MINT ไตรมาส2/64ขาดทุนลดเหลือ3.9พันล้าน คาดครึ่งปีหลังธุรกิจฟื้นตัว
MINT ไตรมาส2/64ขาดทุน3.9 พันล้าน ลดลง54%จากช่วงเดียวกันปีก่อนขาดทุน8.4พันล้าน เหตุ ธุรกิจโรงแรมฟื้นตัวในทุกภูมิภาค รวมถึงผลการดำเนิงานธุรกิจอารหารฟื้นตัว คาดธุรกิจโรงแรม อาหารครึ่งปีหลังฟื้นตัวต่อ
บริษัทมีนายไบรอัน เจมส์ เดลานี่ ประธานเจ้าหน้าที่การเงินบริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน)หรือ MINT แจ้งผลการดำเนินงานไตรมาส2ปี2564 ขาดทุน 3,923.91 ล้านบาท ขาดทุนลดลง 54% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ขาดทุน 8,447.63 ล้านบาท เนื่องจาก บริษัทมีรายได้จากการดำเนินงานจำนวน 15,587 ล้านบาทเติบโตมากกว่า 2 เท่าจากช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็นผลมาจากการฟื้นตัวของธุรกิจโรงแรมในทุกภูมิภาค
โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มโรงแรมในทวีปยุโรป และทุกกลุ่มธุรกิจร้านอาหารหลัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มธุรกิจร้านอาหารในประเทศจีนและออสเตรเลีย รวมถึงฐานของผลการดำเนินงานที่ต่ำในไตรมาส 2 ปี 2563 ซึ่ง โรงแรมและร้านอาหารหลายสาขาปิดให้บริการเป็นการชั่วคราว ทำให้ครึ่งปีแรก2564 ขาดทุน 11,173.63 ล้านบาท เพิ่มขึ้น จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ขาดทุน10,221.16 ล้านบาท
สำหรับแนวโน้มในอนาคต ทั้งนี้การเร่งการกระจายวัคซนี ทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในทวีปยุโรปและประเทศสหรัฐอเมริกา ได้ช่วยปูทางสู่การฟื้นตัวของกิจกรรมทางธุรกิจที่มีความชัดเจนมากยิ่งขึ้นแต่สถานการณ์การระบาดของโรค COVID-19 ในหลายพื้นที่ยังคงมีความผันผวน จากการกลับมาระบาดของโรคในหลายประเทศ อย่างไรก็ตาม บริษัทจะยังคงเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับฐานการดำเนินงานเพื่อให้มีความคล่องตัวและแข็งแกร่ง ขับเคลื่อนรายได้โดยการมองหาโอกาสในการทำธุรกิจที่เพิ่มขึ้น ลดต้นทุนเพื่อเพิ่มความสามารถในการทำกำไร สร้างความแข็งแกร่งให้กับฐานะทางการเงินของบริษัทผ่านการบริหารจัดการโครงสร้างหนี้และการหมุนเวียนสินทรัพย์ตลอดจนเร่งการพัฒนาด้านดิจิทัล โดยการใช้เทคโนโลยีและข้อมูลต่างๆ เพื่อสร้างการเติบโต
แนวโน้มในอนาคตของไมเนอร์โฮเทลส์
นอกจากผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งของโรงแรมในประเทศมัลดีฟส์และกลุ่มโรงแรมภายใต้สิทธิบริหารจัดการห้องชุดใน
ประเทศออสเตรเลียแล้ว การฟื้นตัวของการเดินทางในทวีปยุโรปจะช่วยผลักดันผลการด าเนินงานโดยรวมของไมเนอร์โฮเทลสใน์
ระยะสั้นและระยะกลางในทวีปยุโรป การกระจายวัคซนีเป็นไปตามแผน โดยกว่าร้อยละ 70 ณ สิ้น เดือนกรกฎาคมโรงแรมในทวีปยุโรปมากกว่าร้อยละ 90 ได้กลับมาเปิดให้บริการ และมีอัตราการเข้าพักเฉลี่ยรายสัปดาหสูง์ ขึ้นอยู่ที่ร้อยละ50 ในช่วงต้นเดือนสิงหาคม 2564 จากประมาณร้อยละ 23 ในไตรมาส 1 ปี 2564
โดยเอ็นเอช โฮเทล กรุ๊ปคาดว่าการฟื้นตัวจะมีแนวโน้มที่ดีขึ้นในแต่ละเดือน จากการฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งของภาคการท่องเที่ยวเพื่อการพักผ่อนจากนักท่องเที่ยวภายในประเทศและในทวีปยุโรป ในขณะที่คาดว่าภาคการท่องเที่ยวเพื่อทำธุรกิจจะเริ่มฟื้นตัวภายหลังจากที่ฤดูกาลท่องเที่ยวในช่วงฤดูร้อนสิ้นสุดลง
แนวโน้มธุรกิจการขายโครงการที่อยู่อาศัย
ยังคงแข็งแกร่ง ด้วยแผนการโอนขายโครงการทอี่ ยอู่ าศัยจ านวนหลายหลัง โดยเฉพาะแนวโน้มธุรกิจการขายโครงการที่อยู่อาศัยยังคงแข็งแกร่ง ด้วยแผนการโอนขายโครงการที่อยู่อาศัยจำนวนหลายหลัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งบ้านพักในเมืองภูเก็ต เนื่องจากลูกค้ามองหาความเป็นส่วนตัวมากขึ้นท่ามกลางการระบาดของโรค COVID-19 ในขณะเดียวกัน ผลการดำเนินงานของอนันตราเวเคชั่น คลับโดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศจีน ปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากการฟื้นตัวของการท่องเที่ยวภายในประเทศ
แนวโน้มในอนาคตของไมเนอร์ ฟู้ด
กลุ่มธุรกิจร้านอาหารในประเทศจีนจะเป็นแรงขับเคลื่อนหลักของไมเนอร์ฟ้ดู ในช่วงที่เหลือปี2564 ในขณะที่การดำเนินงานใน
ประเทศออสเตรเลียยังคงมีการดำเนินงานที่คงที่ ซึ่งจะช่วยลดความผันผวนของธุรกิจร้านอาหารในประเทศไทยในระยะสั้น
ท่ามกลางการปิดพื้นที่ในหลายจังหวัดของประเทศไทยในประเทศไทย ธุรกิจร้านอาหารยังคงเผชิญกับความผันผวนท่ามกลางความพยายามของรัฐบาลในการควบคุมการระบาดของโรค COVID-19Oฯลน