"น้ำท่วมโคราช" อ.ชุมพวง อ่วม ท่วมหนักสุดในรอบทศวรรษ สถานที่ราชการถูกปิด

น้ำท่วมโคราช สถานการณ์น้ำท่วม จ.นครราชสีมา ส่งผลกระทบวงกว้างโดยที่อำเภอชุมพวง มวลน้ำลำน้ำมาศ จากอำเภอลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ ยังคงไหลมาสมทบลงลำน้ำมูลในอำเภอชุมพวงและอำเภอพิมาย ทำให้ขณะนี้ พื้นที่ อ.ชุมพวง ถูกน้ำเอ่อทะลักเข้าท่วมสถานที่ราชการ ทั้งที่ว่าการอำเภอชุมพวง เทศบาลตำบลชุมพวง สถานีตำรวจภูธรอำเภอชุมพวง ที่ทำการไปรษณีย์ชุมพวง บ้านพักข้าราชการ โรงเรียนหลายแห่ง และตลาดสดเทศบาลตำบลชุมพวง ระดับน้ำท่วมสูง 60-70 ซม.บางจุดน้ำท่วมสูงกว่า 1 เมตร

 

ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ตรวจสอบพบว่า สถานที่ราชการหลายแห่งต้องปิดเป็นการชั่วคราว หลังน้ำท่วมสูงและระดับน้ำยังไหลมาเพิ่มเติมตลอดเวลา เช่น ที่ทำการไปรษณีย์ชุมพวง ต้องปิดให้บริการประชาชนไปจนกว่าสถานการณ์น้ำท่วมจะเริ่มคลี่คลาย ในขณะที่โรงเรียนพิกุลทอง และโรงเรียนอนุบาลชุมพวงวิทยา ระดับน้ำท่วมสูงกว่า 1 เมตร ผู้บริหารและครูต้องเร่งขนย้ายอุปกรณ์การเรียนการสอนขึ้นที่สูง และสั่งปิดโรงเรียนเป็นการชั่วคราว ซึ่งน้ำท่วมในอำเภอชุมพวง นับว่าหนักสุดในรอบ 12 ปี ต้องเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

 

 

นายศุภชัย สร้อยสูงเนิน นายกองค์การบริหารส่วนตำบลตลาดไทร อำเภอชุมพวง ได้ลงพื้นที่นำถุงยังชีพมอบช่วยเหลือชาวบ้านที่ประสบอุทกภัยน้ำท่วม บ้านสำโรง หมู่ที่ 7 ตำบลตลาดไทร อำเภอชุมพวง จำนวน 46 หลังคาเรือน ชาวบ้านกว่า 106 คนไร้ที่อยู่อาศัย จำเป็นต้องเร่งอพยพมาอาศัยอยู่บนศาลาวัดในหมู่บ้าน เนื่องจากมวลน้ำได้ไหลหลากเข้าท่วมหมู่บ้าน ระดับน้ำท่วมสูงกว่า 1 เมตร บางจุดน้ำท่วมสูงกว่า 2 เมตร โดยชาวบ้านต้องอพยพหนีออกมาจากบ้านของตัวเองเพื่อมาอาศัยอยู่บนศาลาวัดแทน

บ้านสำโรง ถือเป็นหมู่บ้านต้นน้ำที่อยู่ติดกับ จ.บุรีรัมย์ และหมู่บ้านแห่งนี้จะถูกน้ำท่วมเป็นหมู่บ้านแรก โดยชาวบ้านบอกว่าน้ำท่วมในครั้งนี้นับเป็นครั้งแรกในรอบ 20 ปี เพราะไม่เคยถูกน้ำท่วมมาก่อน ขณะนี้สถานการณ์น้ำท่วมเริ่มทรงตัว แต่ชาวบ้านก็ไม่สามารถกลับเข้าไปอยู่อาศัยภายในบ้านของตัวเองได้

ที่อำเภอห้วยแถลง ทางหลวงชนบท ได้รับแจ้งว่า มีสะพานชำรุดจากมวลน้ำที่กัดเซาะที่บริเวณสะพานท่าลี่-หนองแวง ถนนสาย นม.4006 ช่วง กม.12 000-12 050 บ้านท่าลี่ ตำบลเมืองพลับพลา รถยนต์ไม่สามารถใช้สัญจรผ่านได้

ขณะที่วัดโนนเพ็ดธรรมมาราม บ้านโนนเพ็ด ตำบลหลุ่งตะเคียน อำเภอห้วยแถลง ก็มีชาวบ้านอพยพเข้ามาขอพักอาศัยอยู่ที่ศาลาวัด จำนวนกว่า 20 ครัวเรือน เนื่องจากภายในหมู่บ้านถูกน้ำจากลำมาศล้นตลิ่งเข้าท่วมขังพื้นที่ภายในชุมชน ตั้งแต่วันที่ 29 กันยายน 2565 ที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน

 

 

น้ำที่ท่วมขังยังไม่ได้มีทีท่าลดลง ชาวบ้านเริ่มประสบปัญหาขาดแคลนสิ่งของอุปโภคบริโภค โดยเฉพาะอาหารสดที่ต้องใช้ประกอบอาหารให้ผู้ประสบภัยและเจ้าหน้าที่ทหารที่เข้ามาคอยดูแลความปลอดภัย โชคดีที่ยังมีผู้ใจบุญบริจาคให้มาบ้างเล็กน้อย แต่จากสถานการณ์น้ำท่วมขังที่คาดว่าจะใช้ระยะเวลานาน กว่าจะเข้าสู่ภาวะปกติ

ทำให้อาหารที่เตรียมไว้เริ่มไม่เพียงพอ จึงอยากวอนขอความอนุเคราะห์จากผู้ใจบุญร่วมบริจาคอาหารสดทั้งผักและเนื้อสัตว์ต่างๆ ช่วยเหลือผู้ประสบภัย จะได้นำมาปรุงเป็นอาหารแจกจ่ายชาวบ้านที่ประสบภัยน้ำท่วม จนไม่สามารถประกอบอาหารรับประทานเองได้