ผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่ New High (21 ก.ค.64)

วันอังคารที่ผ่านมา ดัชนีปรับตัวลงต่อเนื่อง แต่สามารถรีบาวด์ได้เพียงเล็กน้อย การปรับตัวลงเป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นต่างประเทศ

จากการที่หลายประเทศมียอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์เดลตาเพิ่มสูงขึ้น กดดันต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ รวมไปถึงราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลงแรงกดดันต่อราคาหุ้นกลุ่มพลังงาน ทำให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,538.86 จุด -17.15 จุด -1.10% มูลค่าการซื้อขาย 92,957 ลบ.ต่างชาติ -811.83 ลบ. TFEX -31,987 สัญญา ตราสารหนี้ +457.47 ลบ.

ปัจจัยบวก

+ ดัชนีดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น 549.95 จุด +1.62% นลท.ช้อนซื้อหุ้นกลุ่มสายการบินและกลุ่มธุรกิจเรือสำราญที่ร่วงหนักเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ขณะที่หุ้นกลุ่มธนาคารดีดตัวขึ้นตามทิศทางอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ และปัจจัยบวกจากผลประกอบการที่ดีเกินคาดของบจ.
+ ราคาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 1 ดอลลาร์ +1.5% ปิด $67.42 ต่อบาร์เรล ได้ปัจจัยหนุนจากนลท.ช้อนซื้อเก็งกำไรหลังจากสัญญาน้ำมันดิบทรุดตัวลงกว่า 7% เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา นลท.จับตารายงานสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐซึ่งนักวิเคราะห์คาดว่าสต็อกน้ำมันดิบจะลดลงกว่า 6 ล้านบาร์เรล
+ ธนาคารกลางจีนประกาศคงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้าชั้นดี (LPR) ประเภท 1 ปี ไว้ที่ระดับ 3.85% และคงอัตราดอกเบี้ย LPR ประเภท 5 ปี ไว้ที่ระดับ 4.65%
+ สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้าน ในเดือนมิ.ย. พุ่งขึ้น 6.3% สู่ระดับ 1.643 ล้านยูนิต สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.590 ล้านยูนิต
+ ครม.ปรับ "ยิ่งใช้ยิ่งได้" เพิ่มวงเงินใช้จ่ายสูงสุดเป็น 1 หมื่นบ./คน/วันขยายถึง 30 พ.ย.64
+สธ. เผยผลศึกษาวัคซีนซิโนแวคในคนไทย พบฉีด 2 เข็ม ช่วยป้องกันติดเดลตา 75%
+สธ.เซ็นสัญญาซื้อวัคซีนไฟเซอร์ 20ล้านโดส นัดส่งมอบภายในไตรมาส 4

ปัจจัยลบ

- ADB ปรับลดคาดการณ์ GDP ของกลุ่มประเทศก้าลังพัฒนาในเอเชียในปี 2564 เหลือ 7.2% จากเดิม 7.3% เนื่องจากการแพร่ระบาดรอบใหม่ของไวรัสโควิด-19 ส่งผลให้ศก.ฟื้นตัวช้า และลดคาดการณ์ GDP ของไทยเหลือเพียง 2% ต่ำที่สุดของประเทศในภูมิภาคอาเซียน จากเดิม 3.0% เนื่องจากการบริโภค การลงทุน และการท่องเที่ยวของไทยได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19
- จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ใหม่ในวันนี้ทำสถิติสูงสุดใหม่ 1.3 หมื่นรายเสียชีวิต 108 ราย
- ธปท.รายงานผลสำรวจนักวิเคราะห์ปรับลดคาดการณ์ GDP ไทยในปีนี้และปีหน้าเหลือ1.3% และ 3.0% ตามลำดับ ประเมินเศรษฐกิจไทยใน Q3 ทรงตัว YoY เนื่องจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 ระลอกเดือน เม.ย. 64 ยืดเยื้อและรุนแรง

แนวโน้มตลาดวันนี้

คาดดัชนีตลาดหุ้นไทยแกว่งตัวผันผวน โดยมีแรงกดดันหลักจากจำนวนผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่ในประเทศที่ทำระดับสูงสุดใหม่ ขณะที่การ Rebound ของตลาดฝั่งยุโรปและอเมริกาเป็นปัจจัยหนุน คาดดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,520-1,550 จุด

กลยุทธ์การลงทุน

• หุ้นที่ได้ประโยชน์จากเงินบาทอ่อนค่า AH SAT NER STA KCE HANA SMT ASIAN
• Defensive Stock ADVANC TTW EASTW BGRIM
• หุ้นกลุ่มโรงพยาบาลและเครื่องมือแพทย์ CHG EKH BCH SMD TM
• หุ้นที่ได้ประโยชน์จากWFH ADVANC DTAC TRUE JAS DIF JASIF ITEL NETBAY YGG AS INSET

หุ้นรายงานพิเศษ

GROREIT (ราคา IPO 10.00 บาท)

• ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ แกรนด์ รอยัล ออคิด โฮสพีทาลิตี้ ซึ่งลงทุนในโครงการโรงแรมรอยัล ออคิด เชอราตัน โฮเทล แอนด์ ทาวเวอร์ส โรงแรมระดับ Upper-upscale (5 ดาว) ภายใต้การบริหารของ Starwood Hotels & Resorts Worldwide, Inc. ซึ่งเป็นบริษัทในเครือกลุ่ม Marriott มีจุดเด่นในเรื่องทำเลที่ตั้งที่อยู่ติดโค้งแม่น้ำเจ้าพระยา ห้องพักทั้งหมดเห็นวิวแม่น้ำ และอยู่ใจกลางกรุงเทพฯ โดยมีห้องพักรวม 726 ห้อง ทั้งนี้ กองทรัสต์มีสัญญาที่ บมจ.โรงแรมรอยัล ออคิด (ประเทศไทย) ซึ่งเป็นเจ้าของเดิมจะรับซื้อทรัพย์สินคืนภายในระยะเวลา 5 ปี

