‘MUJI’ เปิดใหม่คอนเซปต์สโตร์ 1,800 ตารางเมตร โชว์ปรัชญา ‘มูจิ’ เต็มรูปแบบ

ภาพลักษณ์แบรนด์ที่ชัดเจนกับ 'ความเรียบง่าย ดูดี มีรสนิยม' ทำให้ MUJI (มูจิ) แห่งญี่ปุ่น กลายเป็นแบรนด์สินค้าไลฟ์สไตล์ที่ได้รับความนิยมในหลายประเทศ

‘มูจิ’ ก่อตั้งขึ้นครั้งแรกในประเทศญี่ปุ่นในปีค.ศ.1980 (พ.ศ.2523) มีผลิตภัณฑ์คุณภาพดีมากมายหลากหลาย รวมทั้งของใช้ในครัวเรือน เครื่องแต่งกาย และอาหาร

ชื่อ ‘มูจิ’ ย่อมาจากคำในภาษาญี่ปุ่น Mujirushi Ryohin  มีความหมายว่า No-brand quality goods หรือ ‘สินค้าคุณภาพดีที่ไม่มียี่ห้อ’ โดยตั้งอยู่บนหลักการ 3 ข้อ ซึ่งยังคงไม่เปลี่ยนแปลงจนถึงทุกวันนี้ นั่นก็คือ

• การเลือกสรรวัสดุ
• ปรับปรุงพัฒนากระบวนการต่างๆ
• สร้างบรรจุภัณฑ์ที่เรียบง่าย

ร้านมูจิโฉมใหม่บนชั้น 7 ห้างเซ็นทรัล ชิดลม เปิดบริการแล้ว

มูจิประกาศชัดเจนว่า ผลิตภัณฑ์ของ MUJI เกิดขึ้นจากกระบวนการผลิตที่สมเหตุสมผลที่สุด มีความรวบรัด แต่ไม่ใช่สไตล์มินิมอล หมายความว่า ผลิตภัณฑ์ต่างๆ เปรียบเสมือน ภาชนะที่ว่างเปล่า ความเรียบง่ายและความว่างเปล่าก่อให้เกิดความเป็นสากลขั้นสูงสุด เป็นการยอมรับความรู้สึกและความนึกคิดของทุกคน

มูจิได้รับการยอมรับในเรื่องของ การประหยัดทรัพยากร, ราคาต่ำ, เรียบง่าย, ไม่มีลักษณะโดดเด่น และ มุ่งเน้นความเป็นธรรมชาติ ซึ่งมูจิตั้งเป้าที่จะยึดถือหลักการเหล่านั้นทั้งหมดอย่างเป็นสัดส่วนที่เหมาะสม ไม่มุ่งเน้นไปที่หลักข้อใดข้อหนึ่งมากจนเกินไป

แต่ ‘มูจิ’ ไม่ได้หยุดพัฒนาผลิตภัณฑ์เพียงอยู่เพียงเท่านั้น หลังญี่ปุ่นประสบภัยแผ่นดินไหวโทโฮคุครั้งประวัติศาสตร์เมื่อวันที่ 11 มีนาคม พ.ศ.2554 เกิดความเสียหายและซากหักพังมากมาย 'มูจิ' เป็นเอกชนรายหนึ่งของญี่ปุ่นที่คิดทบทวนการทำงานของตนเอง และตัดสินใจมุ่งมั่นที่จะผลิตและออกแบบสินค้าด้วยคอนเซปต์ 'เพียงพอ' ลดการใช้วัตถุดิบเกินความจำเป็น ลดขนาดและน้ำหนักที่เกินกว่าความต้องการ ตอบสนองวัตถุประสงค์การใช้งานอย่างพอเหมาะพอเพียงบนพื้นฐานคำว่า Monozukuri (โมโนซุคุริ) หรือ 'หัตถศิลป์' คือยังคงเป็นผลิตภัณฑ์ที่สวยงามน่าใช้ รวมทั้งยินดีเป็นสื่อที่จะสนับสนุนไม่ให้คนบริโภคเกินความต้องการมากไป

