"กราดยิงหนองบัวลําภู" ล่าสุดผลชันสูตรศพ ผู้ก่อเหตุ ออกแล้ว! ไม่พบสารเสพติด
"กราดยิงหนองบัวลําภู" ล่าสุดผลชันสูตรศพ ผู้ก่อเหตุ ออกแล้ว! "ไม่พบสารเสพติด" ผบ.ตร. ยันเร่งกวาดล้างยาเสพติด ส่งตำรวจลงพื้นที่สีแดง
ความคืบหน้าคดีเหตุ "กราดยิงหนองบัวลําภู" ล่าสุดวันนี้(7 ตุลาคม 2565) พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (โฆษก ตร.) กล่าวว่า หลังจากพบศพ "ผู้ก่อเหตุ" ใช้อาวุธมีดและปืนกราดยิงที่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กหนองบัวลำภู ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก ก่อนจะยิงลูกเมียและตัวเองเสียชีวิตคาบ้าน
โดยเจ้าหน้าที่ได้นำร่างของผู้ก่อเหตุไปตรวจหาสารเสพติดเพื่อคลายข้อสงสัยในประเด็นคลั่งยาหรือหลอนยาก่อนก่อเหตุหรือไม่ เนื่องจากผู้ก่อเหตุมีประวัติการเสพยาเสพติด (ยาบ้า) โดยขณะนี้ผลการตรวจชันสูตรหาสารเสพติดออกมาแล้วปรากฏ "ไม่พบสารเสพติดในร่างกายของผู้ก่อเหตุ" แต่อย่างใด
ทั้งนี้เหตุการณ์ "กราดยิงหนองบัวลําภู" ดังกล่าวมีผู้เสียชีวิต 37 ศพ รวมผู้ก่อเหตุ แพทย์นิติเวชได้ทำการชันสูตรศพเรียบร้อยหมดแล้ว และส่งมอบให้ญาตินำไปประกอบพิธีทางศาสนา ส่วนผู้บาดเจ็บอีก 10 ราย ล่าสุดกลับบ้านได้แล้ว 3 ราย ที่เหลือยังอยู่ในการดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด
ทางด้าน พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวยืนยันถึงประเด็นการตรวจไม่พบสารเสพติดในร่างกายของผู้ก่อเหตุว่า เบื้องต้นได้รับรายงานจากนิติเวช โรงพยาบาลอุดรธานี ไม่พบสารเสพติดในร่างกายของผู้ก่อเหตุจริง คาดว่าภายใน 72 ชั่วโมงก่อนตรวจร่างกาย ผู้ก่อเหตุอาจไม่ได้ใช้สารเสพติด แต่หลังจากนี้จะต้องตรวจซ้ำอีกครั้งตามกระบวนการของแพทย์เพื่อความชัดเจนต่อไป
ส่วนจากการสืบสวนสอบสวนในเรื่องของแรงจูงใจและสาเหตุของการก่อเหตุนั้น พบข้อมูลใหม่ว่าผู้ก่อเหตุทะเลาะกับภรรยาเมื่อช่วงเวลาตี 4 ในวันเกิดเหตุ โดยทางภรรยาได้โทรหาแม่ให้มารับที่บ้านเพราะไม่อยากอยู่กับผู้ก่อเหตุแล้ว ผู้ก่อเหตุจึงอาจจะมีความเครียดสะสม แต่หลังจากนั้นไปขึ้นศาลในคดียาเสพติด จากข้อมูลของคนใกล้ตัวบอกว่ามีอาการปกติ ก่อนจะกลับบ้านมา และคาดว่าเมื่อกลับบ้านมาไม่เจอภรรยาจึงมีอาการคลุ้มคลั่งก่อนออกไปก่อเหตุดังกล่าว
ผบ.ตร. ระบุต่ออีกว่า ประเด็นหลักตอนนี้ยังคงพุ่งเป้าไปที่ความขัดแย้งภายในครอบครัว และอาจไม่มีเงิน ไม่มีรายได้ เพราะตกงานมากว่า 1 ปี จึงทำให้เกิดความเครียด แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นยังไม่ใช้ข้อเท็จจริงร้อยเปอร์เซ็นต์ อยู่ระหว่างตรวจสอบ ในส่วนประเด็นเรื่องการถูกไล่ออกจากราชการนั้นไม่มีการกลั่นแกล้ง เพราะทุกอย่างตรงไปตรงมา และผู้บังคับบัญชาได้ให้ออกราชการหลังมีการจับกุมผู้ก่อเหตุได้ เพราะพบยาเสพติด 1 เม็ด ตอนแรกยังให้ออกจากราชการไว้ก่อน และเพิ่งมีคำสั่งให้ออกจากราชการเมื่อกลางปีที่ผ่านมา หลังจากสอบวินัยเสร็จสิ้นและพบว่าเป็นเรื่องจริง
ส่วนข้อมูลของผู้ก่อเหตุสอบเข้ารับราชการตำรวจเมื่อปี 2555 ตอนนั้นมีการตรวจสอบสารเสพติดในร่างกายตามระเบียบแล้ว ยืนยันไม่พบสารเสพติด แต่จากข้อมูลรายงานของตำรวจนครบาลก็ยังไม่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด แต่เมื่อย้ายมาอยู่ที่ สภ.นาวัง แล้วพบว่ามีพฤติกรรมเปลี่ยนไป เพราะมีความก้าวร้าว ผู้กำกับการ สภ.นาวัง คนก่อน จึงได้เรียกมาคุยและยึดอาวุธปืนเอาไว้ ก่อนไปค้นเจอยาเสพติดภายในบ้านจนต้องออกจากราชการ ส่วนอาการทางจิตเวชของผู้ก่อเหตุยังไม่พบในประเด็นนี้
ส่วนประเด็นอาวุธปืนของผู้ก่อเหตุ ยืนยันว่าเป็นปืนส่วนตัวที่ซื้อถูกต้อง เพราะมีใบอนุญาตในการใช้ และซื้อในสวัสดิการของตำรวจ เพราะถูกกว่าราคาทั่วไป เมื่อถูกไล่ออกก็ถือเป็นของส่วนตัว
พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวในตอนท้ายว่า ปัญหายาเสพติดในพื้นที่ถือเป็นนโยบายของตำรวจที่ต้องกวาดล้างและต้องปราบปรามอย่างเร่งด่วน เพราะมีคนคลุ้มคลั่งเพราะฤทธิ์ยาเสพติดจำนวนมากจึงต้องเร่งแก้ไขทุกมิติ ส่งตำรวจลงพื้นที่ปราบปราบโดยเฉพาะพื้นที่สีแดง