อัปเดต จับชาวจีน 237 คนมั่วสุมเสพยา แสดงพฤติกรรมก้าวร้าว
อัปเดตล่าสุด แสดงพฤติกรรมก้าวร้าว หลัง จนท. บุกสาทรทลายแหล่งมั่วสุมชาวจีน ด้านหน้าเปิดเป็นร้านรับล้างรถบังหน้า พบนักเที่ยวชาวจีนกว่า 237 คน ค้นห้องพบยาเสพติดบรรจุซองพร้อมขายซองละ 1 หมื่น
นครบาลพร้อมกำลังกว่า 100 นาย บุกทลายแหล่งมั่วสุมชาวจีน ด้านหน้าเปิดเป็นร้านรับล้างรถบังหน้า ด้านในอาคารรถหรูจอดเรียงรายพบนักเที่ยวชาวจีนกว่า 200 คน เจอสารเสพติดกว่า 20 คน ค้นห้องพบยาเสพติดบรรจุซองพร้อมขายซองละ 1 หมื่นบาท-เสพไม่หมดฝากไว้ได้ ตร.ยึดรถหรูตรวจสอบ พบเปิดบริการมา 4 เดือน เน้นลูกค้าชาวจีน รู้ตัวเจ้าของกิจการแล้ว
เมื่อเวลา 03.30 น. วันที่ 26 ตุลาคม 2565 ตำรวจนครบาลระดมกำลัง เข้าตรวจค้นอาคาร จินหลิง , อาคาร LEELA และ อาคาร WIP WUP CAR WASH เลขที่ 60-60/1 ถนนเจริญราษฎร์ แขวงยานนาวา เขตสาทร กรุงเทพฯ หลังพบว่ามีการลักลอบเปิดสถานบันเทิง และมียาเสพติดอยู่ภายในจำนวนมาก
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ที่เกิดเหตุมีเนื้อที่ประมาณ 2 ไร่ มีรั้วรอบขอบชิด พบว่ามีประตูเหล็ก พร้อมกล้องวงจรปิดติดตั้งอยู่เพื่อคอยดูความเคลื่อนไหวภายนอก เมื่อเปิดเข้าไป พบอาคารชั้นเดียวที่มีลักษณะเป็นร้านรับล้างรถ โดยอยู่ในระหว่างก่อสร้างยังไม่เปิดให้บริการ จากนั้นพบประตูเหล็กอีกหนึ่งชั้น
เมื่อเปิดเข้าไป พบอาคารก่อสร้างชั้นเดียวที่มีชื่อภาษาจีน และ ภาษาไทยระบุ จินหลิง และอาคาร LEELA โดยรอบตัวอาคารเป็นลานจอดรถ พบรถหรูหลายยี่ห้อจอดเรียงกัน อาทิ โรลส์ รอยซ์ , พอร์ช , เบนซ์ , บีเอ็มดับเบิลยู , โตโยต้า อัลพาร์ด
ตรวจสอบภายในอาคารพบว่ามีการแบ่งห้องคาราโอเกะออกเกือบ 20 ห้อง พร้อมประดับไฟแสงสี บริเวณทางเดิน โดยในแต่ละห้องพบนักเที่ยวทั้งชายและหญิงจำนวนหลายคน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวจีน อีกทั้งยังพบห้องเก็บของที่ใช้สำหรับซุกซ่อนยาเสพติดชนิด เคตามีน แฮปปี้วอเตอร์ จำนวนหลายร้อยซองอีกด้วย
พล.ต.ต.นิติธร จินตกานนท์ รอง ผบช.น. เปิดเผยว่า จากการเข้าค้นในวันนี้สืบเนื่องจาก นโยบายของ พล.ต.อ.ดำรงค์ศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ในการกวาดล้างยาเสพติดในแหล่งสถานบริการ รวมถึงการมั่วสุมเสพยาเสพติดตามสถานบันเทิงในพื้นที่อย่างเด็ดขาด ทางเจ้าหน้าที่จึงได้บูรณาการกับทุกภาคส่วน จนทราบว่า สถานที่แห่งนี้เปิดทำการเป็นสถานบริการ ร้านคาราโอเกะ ให้บริการกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติโดยเฉพาะชาวจีน โดยไม่ได้รับอนุญาต
“สืบทราบมาว่า สถานบันเทิงดังกล่าว มีพฤติการณ์ลักลอบจำหน่ายยาเสพติดให้แก่ลูกค้าที่มาใช้บริการ จัดสถานที่ให้มีการมั่วสุมยาเสพติด อีกทั้งยังมีการให้บริการรับฝากยาเสพติดที่ใช้บริการไม่หมด และ จัดให้มีการเล่นพนันกันอย่างไม่เกรงกลัวต่อเจ้าหน้าที่และกฎหมาย”
