'ส.ส.' ท้วง 'งบ มท.' ลดงบก่อสร้าง-ซื้อรถ หวังดูแลประชาชน จากโควิด-19

       ผู้สื่อข่าวรายงานถึงการปรระชุมสภาผู้แทนราษฎร วาระพิจารณา ร่าง พ.ร.บ. งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2565 วงเงิน 3.1ล้านล้านบาท วาระสอง ในวันที่สาม ซึ่งพิจารณามาตรา 20 งบประมาณของกระทรวงมหาดไทย  จำนวน 259,593 ล้านบาท 

       สำหรับการอภิปรายของ กรรมาธิการฯ และ ส.ส. เน้นการปรับลดงบประมาณส่วนที่คาดว่าไม่จำเป็น และยังมีประเด็นที่ส.ส. เรียกร้องให้กระทรวงมหาดไทยดูแลอาสาสมัครด่านหน้าที่ช่วยเหลือประชาชนช่วงสถานการณ์โควิด-19 โดยเฉพาะค่าเบี้ยเลี้ยง, สวัสดิการที่เกี่ยวข้อง  รวมถึงให้กระทรวงมหาดไทยชดเชยรายได้ของท้องถิ่นที่หายไปจากการเก็บภาษีที่ลดลง เป็นต้น นอกจากนั้นขอให้ลดงบประมาณก่อสร้างอาคารราชการ, จัดซื้อรถประจำตำแหน่ง  เพื่อใช้งบประมาณดูแลประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน โดยเฉพาะจากภาวะการระบาดของโควิด-19

         หลังจากที่สภาฯ ได้อภิปรายครบถ้วนได้ลงมติ ผลปรากฎว่าเสียงข้างมาก 233 เสียงเห็นด้วยกับกมธ.เสียงข้างมาก ต่อ 104 เสียง 

         ต่อจากนั้นได้เข้าสู่การพิจารณา มาตรา 21 งบประมาณรายจ่ายของกระทรวงยุติธรรม

       ผู้สื่อข่าวรายงานว่าระหว่างการอภิปราย มีการตอบโต้กันระหว่าง นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ กมธ.ฯ และ นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ฐานะกมธ.ฯ ต่อกรณีการพาบุคคลที่ไม่ใช้สมาชิกฯ เข้าไปรับประทานอาหารของสภาฯ ซึ่งรับรองให้เฉพาะส.ส. และผู้ที่เกี่ยวข้องซึ่งได้รับอนุญาต 

       โดยนายเรืองไกร กล่าวว่า ตนอยากบอก หากจะพูดถึงคนอื่นต้องรู้จักตักน้ำใส่กะโหลกชะโงกดูเงาตนเองด้วย

       และเมื่อถึงลำดับที่นายยุทธพงศ์ อภิปรายได้ตอบโต้ประเด็นที่ถูกพาดพิงด้วยว่า ตนไม่ได้อภิปรายว่าใครขโมยข้าวหลวง แต่การอภิปรายเรื่องงบสัมมนา ของกระทรวงมหาดไทยนั้น พบว่ามีบุคคลภายนอกแอบเข้ามากินข้าวที่ห้องอาหารของสมาชิกรัฐสภา และคนนั้นเป็นกรรมาธิการด้วย

       “ผมขอจึงฝากให้ทุกคนติดตามมาตรา 30 งบประมาณของหน่วยงานของรัฐสภา เพราะได้เตรียมรายละเอียดว่าคนนั้นหน้าตาเป็นอย่างไรที่มาขโมยอาหารหลวงกินในสภา เพื่อให้เจ้าหน้าที่สภาระมัดระวังไว้และประธานต้องบอก รปภ.ว่ากมธ.ที่ไม่ได้เป็นส.ส.บุคคลภายนอกอาจขโมยของหลวงกลับไปด้วย” นายยุทธพงศ์ อภิปราย