'กรมราชทัณฑ์' เผยผู้ต้องขังติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มวันนี้ 245 ราย เสียชีวิต 4 ราย
สถานการณ์โควิด-19 "กรมราชทัณฑ์" เผยผู้ต้องขังติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มวันนี้ 245 ราย เสียชีวิต 4 ราย ไม่พบเรือนจำระบาดเพิ่มต่อเนื่องเป็นวันที่ 4
เมื่อวันที่ 27 ก.ค.64 ศาตราจารย์พิเศษวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงยุติธรรมในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ภายในสถานที่ควบคุมของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานการประชุมติดตามการดำเนินงานตาม 5 แผนงานการป้องกันและแก้ไขสถานการณ์ Covid-19 ภายในสถานที่ควบคุมของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงยุติธรรม ครั้งที่ 47/2564 โดยมี นางสาวณัฐธ์ภัสส์ ยงใจยุทธ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงยุติธรรมนายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ นายกฤช กระแสร์ทิพย์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมผ่านระบบการประชุมทางไกล (Video Conference) ร่วมกับผู้บัญชาการเรือนจำในจังหวัดที่มีสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)
นายวัลลภ นาคบัว รองปลัดกระทรวงยุติธรรมและโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ภายในสถานที่ควบคุมของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงยุติธรรม หรือ ศบค.ยธ. เผยภาพรวมสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในเรือนจำ/ทัณฑสถานยังคงไม่พบเรือนจำแพร่ระบาดเพิ่มต่อเนื่องเป็นวันที่ 4 มีเรือนจำสีขาวที่ไม่พบการระบาดคงที่ 112แห่ง เรือนจำสีแดงที่แพร่ระบาด 22 แห่ง และสิ้นสุดการระบาดแล้ว8 แห่งเช่นเดิม
นายวัลลภ เปิดเผยว่า ในส่วนของผู้ติดเชื้อรายใหม่ในวันนี้ ยังคงเป็นการติดเชื้อจาก 2 ส่วน คือการกักโรคผู้ต้องขังเข้าใหม่ และการตรวจเชื้อเชิงรุกในเรือนจำแพร่ระบาดเดิม รวม245 ราย (พบในเรือนจำสีแดง 243 ราย และพบในห้องแยกกักโรคผู้ต้องขังรับใหม่ 2 ราย)รักษาหายเพิ่ม 116 ราย รวมหายสะสมแล้ว 37,183 รายหรือ 82.6%ของผู้ติดเชื้อสะสม 45,028 รายและเสียชีวิตเพิ่ม 4ราย รวมเสียชีวิตสะสม 53 ราย คิดเป็นอัตรา 0.1%ทำให้มีผู้ต้องขังติดเชื้อที่อยู่ในการดูแลของกรมราชทัณฑ์อยู่ที่ 7,405 รายแบ่งเป็นกลุ่มสีเขียว 86.7% สีเหลือง 12.8%และสีแดง 0.5%
กรณีการเสียชีวิตของผู้ต้องขังทั้ง 4 รายในวันที่ 26 กรกฎาคม 2564 เป็นผู้ต้องขังจากเรือนจำจังหวัดสุพรรณบุรี 2 รายเรือนจำจังหวัดสระบุรีและเรือนจำกลางบางขวางแห่งละ 1 รายซึ่งผู้ต้องขังบางรายเป็นผู้สูงอายุรวมทั้งมีโรคประจำตัวร่วมทำให้อาการป่วยมีความรุนแรงมากกว่าปกติซึ่งได้ให้การดูแลให้ยาและให้การรักษาอย่างเต็มประสิทธิภาพตามมาตรฐานโดยทีมแพทย์แต่อาการยังคงไม่ดีขึ้นจนกระทั่งเสียชีวิตลงในที่สุดซึ่งกรมราชทัณฑ์ได้ประสานญาติและดำเนินการตามกระบวนการส่งศพของผู้เสียชีวิตเพื่อนำไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนาอย่างปลอดภัยตามวิธีการจัดการศพผู้เสียชีวิตจากโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เป็นที่เรียบร้อย
นายวัลลภ กล่าวเพิ่มเติมว่า ที่ประชุม ศบค.ยธ.โดยปลัดกระทรวงยุติธรรมเป็นประธานการประชุมวันนี้ ยังคงเน้นย้ำการดำเนินการอย่างเข้มข้นในมาตรการ 2 ส่วนด้วยกัน คือ 1.การกักโรคผู้ต้องขังรับใหม่จากภายนอก เพื่อป้องกันเชื้อเข้าสู่เรือนจำ และ 2.การค้นหาผู้ติดเชื้อเพื่อรักษาและควบคุมโรค ที่ต้องเร่งการดำเนินการให้มีความรวดเร็ว เพื่อลดอัตราผู้ป่วยหนักและเสียชีวิต โดยเฉพาะในกระบวนการรักษาที่เตรียมพร้อมทั้งในเรื่องของบุคลากร ยา เวชภัณฑ์ต่างๆ รวมถึงระบบการส่งต่อผู้ป่วยในกรณีฉุกเฉินที่ต้องอาศัยการประสานงานกับโรงพยาบาลแม่ข่ายอย่างเป็นระบบ เพื่อลดการสูญเสียให้น้อยที่สุด และในส่วนของเรือนจำสีขาวที่ยังไม่พบการแพร่ระบาด จะต้องเตรียมความพร้อมรับมือกับการแพร่ระบาดอย่างเต็มที่ ทั้งแผนเผชิญเหตุและเตรียมสถานที่เพื่อรองรับกับสถานการณ์การระบาดที่อาจเกิดขึ้น รวมถึงเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานจะต้องเฝ้าระวังและพร้อมรับมืออยู่เสมอ
ด้านสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ของกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนประจำวันอังคารที่ 27 กรกฎาคม 2564 ไม่พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม ขณะที่ผู้ติดเชื้อสะสมมีจำนวน 40 ราย เป็นเยาวชน จำนวน 31 ราย เเละเจ้าหน้าที่ จำนวน 9 ราย ด้านผลการดำเนินงานสถานพินิจฯ/ศูนย์ฝึกและอบรมฯ สีขาว มีจำนวน 45 แห่ง หรือคิดเป็น 80% จากทั้งหมด 56 แห่ง อีก 11 แห่ง อยู่ระหว่างการรอตรวจและรอผล 6 แห่ง และติดเชื้อ 5 แห่ง ขณะที่สถิติการฉีดวัคซีนของเด็กและเยาวชน คงที่ 121 ราย หรือคิดเป็น 2.82% จากทั้งหมด 4,286 ราย และเจ้าหน้าที่ได้รับการฉีดวัคซีนคงที่ 3,790 ราย หรือคิดเป็น 86% ของเจ้าหน้าที่ทั้งหมด 4,400 ราย