รอง ผบช.น. กล่าวอีกว่า ตำรวจจึงได้ขอหมายค้นของศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่ 283/2565 ลงวันที่ 25 ตุลาคม 2565 เพื่อเข้าตรวจสอบอาคารดังกล่าว ซึ่งต่อมาเจ้าหน้าที่กว่า 100 นาย ได้ทำการปิดล้อมตรวจค้น และ ขณะเข้าทำการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ กลุ่มนักท่องเที่ยวและพนักงานต่างวิ่งหลบหนีเข้าไปซุกซ่อนตัวตามจุดและบริเวณต่างๆภายในอาคาร อาทิ ห้องครัว ห้องน้ำ มุมและซอกอาคาร อย่างชุลมุน
หลังจากที่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้แล้ว จึงเข้าทำการตรวจสอบในเบื้องต้น พบกลุ่มนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เป็นชาวจีนกว่า 237 คน เป็นชายสัญชาติจีน จำนวน 111 คน เป็นหญิงสัญชาติจีนจำนวน 126 คน นอกจากนั้นยังพบพนักงานและบุคคลชาวกัมพูชา และชาวไทยในบริเวณอาคารดังกล่าวอีกจำนวนกว่า 29 คน
พล.ต.ต.นิติธร กล่าวอีกว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำการตรวจหาสารเสพติดในร่างกายของกลุ่มนักท่องเที่ยวผู้ใช้บริการและพนักงานภายในร้าน เบื้องต้นพบสารเสพติดในร่างกายจำนวนกว่า 20 คน และเข้าทำการตรวจสอบภายในห้องคาราโอเกะและห้องผู้จัดการและห้องคลังสินค้าในเบื้องต้นปรากฏว่า พบยาเสพติดหลายรายการ อาทิ ยาเค ยาแฮปปี้วอลเตอร์ ไฟว์ ไฟว์ บรรจุอยู่ในซองพลาสติกจำนวนกว่า 300 ซอง และพบยาเสพติดตกกระจ่ายตามห้องคาราโอเกะ ของกลุ่มนักท่องเที่ยวอีกจำนวนมาก
จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่ามีการจำหน่ายยาเสพติดในสถานบันเทิงแห่งนี้ในราคาซองละ 10,000 บาท นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจยังสามารถยึดรถหรูจำนวนกว่า 30 คัน ในเบื้องต้นพบเจ้าของรถเป็นชาวจีน และบางคันมีการสวมทะเบียน โดยตำรวจจะตรวจสอบอย่างละเอียดว่ามีส่วนร่วมรู้เห็น เกี่ยวข้องกับยาเสพติด หรือมีพฤติการณ์อันเข้าข่าย พรบ.การฟอกเงิน หรือไม่
เบื้องต้นทราบว่าสถานบันเทิงแห่งนี้เปิดมาได้ 4 เดือน เน้นรับเฉพาะลูกค้าชาวจีนเท่านั้น ส่วนคนไทย และ ชาวกัมพูชาส่วนใหญ่จะเป็นพนักงานร้านและคนติดตามของลูกค้าชาวจีน ซึ่งตำรวจทราบว่า เจ้าของกิจการเป็นชาวจีนเช่นเดียวกัน แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ เพราะยังอยู่ในขั้นตอนสืบสวนขยายผล
อัปเดต ตรวจนักเที่ยวจีน พบสารเสพติด 104 คน
ล่าสุดช่วงสายวันนี้ ภายหลังตำรวจนครบาลกว่า 100 คน บุกทลายแหล่งมั่วสุมนักเที่ยวชาวจีนย่านถนนเจริญราษฎร์ หลังพบลักลอบเปิดเป็นสถานบันเทิง พร้อมกับมีบริการเสพยาด้วยนั้น ล่าสุดทางด้าน พล.ต.ต.นิธิธร จินตกานนท์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า ภายหลังจากควบคุมตัวนักเที่ยวที่พบภายในสถานบันเทิงได้ซึ่งมีจำนวนมากกว่า 200 คน เจ้าหน้าที่เห็นว่ามีผู้ถูกคุมตัวเป็นจำนวนมาก จึงกระจายไปควบคุมตัวไว้ตามสถานที่ต่างๆ อาทิ กองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล หรือ ศูนย์สืบนครบาล และที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ซอยสวนพลู
