พบศพรายที่ 3 แล้ว เหตุเรือล่มกลางเขื่อนมูลบน เตือนอย่าประมาทช่วงมรสุม
จนท. พบแล้วศพที่ 3 เหตุเรือล่มกลางเขื่อนมูลบน พ่อผู้เคราะห์ร้าย เตือนอย่าประมาทในการเดินเรือช่วงมรสุม
ผู้สื่อข่าวรายงาน ความคืบหน้ากรณีเกิดเหตุเรือล่มกลางเขื่อนมูลบน ที่ ต.จระเข้หิน อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา ทำให้มีผู้สูญหายภายในเขื่อน 3 ชีวิต ประกอบด้วย นายอธิบดี หย่นครบุรี อายุ 18 ปี นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ประธานนักเรียนโรงเรียนจระเข้หินสังฆกิจวิทยา , นางฤทธิพร หย่นครบุรี อายุ 55 ปี ชาวม.1 ต.ครบุรีใต้ อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา มารดาของนายอธิบดี และนางเกรียงแก้ว หาสูงเนิน อายุ 62 ปี ชาวม.1 ต.ครบุรีใต้ ซึ่งเป็นป้าของนายอธิบดีฯ
โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อวันที่ 26 ก.ย. 65 ที่ผ่านมา ขณะที่ทั้งสามได้นำนั่งเรือข้ามเขื่อนเพื่อไปตัดไม้ไผ่มาทำขายอที่หัก แต่คาดว่าเนื่องจากเป็นเรือเล็กขนาดความกว้างเพียงประมาณ 85 เซนติเมตร และกว้างเพียง 2.7 เมตร และด้วยน้ำหนักของทั้งสาม รวมถึงในช่วงวันเกิดเหตุมีฝนตกและลมกรรโชกแรงตลอดทั้งวัน จึงอาจเป็นเหตุให้เรือล่มและทำให้สูญหายทั้งหมด
ซึ่งวันนี้ (28 กันยายน 2565) ทางทีมค้นหาภายใต้การนำของนายพีรวัฒน์ ธีระวัฒนา นายอำเภอครบุรี ระดมกำลังเจ้าหน้าที่ทั้งอาสาสมัครมูลนิธิพุทธธรรม 31 นครราชสีมา ฝ่ายปกครองอำเภอ เจ้าหน้าที่โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษามูลบน ผู้นำชุมชนและชาวบ้านในพื้นที่ กว่า 20 นายพร้อมเรือ 4 ลำ เจ็ทสกีอีก 2 ลำ ออกค้นหาบริเวณผิวน้ำ และพบร่างของนายอธิบดี หย่นครบุรี นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 และประธานนักเรียน ร.ร.จระเข้หินสังฆกิจวิทยา เมื่อเวลา 07.20 น. ก่อนที่จะค้นหาผู้สูญหายรายที่ 3 อย่างต่อเนื่อง
ล่าสุด เมื่อเวลา 10.20 น. ทีมค้นหาก็พบร่างของนางฤทธิพร หย่นครบุรี มารดาของนายอธิบดี เป็นศพที่ 3 โดยร่างของนายอธิบดี พบอยู่ห่างจากจุดที่พบศพแรกเมื่อวานนี้ประมาณ 5 - 6 เมตร ส่วนมารดาของนายอธิบดี พบห่างจากจุดเดิมประมาณ 1 กิโลเมตรเศษ ทางเจ้าหน้าที่จึงได้นำร่างทั้งสองส่งชันสูตรที่โรงพยาบาลบุรี ก่อนจะมอบให้ญาตินำไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป
ทางด้านนายอาทิตย์ หย่นครบุรี อายุ 53 ปี บิดาของนายอธิบดีฯ ผู้เคราะห์ร้ายที่ต้องเสียทั้งภรรยาและบุตรชาย เปิดใจว่า เหตุการณ์ครั้งนี้ถือเป็นการสูญเสียที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของครอบครัว หากถามว่าทำใจได้หรือไม่ ก็ต้องตอบว่ายังยากที่จะทำใจ เพราะทั้งสองเป็นคนสำคัญอย่างมากในชีวิต แต่ก็ต้องก้มหน้าสู้กับมันต่อไป
ทั้งนี้อยากให้ทุกคนดูเหตุการณ์นี้ไว้เป็นตัวอย่าง ในกรณีที่ต้องเดินเรือไกลๆ ไม่ควรประมาท ต้องมีเสื้อชูชีพติดตัว หรืออุปกรณ์อื่นๆ ที่จะพอใช้รอน้ำพยุงร่างกายกรณีที่เกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้น เพื่อที่จะได้ไม่ต้องสูญเสียเช่นเดียวกับครอบครัวของตนเองในเหตุการณ์นี้.