล เอาเงินจากประกันสังคมที่คนอื่นก็จ่ายมาหลายปี นั่นคือความร่วมมือของทุกคนนะจ๊ะ ต้องเชื่อมั่นรัฐบาลกับเชื่อหมอ อย่าไปเชื่อคนอื่น เพราะทุกคนทำงานอย่างทุ่มเทเสียสละ การโจมตีซึ่งกันและกันไม่เกิดประโยชน์กับใครเลย ความก้าวหน้ากับประเทศไทยเกิดไม่ได้ทั้งหมด พาติดกับกันอยู่ที่เดิม