โดยในช่วงเช้าที่ผ่านมาได้นำนักเที่ยวทั้งหมดไปตรวจหาสารเสพติดทางการแพทย์ที่โรงพยาบาลธัญญารักษ์ จังหวัดปทุมธานี และโรงพยาบาลที่มีเครื่องตรวจอีก 3 แห่ง เพื่อให้ได้ผลการตรวจสารเสพติดที่เป็นทางการไปใช้ในการดำเนินคดีหรือนำเข้าสู่การบำบัด
“เบื้องต้นพบว่ามีนักเที่ยวที่มีสารเสพติดจำนวนประมาณ 104 คน โดยจะควบคุมตัวผู้ที่พบสารเสพติดทั้งหมดกลับมาดำเนินคดีที่สน. ยานนาวาและจะนำตัวส่งฟ้องต่อศาลหรือเข้าสู่กระบวนการบำบัดภายในวันนี้”
ขณะที่บรรยากาศที่ สน.ยานนาวา ตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมาจากการสอบถามตำรวจยังไม่พบว่ามีการนำตัวผู้ต้องหากลับมาที่สถานี คาดว่ายังไม่เสร็จขั้นตอน ขณะเดียวกันทางเจ้าหน้าที่ได้มีการจัดเตรียม ข้าวกล่องไว้ให้ผู้ต้องหาที่จะต้องถูกดำเนินคดีจากสถานบันเทิงจำนวนประมาณ 80 กล่องแล้ว พร้อมกับมีการระดมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจากหลายหน่วยเข้ามาดำเนินการดูแลผู้ต้องหาซึ่งคาดว่าน่าจะเดินทางมาถึงในช่วงหลังเที่ยงวันนี้
ล่าสุดเมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 26 ต.ค. ร.ต.อ.สมยศ บุญณะแก้ว รอง สว.(สอบสวน) สน.ยานนาวา ได้ประสานขอสนับสนุนรถควบคุมผู้ต้องหาจากโรงพักใกล้เคียง สังกัด บก.น.6 จำนวน 35 คัน เพื่อนำตัวผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมได้ทั้งสิ้น 266 คน ไปส่งตรวจร่างกายคัดแยกสารเสพติดที่สถาบันธัญญารักษ์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี ก่อนนำตัวทั้งหมดกลับมาที่ สน.ยานนาวา เพื่อควบคุมไว้ที่ชั้น 3 ของโรงพัก รวมถึงทางพนักงานสอบสวนได้มีการตรวจยึดของกลางอีกหลายรายการจากสถานที่เกิดเหตุนำมาเก็บรักษาไว้ที่โรงพักด้วย
ส่วนบรรยากาศที่ สน.ยานนาวา ตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมาพบว่า ได้มีการเตรียมข้าวกล่องและน้ำไว้ให้ผู้ต้องหาที่จะต้องถูกดำเนินคดีจากสถานบันเทิงจำนวนประมาณ 100 ชุด นอกจากนี้ยังมีการระดมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจากหลายหน่วยเข้ามาดำเนินการดูแลการควบคุมตัวผู้ต้องหา โดยระหว่างที่รถควบคุมผู้ต้องหาทยอยพากลุ่มผู้ต้องหาเดินทางกลับมาจากสถาบันธัญญารักษ์ เพื่อเข้าสู่กระบวนการสอบสวนที่ สน.ยานนาวา พบว่า
กลุ่มผู้ต้องหาชายชาวจีนหลายคน มีพฤติกรรมก้าวร้าวไม่เหมาะสม บางคนสูบบุหรี่บนรถควบคุมผู้ต้องหา และมีการสาดน้ำดื่มผ่านรถใส่ช่างภาพ-ผู้สื่อข่าว ที่ไปรอรายงานสถานการณ์ภายในโรงพัก เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องเข้าห้ามปราม แต่ผู้ต้องหาบางรายไม่เชื่อฟัง