• กองทรัสต์จะได้รับค่าเช่าซึ่งกำหนดไว้ในสัญญาเช่าทรัพย์สิน ปีละ 272 ล้านบาทต่อปี ตลอดอายุสัญญาเช่า โดยระยะเวลาการเช่า 3 ปี และรอยัล ออคิดตกลงที่จะเช่าต่อไปอีก 2 คราว คราวละ 1 ปี และมีข้อกำหนดในการขายทรัพย์สินคืนให้แก่รอยัล ออคิด

• มีนโยบายจ่ายผลประโยชน์ตอบแทนแก่ผู้ถือหน่วยทรัสต์ไม่น้อยกว่าร้อยละ 90 ของกำไรสุทธิที่ปรับปรุงแล้วของรอบปีบัญชี คิดเป็น Yield ราว 6.09% ณ ราคา 10 บาท (อ้างอิง Filing)

• ราคา IPO = 10 บาท จำนวน IPO = 315 ล้านหุ้น คิดเป็นมูลค่า 3,150 ลบ. มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน 2) ซ่อมแซมและปรับปรุงอาคาร 3) สำรองในการบริหารจัดการธุรกิจโรงแรม และ 4) ให้กู้ยืมแก่ แกรนด์ แอสเซท

หุ้นมีข่าว

(+) EKH ( ฺBloomberg Consensus 8.10 บาท) “เอกชัยการแพทย์” แย้มผลงานไตรมาส 2/64 โต รับอานิสงส์โควิด-19 หนุนยอดผู้ใช้บริการพุ่งต่อเนื่อง ส่วนครึ่งปีหลังแนวโน้มสดใสทั้งรายได้และกำไร พร้อมสนับสนุนภาครัฐเพิ่มเตียงสนามภายในวัดโกรกกราก 200 เตียง รองรับผู้ป่วยโควิด-19 เชื่อการตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 และการเข้ารักษาของคนไข้ ดันรายได้ปีนี้โตตามเป้าไม่ต่ำกว่า 20% (ที่มา ข่าวหุ้น)

(+) GLOCON ( ฺBloomberg Consensus - บาท) รับอานิสงส์ WFH หนุนยอดขายอาหารพร้อมทานพุ่ง ดันผลงานไตรมาส 2/2564 เป็นบวก กางแผนครึ่งปีหลังเดินเกมขยายไลน์ผลิตเพิ่ม ผู้บริหารย้ำพร้อมรุกตลาดอาหารผสมกัญชงเต็มรูปแบบหลังรัฐเปิดไฟเขียว คาดเห็นสินค้าไตรมาส 4/2564 มั่นใจผลงานครึ่งปีหลังสดใส หนุนภาพรวมทั้งปีขยายตัวตามเป้ารายได้ทะลุ 2,100 ล้านบาท โต 30% (ที่มา ทันหุ้น)

(+) TPIPP (Bloomberg Consensus 5.00 บาท) ประกาศลุยโรงไฟฟ้าขยะชุมชน 400 เมกะวัตต์ คาดเปิดรับซื้อไฟฟ้าไตรมาส 3 นี้ มั่นใจคว้า 120 MW เข้าพอร์ต พร้อมผนึกพันธมิตรจีนร่วมลงทุนโรงงานแบตเตอรี ในโครงการจะนะ เมืองต้นแบบทั้งปีคาดรายได้ไม่ต่ำกว่า 1.25 หมื่นล้านบาท โบรกส่องกำไรไตรมาส 2 ที่ 1.2 พันล้านบาท โต 13% ครึ่งปีหลังดีต่อเนื่อง (ที่มา ทันหุ้น)

(+) CPW (Bloomberg Consensus 4.96 บาท) บิ๊ก "ปรเมศร์ เหรียญเจริญสุข" CPW เจาะเทรนด์ WFH ยังเป็นปัจจัยหนุนสินค้าไอที มองทิศทางครึ่งปีหลัง 2564 ยังเติบโตเมื่อเทียบกับครึ่งปีแรก มั่นใจยอดขายปี 2564 เติบโต 20% พร้อมขยายสาขา 7 แห่ง ตามแผน ล่าสุดเปิด Personal Shopper รับลูกค้าออนไลน์ ซึ่งดีมานด์ยังสูงต่อเนื่อง จากปีก่อนยอดขายออนไลน์เติบโตเกิน 100% (ที่มา ทันหุ้น)

ปัจจัยจับตา

ในประเทศ

15 - 21 ก.ค. หุ้นกลุ่มธนาคารประกาศงบการเงินงวด 2Q64

22 ก.ค. กำหนดประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจ (ศบศ.) ส.อ.ท. แถลงยอดการผลิตและส่งออกรถยนต์ รถจักรยานยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์

23 ก.ค. กระทรวงพาณิชย์ แถลงตัวเลขการส่งออก-นำเข้า

สัปดาห์ที่ 5 สศอ. แถลงดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม

29 ก.ค. สศค.รายงานภาวะเศรษฐกิจการคลัง ภาวะเศรษฐกิจภูมิภาค ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค

30 ก.ค. ธปท. รายงานภาวะเศรษฐกิจไทย

ต่างประเทศ

21 ก.ค. BOJ เปิดเผยรายงานการประชุม

สหรัฐรายงานสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์จากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงาน

22 ก.ค. ECB ประชุมนโยบายการเงินและแถลงมติอัตราดอกเบี้ย