งานไม้ชัดๆ ที่ร้านมูจิ คอนเซปต์ สโตร์ โฉมใหม่ ที่เซ็นทรัล ชิดลม ชั้น 7

มูจิเข้ามาเปิดสาขาแรกและเป็นครั้งแรกในประเทศไทยที่ ห้างเซ็นทรัล ชิดลม เมื่อปีพ.ศ.2556 และขยายสาขาไปถึง 21 แห่ง ล่าสุดปีพ.ศ.2564 มูจิตัดสินใจนำประสบการณ์เต็มรูปแบบตามปรัชญามูจิมาให้ลูกค้าชาวไทยได้สัมผัสและเรียนรู้กันอย่างเต็มที่ โดยย้ายพื้นที่จำหน่ายจากชั้น 3 เซ็นทรัล ชิดลม ขึ้นไปยังชั้น 7 เปิดเป็น ร้านมูจิ โดยใช้พื้นที่ถึง 1,800 ตารางเมตร ถ้าคิดว่าเป็นคอนโดมิเนียมใจกลางเมือง ร้านมูจิคอนเซปต์สโตร์แห่งนี้ก็มีพื้นที่เทียบเท่ากับห้องขนาด 30 ตารางเมตร  ถึง 60 ห้อง

ร้านมูจิ คอนเซปต์ สโตร์ แห่งนี้ สาวกมูจิในไทยจะได้พบประสบการณ์ที่หาไม่ได้จากมูจิสาขาอื่นๆ ในประเทศ นับตั้งแต่เรื่องการออกแบบที่มีคอนเซปต์หลักคือ ‘ความเรียบง่าย’ และ ‘เป็นธรรมชาติ’  จึงได้เลือกใช้ไม้เก่าที่คัดสรรแล้วจากพื้นที่ต่างๆ ในประเทศไทย เพื่อให้ลูกค้าที่เข้ามาในร้านรู้สึกถึงความง่ายๆ สบายๆ 

สำหรับพื้นที่อื่นๆ ของร้าน ก็จะเลือกใช้วัสดุที่แตกต่างกันเพื่อให้เข้ากับสินค้าในบริเวณนั้นๆ โดยไม่ลืมว่าจะใช้วัสดุจริง เช่น ไม้ ทราย อิฐ เหล็ก ฯลฯ เพื่อให้ลูกค้าสามารถสัมผัสและรู้สึกไปกับวัสดุนั้นได้อย่างแท้จริง นอกจากนี้ ลูกค้ายังจะได้สัมผัสประสบการณ์ใหม่จากผลิตภัณฑ์ และบริการของ ‘มูจิ’ ที่เกิดขึ้นเป็นที่แรกในประเทศไทย ดังนี้

Muji Showroom หรือพื้นที่จัดแสดง "บ้านมูจิ"

MUJI Showroom : ครั้งแรกของการเปิดโชว์รูมที่จำลองบรรยากาศบ้านสไตล์มูจิ บนเนื้อที่กว่า 50 ตารางเมตร พร้อมให้ได้ลองเข้าไปสัมผัสบรรยากาศอันเรียบง่ายและรื่นรมย์ของห้องที่ตกแต่งด้วยสินค้ามูจิที่ได้รับการออกแบบอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด และใช้งานจริงได้อย่างหลากหลาย อาทิ

• เตียงนอน ตู้เสื้อผ้า โซฟานั่งพักผ่อน โต๊ะวางโทรทัศน์พร้อมชั้นวางของ สำหรับห้องที่มีพื้นที่จำกัด

ห้องนอนเชื่อมต่อพื้นที่นั่งเล่น

โต๊ะวางโทรทัศน์พร้อมฟังก์ชั่นชั้นวางของ

• เก้าอี้และโต๊ะกลางสำหรับห้องรับแขก
• ห้องน้ำพร้อมสุขภัณฑ์เต็มรูปแบบ

ห้องน้ำสไตล์มูจิ และ ตู้เสื้อผ้าสำหรับห้องนอน

พื้นที่ครัว พร้อมเครื่องใช้สินค้ามูจิ

แอคเซสซอรี่ส์ในครัวแบบ "แม่เหล็ก" ไม่ต้องเจาะผนัง, ตู้เก็บของใช้ในครัวสไตล์มูจิ

• พื้นที่ห้องครัวสุดกระทัดรัดแต่เพียบพร้อมด้วยประโยชน์ใช้สอยสไตล์มูจิ ไม่ว่าจะเป็นตู้สูงเก็บของใช้ในครัว เคาน์เตอร์เตาประกอบอาหาร อ่างล้างจาน ตู้ลอยเก็บของ โดยเฉพาะแอคเซสซอรี่ส์ในครัว เช่น ที่แขวนกระดาษเอนกประสงค์ ที่แขวนถุงมือ ผ้าเช็ดมือ ที่เก็บพลาสติกห่ออาหาร ที่เป็น "แม่เหล็ก" สำหรับติดตั้ง โดยไม่ต้องเจาะผนัง

