ขณะที่ไทยพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 1.5 หมื่นรายติดกันหลายวัน มียอดผู้เสียชีวิต 100 รายต่อวัน แต่กลับปล่อยให้ประชาชนต่างจังหวัดแห่เดินทางเข้าพื้นที่สีแดงเข้ม มาฉีด "วัคซีนโควิด" ที่ศูนย์สถานีกลาง "บางซื่อ" ส่อเกิดคลัสเตอร์ใหม่
คลื่นประชาชนที่แห่กันไปเพื่อรับบริการฉีดวัคซีนโควิดที่ศูนย์สถานีกลางบางซื่อ ตลอดทั้งวัน เมื่อวานนี้ (27 ก.ค.) สร้างความหวาดวิตกให้กับผู้พบเห็นส่วนใหญ่
ในสถานการณ์ที่ประเทศไทยยังเผชิญวิกฤติการแพร่ระบาดของโควิด-19 และมีอัตราการติดเชื้อสูงใหม่วันละ 1.5 หมื่นรายต่อเนื่อง ยอดผู้เสียชีวิต 100 รายต่อวัน เป็นปรากฏการณ์ที่กระทบจิตใจในภาวะที่คนไทยข้องใจการทำงานของรัฐบาลที่บริหารจัดการวัคซีนไม่เป็นธรรม โดยเฉพาะต่างจังหวัดในพื้นที่ที่ไม่มีนักการเมืองร่วมคณะรัฐบาล ประชาชนแทบหมดสิทธิเข้าถึงวัคซีน
ภาพการรวมตัว การแออัดยัดเยียดของผู้คนที่สถานีบางซื่อ ทั้งวอล์คอินและลงทะเบียนล่วงหน้า เพื่อรับบริการฉีดวัคซีนในช่วงวันหยุดยาว สะท้อนถึงความต้องการวัคซีนได้เป็นอย่างดี
ผู้สื่อข่าวสอบถามประชาชนที่สถานีบางซื่อ พบว่าเดินทางมาจากหลายจังหวัด เช่น สมุทรสาคร ราชบุรี นครปฐม ลพบุรี สระบุรี ชัยนาท ประจวบคีรีขันธ์ อ่างทองและพิจิตร หลายรายเหมารถกันมา หลายคนผิดหวังไม่ได้ฉีดเพราะไม่เข้าเงื่อนไข พยายามขอร้องเจ้าหน้าที่ บางรายแนะนำให้ช่วยกระจายลงไปท้องถิ่นให้มากขึ้น
เราเห็นว่าวัตถุประสงค์ของการเปิดศูนย์ฯ แห่งนี้ กำลังผิดเพี้ยน แทนที่จะลดการแพร่ระบาด กลับเป็นสถานที่เพิ่มความเสี่ยงติดเชื้อ ประเด็นที่ต้องพิจารณามี 2 ปม
ประเด็นแรกเกิดจากความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ คาดการณ์ผิดพลาด นำไปสู่ปัญหาจัดระเบียบเพราะเจ้าหน้าที่ไม่พอ
ประเด็นที่สองเกิดจากความตั้งใจ เพื่อรักษาอำนาจและผลประโยชน์ เนื่องจากทราบดีว่าวันหยุดยาวจะต้องมีชาวบ้านแห่มารับบริการ แต่ไม่สั่งการเจ้าหน้าที่ดูแล
เป็นที่น่าสังเกตก่อนเกิดเหตุ 1 วัน มีการปูดข่าวผ่านสื่อบางแห่ง ในทำนองว่า ศบค. จะมีการยุบศูนย์ฉีดวัคซีนบางซื่อ และหากไม่ยุบก็จะมอบหมาย กทม. เข้าไปคุมแทนกระทรวงสาธารณสุข
แม้วันต่อมา นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สธ. จะปฏิเสธกระแสข่าวดังกล่าว พร้อมเปิดเผยยอดการฉีดวัคซีน ณ วันที่ 26 ก.ค. ว่า ศูนย์บางซื่อฉีดให้ประชาชนแล้ว 1 ล้านคน ทว่าใครจะรับผิดชอบหากการรวมตัวของประชาชนครั้งนี้ เกิดคลัสเตอร์ใหม่ขึ้นมา
นอกจากนี้ พบว่ามีการเดินทางการเข้าและออกพื้นที่สีแดงเข้มไขว้กันหลายจังหวัด วันเดียวกัน พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษก ศบค. ยอมรับว่าได้รับรายงานมีประชาชนจากต่างจังหวัดละเมิดมาตรการห้ามเคลื่อนย้ายของ ศบค.
เราเห็นว่าปรากฏการณ์บางซื่อ มีเบื้องหน้าเบื้องหลังที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ผู้อำนวยการ ศบค. จะต้องไม่ปล่อยผ่าน สังคมต้องการความกระจ่าง
เราเห็นว่า พล.อ.ประยุทธ์จะต้องเรียกศรัทธาและความเชื่อมั่นของประชาชนให้มากที่สุด เรายังสนับสนุนให้ภาครัฐมีการเร่งฉีดวัคซีนโดยเร็ว และกระจายวัคซีนในต่างจังหวัดอย่างทั่วถึง เรียงลำดับตามความเสี่ยง ต้องไม่มีอภิสิทธิ์ในพื้นที่ของรัฐมนตรี ที่สำคัญต้องไม่มีเกมการเมือง บนความเป็นความตายของประชาชนอีกต่อไป