พื้นที่ท้ายน้ำอยุธยาจมหนัก ทั้งเจ้าพระยา-ป่าสักไหลมาสมทบ น้ำท่วมสูงกว่า 2 เมตร
พื้นที่ท้ายน้ำอยุธยาจมหนัก ทั้งเจ้าพระยา-ป่าสักไหลมาสมทบ ระดับน้ำที่ท่วมสูงกว่า 2 เมตร ประชาชนพายเรือออกมาซื้อข้าวสารอาหารแห้ง และของสด
เมื่อวันที่ 6 ต.ค. 65 ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์น้ำท่วม ในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา พบว่าเขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท ยังคงเร่งระบายน้ำลงสู่พื้นที่ท้ายเขื่อนที่ 2,756 ลบ.ม./วินาที ส่งผลทำให้ ปริมาณน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาที่ไหลผ่านจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ของสาขา แม่น้ำน้อย มีปริมาณเพิ่มสูงขึ้นเฉลี่ย 10-20 ซม. รวมถึงเขื่อนพระราม 6 เร่งระบายน้ำลงสู่ท้ายเขื่อน 1,022 ลบ.ม./วินาที ส่งผลทำให้ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้น ซม.10-20 ซม.
มวลน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยา และมวลน้ำจากแม่น้ำป่าสัก ที่มีการเพิ่มการระบายทั้งจากเขื่อนเจ้าพระยา และเขื่อนพระราม 6 ไหลมารวมกันที่บริเวณสามแยกท่าน้ำวัดพนัญเชิงวรวิหาร อ.พระนครศรีอยุธยา ทำให้ปริมาฯเพิ่มสูงขึ้นล้นตลิ่งเข้าท่วมถนนจุดกลับรถใต้สะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพรยา ฝั่ง ต.เกาะเรียน อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา ระดับน้ำท่วมสูง ประมาณ 540 ซม.
ส่วนชุมชนที่อยู่ริมแม่น้ำเจ้ายา ของ ต.เกาะเรียน อ.พระนครศรีอยุธยา ระดับน้ำท่วมในชุมชนสูงประมาณ1.50 เมตร ถึง 2 เมตร ชาวบ้าน ต้อง เก็บข้าวของภายในบ้านเพื่อให้พ้นน้ำที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง นำรถยนต์มาจอดไว้ริมถนน แล้วใช้เรือสัญจรในการเข้าออกบ้านเรือน
ส่วนที่ ต.บ้านโพ อ.บางบางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา น้ำที่ท่วมอยู่ในชุมชนที่บ้านพักติดกับแม่น้ำเจ้าพระยา น้ำท่วม สูงขึ้นอย่างต่อเนื่องเฉลี่ยวันละประมาณ 10-20 ซม. ใช้ชีวิตประจำวันด้วยความยากลำบาก ต้องมาจอดเรือพักอาศัยอยู่ศาลาพักโดยสารที่น้ำท่วมเพื่อหลบร้อน พายเรือเออกมาซื้อข้าวสารอาหารแห้ง และของสด พายเรือกลับเข้าบ้าน ระดับน้ำที่ท่วมสูงกว่า 2 เมตร
นอกจากรถยนต์ รถจักรยานยนต์ที่ชาวบ้าน ไม่สามารถจอดภายในบ้านต้องนำจอดเอาไว้บนถนนเนื่องจากถนนทางเข้าชุมชน และบ้านถูกน้ำท่วมสูง รถที่ใช้ในการเข็นศพรอบเมรุ ก่อนประกอบพิธีกรรมทางศาสนา ของวัดทองบ่อ ที่ถูกน้ำท่วม กว่า 1.050 เมตร ยังต้องนำมาจอดเอาไว้ริมถนนเนื่องจาก ภายในวัดน้ำท่วมจนไม่ที่เก็บรักษา ชาวบ้านเชื่อว่ารถเข็นศพของวัดน่าจะช่วยเฝ้าทรัพย์ของชาวบ้านได้
ส่วนที่วัดบ้านพาสน์ ต.บ้านโพ อ.บางปะอิน อยู่ติดกับแม่น้ำพระยา พบว่าระดับน้ำท่วมสูงกว่า 2 เมตร เข้าท่วมเต็มพื้นที่ของวัด พระสงฆ์สามเณร ต้องย้ายขึ้นไปจำวัด กุฎิในชั้นที่ 2 ชั้นล่างถูกน้ำท่วมทั้งหมด พระสงฆ์สามเณร ต้องช่วยกันปรับยกสะพานไม้ ที่ใช้โต๊ะและเศษไม้ที่พอหาได้ ในวัด ให้สูงพ้นน้ำเป็นรอบที่ 2 เพราะน้ำท่วมสูงอย่างต่อเนื่อง ทำทางเดิน จากกุฎิ ไปศาลาการเปรียญ และไปที่ถนนเพื่อเข้าออกวัด ให้ทั้งพระสงฆ์และญาติโยมได้ใช้สัญจร
สามเณรบอกว่า ช่วงนี้จะลำบากน้ำท่วมวัด ออกรับบิณฑบาตได้เฉพาะ บ้านญาติโยมที่อยู่ริมถนน พอฉันเพียงมื้อเช้า ส่วนเพลจะมีโยมมาช่วยทำอาหารถวายให้ พระสงฆ์สามเณร