ตอบโจทย์ทั้งการอยู่อาศัยทั้งแบบของบ้านและคอนโดมิเนียม ลูกค้าจะได้สัมผัสถึงศิลปะการออกแบบร่วมสมัยของมูจิ ที่สามารถนำไปตกแต่งในบ้านได้แบบที่เรียบง่ายแต่ลงตัว

พื้นที่แสดงสินค้าธีม MUJI IDEE

เสื้อผ้า, ภาพประดับผนังในกรอบ และสินค้าอื่นๆ ในพื้นที่ MUJI IDEE

MUJI IDÉE : ครั้งแรกของเสื้อผ้าและของใช้รูปแบบใหม่ตามแนวคิดเพราะ “ชีวิตคือทุกวัน” จึงมอบความเพลิดเพลินในการอยู่อาศัย ด้วยคุณค่าทางความงามและความสนุกสนาน สิ่งของธรรมดาที่คุ้นเคยในชีวิตประจำวัน ได้รับการออกแบบและทดลองอะไรใหม่ๆ โดยไม่ยึดติดกับรูปแบบดั้งเดิม แต่ยังคงความเป็นสากลและสวยงาม ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน

ผลิตภัณฑ์ที่จัดแสดงขณะนี้คือ Iroiro No Fuku ซีรีส์เครื่องแต่งกายที่นำเสนอสีอันอันหลากหลายตามธีมฤดูกาลที่เหมาะสำหรับ การใส่ซ้อนกันกับเสื้อตัวอื่นๆ อย่างไร้รอยต่อ ไม่ว่าจะสวมโค้ทหรือเสื้อตัวใน เดรสกระโปรงที่คู่กับกางเกงภายใน เพลิดเพลินไปกับการผสมผสานเฉดสีรูปแบบต่างๆ และรูปแบบการแต่งกายใหม่ๆ จนไม่รู้เบื่อ ด้วยดีไซน์อันเป็นมาตรฐานที่ลดทอนสิ่งที่ไม่จำเป็นออกไป คงเหลือแต่คุณภาพและการใช้งานได้ในทุกโอกาส

มุมเบเกอรี่และเพสตรี้

มุมจำหน่ายข้าวกล่องเบนโตะประจำวัน

Daily Food & Bakery : โซนอาหาร ช่วงโควิดระลอกที่สี่แบบนี้จัดบริการให้ซื้อกลับบ้านเท่านั้น มีอาหารญี่ปุ่นรับประทานง่ายหลายประเภท ดังนี้ ข้าวปั้นห่อสาหร่ายรูปทรงสามเหลี่ยม (Onigiri) อาทิ ทูน่ามาโย, ชิโสะ อูเมะโบชิ, ซาบะ เทอริยากิ, แซลมอน ชิโอะยากิ, คาราชิ เมนไทโกะ ราคาเมนูละ 39 บาท

ข้าวกล่องเบนโตะประจำวัน ราคาชุดละ 159 บาท ซึ่งจะเปลี่ยนไปทุกวัน ดังนี้

• วันจันทร์-อังคาร : ทงคัตสึ เบนโตะ, แซลมอน ชิโอะยากิ เบนโตะ
• วันพุธ-พฤหัสฯ : ยากิโทริ เบนโตะ, แซลมอน คัตสึ เบนโตะ
• วันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ : เอบิทอดเบนโตะ, แฮมเบิร์กหมูเบนโตะ, ซาบะ ชิโอะยากิ เบนโตะ

ข้าวห่อสาหร่ายแบบสี่เหลี่ยม (Onigirazu) ราคาชุดละ 89 บาท อาทิ แซลมอน เทอริยากิ, กุ้งคัตสึ, หมูคัตสึ, ไส้กรอก-ไข่หวาน ร่วมด้วย เซตแซนด์วิชไข่ต้ม-ไข่ม้วน-ทูน่า (79 บาท และ 89 บาท) ไปจนถึง สลัดผักออร์แกนิค ชุดละ 139 บาท

