"น้ำท่วมนนทบุรี" ชาวเกาะเกร็ดเดือดร้องสื่อ โป๊ะเรือจมน้ำไร้หน่วยงานช่วยเหลือ
"น้ำท่วมนนทบุรี" ชาวเกาะเกร็ดรวมตัวร้องสื่อเดินทางลำบาก หลัง "โป๊ะเรือเย็นฤดี" จมน้ำเสียหายนานนับสัปดาห์ไร้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าซ่อมแซม-ช่วยเหลือ
ความคืบหน้ากรณี "น้ำท่วมนนทบุรี" หลังจากที่ก่อนหน้านี้มีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งได้โพสต์ภาพของ "โป๊ะเรือเย็นฤดี" ในพื้นที่ ม.6 ต.เกาะเกร็ด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ที่เอียงและจมน้ำ ทำให้ไม่สามารถใช้บริการได้ โดยถูกโพสต์เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2565 ที่ผ่านมา จนกระทั่งถึงวันนี้(12 ตุลาคม 2565) ยังไม่มีการเปลี่ยนโป๊ะเรือหรือปรับปรุงแก้ไข
วันนี้(12 ตุลาคม 2565) เมื่อเวลา 08.30 น. ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังโป๊ะเรือเย็นฤดี ม.6 ต.ปากเกร็ด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี หลังจากได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านชุมชนตำบลเกาะเกร็ด ม.6 จำนวนกว่า 30 หลังคาเรือน ว่าได้รับความเดือดร้อนต้องเดินเท้าลุยน้ำท่วมกว่า 400 เมตรออกไปทำงาน เพื่อไปขึ้นเรือโป๊ะบริเวณใกล้เคียง ทั้งต้องเสียเวลาและจ่ายค่าบริการในการขึ้นเรือที่เพิ่มขึ้นกว่าเดิม ทั้งนี้ "โป๊ะเรือเย็นฤดี" จมน้ำเสียหายผ่านมากว่า 1 สัปดาห์แล้วแต่ยังไร้หน่วยงานเข้าแก้ไข
จากการสอบถาม นางณัฏฐิกา อายุ 58 ปี ผู้โพสต์เฟซบุ๊กดังกล่าว เผยว่า โป๊ะเรือเย็นฤดีได้เอียงหรือจมลงตั้งแต่วันที่ 5 ตุลาคม 2565 ที่ผ่านมา ตอนนี้ผ่านไปกว่า 1 สัปดาห์แล้วก็ยังไม่ถูกแก้ไข วิงวอนให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาดูแลด่วนเพราะตอนนี้ชาวบ้านเดือดร้อนมาก ขึ้นเรือลงเรือลำบาก คนจะออกไปทำงานช่วงเช้าน้ำก็ขึ้นท่วมสูงประมาณเอว จึงทำให้ต้องเรียกเรือเหมามาใช้บริการแทนเรือประจำทางที่มาเป็นเวลา ซึ่งค่าใช้จ่ายก็ต่างกัน โดยเรือประจำทางมีค่าบริการ 20 บาท ส่วนเรือเหมาหรือเรือจ้างจะมีค่าบริการ 50 บาท
"ปกติถ้าขึ้นที่โป๊ะเรือเย็นฤดี ตอนนี้หากจะต้องเดินไปใช้ท่าเรือใกล้เคียงก็จะมีค่าบริการเพิ่ม เนื่องจากโป๊ะไม่มีทำให้เรือประจำทางไม่สามาถจอดรับคนได้ จึงอยากฝากถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหรือผู้ใจบุญที่เห็นข่าวนี้เข้าช่วยเหลือชาวบ้านโดยหาโป๊ะเรือมาให้ชาวบ้านได้ใช้ชั่วคราว"
ทางด้าน น.ส.อัจฉรา อายุ 65 ปี ชาวบ้านในพื้นที่กล่าวว่า ตอนนี้ที่เกาะเกร็ดสถานการณ์น้ำท่วมแย่ลงเรื่อย ๆ ซึ่งระดับน้ำตอนนี้ถึงเอว เพราะตอนนี้น้ำขึ้นสองเวลา โดยขึ้นช่วงเช้าและช่วงเย็นทำให้ผู้ที่ได้รับผลกระทบโดยตรงก็คือลูกหลานที่เดินทางข้ามเรือไปทำงานนอกเกาะ ซึ่งต้องลำบากในการเดินลุยน้ำกว่า 400 เมตร แล้วนั่งเรือไปทำงาน และในตอนกลางคืนกลับบ้านก็ต้องเดินลุยน้ำกว่า 400 เมตร ทั้งยังต้องมาคอยระวังสัตว์เลื้อยคลาน
"ตนเข้าใจว่าเกาะเกร็ดเป็นชุมชนที่น้ำท่วมทุกปี แต่เรื่องโป๊ะก็อยากจะให้ทุกคนเห็นใจชาวบ้านว่าเดือดร้อน ถ้ามีโป๊ะให้ใช้ก็จะสะดวกยิ่งขึ้น เพราะตอนนี้แม้กระทั่งไปตลาดก็ไม่ได้ ต้องกินแต่มาม่ากับปลากระป๋อง เพราะข้ามเรือทีก็มีค่าใช้จ่ายเยอะขึ้น"
ข่าวโดย สุรสิทธิ์ สินประเสริฐ จ.นนทบุรี