ปรุงสดใหม่วันต่อวันเพื่อให้ลูกค้าได้ลิ้มรสอาหารคุณภาพเยี่ยม และช่วยสนับสนุนผู้ผลิตท้องถิ่น ในราคาที่คุ้มค่า โดยเฉพาะ "ชุดข้าวกล่องเบนโตะประจำวัน" ได้รับความนิยมมาก แค่เที่ยงกว่าๆ สินค้าก็หมดแล้ว

สลัดผักออร์แกนิค

ไอศกรีม มูจิ มีรสชาติมัตฉะ, ช็อกโกแลต, องุ่นเคียวโฮ, ส้มยูสึ เป็นอาทิ

มูจิ คอฟฟี่ คอร์เนอร์ ที่ร้านมูจิ ชั้น 7 เซ็นทรัล ชิดลม

MUJI Coffee Corner :  บริการเครื่องดื่มประเภท เอสเพรสโซช็อต, อเมริกาโน, คาปูชิโน, ลาเต้, มอคค่า, ช็อกโกแลต, มัตฉะลาเต้, อเมริกาโนน้ำส้ม, มัตฉะสตรอว์เบอร์รี่, โซดาผลไม้ ด้วยบรรยากาศอันผ่อนคลายและอบอุ่น เหมาะแก่การนั่งพักผ่อนและดื่มด่ำกาแฟคุณภาพเยี่ยม พร้อมขนมเค้กและขนมกินเล่น อาทิ มัตฉะโรลเค้ก, ชีสเค้กหน้าไหม้, ช็อกโกแลตบราวนี่, บามคูเฮน (Baumkuchen), นิวยอร์กชีสเค้ก, เค้กมะพร้าว, แอปเปิล เอิร์ลเกรย์

สำหรับเครื่องดื่มประเภทกาแฟ มูจิตั้งใจเลือกใช้  เมล็ดกาแฟจากดอยตุง เชื่อมโยงความผูกพันต่อ โครงการหลวง ที่มูจิได้มีส่วนในการสนับสนุนผลิตภัณฑ์อันหลากหลายจากโครงการดอยตุงเสมอมา

MUJI Green มุมสดชื่นเพื่อบ้าน 

MUJI GREEN : ต้นไม้ที่เหมาะสำหรับการเลี้ยงในสภาพแวดล้อมภายในบ้าน เพื่อให้คุณสามารถอยู่ร่วมกับธรรมชาติได้อย่างใกล้ชิด และเพื่อให้ทัศนวิสัยภายในห้องดูรื่นหูรื่นตามากขึ้น

 

สมาชิกวัยเยาว์ในบ้านสนุกกับจอดิจิทัลในพื้นที่ Kids Play Space

Kids Play Space : ครั้งแรกของพื้นที่สร้างสรรค์สำหรับน้องๆ ตัวน้อย พร้อมเสริมจินตนาการไปกับกระดานดำดิจิตัลเป็นสื่อให้เล็กๆ ได้ฝึกทักษะต่างๆ แบบไม่รู้ตัว เพราะเหมือนกำลังได้เล่นสนุกอยู่กับหน้าจอดิจิทัลที่มีพร้อมทั้งกราฟิกสีสันสดใสสวยน่ารัก อันเป็นความร่วมมือระหว่างมูจิ และ ทีมแลป (teamLab) กลุ่มนักสร้างสรรค์ชาวญี่ปุ่นจากหลากหลายอาชีพ ที่รวมตัวกันนำดิจิตัลมาเป็นผืนผ้าใบสร้างสรรค์ศิลปะในรูปแบบที่น่าจดจำ

MUJI Labo : ซีรีส์เครื่องแต่งกายที่ไม่จำกัดเพศ เสื้อผ้าที่สามารถสวมใส่ได้ทั้งชายและหญิง แตกต่างกันที่เพียงขนาดเสื้อ เพื่อมอบความอิสระในการค้นหาสินค้าคุณภาพและแปลกใหม่ ที่จะทำให้เครื่องแต่งกายได้วิวัฒนาการเข้ากับสังคมปัจจุบัน สาวกมูจิอาจคุ้นเคยกับพื้นที่นี้บ้างแล้วที่สาขาเซ็นทรัลเวิลด์

RE Muji : สินค้าชิ้นเดิมนำมาย้อมสีคราม เป็นสินค้าชิ้นใหม่

Re MUJI : คือการนำ สินค้าชิ้นเดิม กลับมาผลิตใหม่ด้วยวิธีการย้อมสี เพื่อเป็นการลดขยะและมอบชีวิตใหม่ให้กับสินค้าเหล่านี้ เนื่องจากหลายๆ พื้นที่บนโลกได้เริ่มมีโครงการเกี่ยวกับการรีไซเคิลและการย้อมสีใหม่ ซึ่งมูจิได้นำแนวคิดนี้มาประยุกต์ใช้ เพื่อเป็นการให้ชีวิตใหม่ให้กับผ้าด้วย วิธีย้อมครามแบบญี่ปุ่น ที่มีรากตั้งต้นตั้งแต่สมัยเอโดะ ค.ศ.1603-1868 แต่มูจิใช้กรรมวิธีการย้อมสมัยใหม่เพื่อกันไม่ให้สีบนชุดเลือนออกตามกาลเวลา

ผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม MUJI WALKER 

MUJI WALKER : เครื่องแต่งกายผ้าแห้งเร็วและกันยูวี ออกแบบสำหรับการออกกำลังกายในเมือง ที่สามารถสวมใส่ได้ในชีวิตประจำวัน หรือออกไปท่องเที่ยววันหยุด ที่ไม่ต้องการอุปกรณ์หรือเสื้อผ้าพิเศษ
มากนัก

ONE-SIZE : เครื่องแต่งกายลำลองที่ออกแบบให้สอดรับกับทุกสรีระของผู้หญิงด้วยคอนเซปต์แบบ One-size จึงตอบโจทย์กับทุกความต้องการและสรีระร่างกายอันหลากหลาย

Service Counter : บริการงานปักบนสินค้ามูจิ บริการห่อของขวัญ บริการรับสินค้าที่จองไว้ และบริการปรับความยาวกางเกง

Open MUJI : พื้นที่สำหรับให้ทุกคนมาร่วมแชร์ไอเดียและแรงบันดาลใจ ผ่านการเวิร์คชอป แกเลอรี่ นิทรรศการ และการพูดคุยกับเหล่าครีเอเตอร์

Interior Adviser Service : บริการให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการตกแต่งบ้านที่ประหยัดพื้นที่โดยคำนึงถึงความเรียบง่าย ให้คำแนะนำเกี่ยวกับเฟอร์นิเจอร์ ของใช้ในครัวเรือน โดยการจำลองแบบ 3 มิติให้ลูกค้าได้เห็นภาพเสมือนจริง

รวิศรา จิราธิวัฒน์, มร.มาซาชิ โอกะ, บรม พิจารณ์จิตร

มูจิ คอนเซปต์ สโตร์ บนชั้น 7 ห้างเซ็นทรัล ชิดลม เปิดบริการแล้วตั้งแต่วันที่ 2 กรกฎาคม 2564 โดยได้รับเกียรติจาก รวิศรา จิราธิวัฒน์ ประธานบริหารฝ่ายการตลาด บริษัท สรรพสินค้าเซ็นทรัล จำกัด ในเครือเซ็นทรัลรีเทล, บรม พิจารณ์จิตร กรรมการผู้จัดการ ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เอ็มบาสซี และ เรียว โมริตะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เจซีบี อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) ร่วมแสดงความยินดีกับ มาซาชิ โอกะ ผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ บริษัท มูจิ รีเทล (ประเทศไทย) จำกัด

โอกาสนี้ อกิฮิโร่ คาโมการิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท มูจิ รีเทล (ประเทศไทย) จำกัด ให้ความเห็นไว้ด้วยว่า “มูจิ สาขาใหม่บนชั้น 7 ห้างเซ็นทรัลชิดลม ถือเป็นสาขาที่สร้างสรรค์ด้วยแนวคิดใหม่ทั้งหมด (New concept store) ตั้งแต่แนวคิดการออกแบบร้าน สินค้า และบริการใหม่ทั้งหมด บนเนื้อที่กว่า 1,800 ตารางเมตร ครอบคลุมพื้นที่เกือบทั้งชั้น โดย มูจิ ที่ห้างเซ็นทรัลชิดลม ถือเป็นสาขาแรกของมูจิในประเทศไทย ดำเนินกิจการครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2556 และได้นำเสนอรูปแบบใหม่ของร้านค้าญี่ปุ่นให้กับชาวไทยมาตั้งแต่บัดนั้น จนถึงวันนี้ก็ได้เวลาที่เราจะปรับโฉมภาพลักษณ์ใหม่อีกครั้ง”