เปิด 5 จังหวัดน่าเที่ยวสิ้นปีนี้ - เชียงใหม่อันดับหนึ่ง
สวนดุสิตโพล เผยผลสำรวจ ชี้ ปชช.เชื่อการท่องเที่ยวไทยดีขึ้น แนะรัฐบาลเร่งกระตุ้นเป็นวาระแห่งชาติ พร้อมจัดอันดับ 5 จังหวัดน่าเที่ยว เชียงใหม่-เชียงราย-น่าน เป็นเมืองน่าเที่ยวมากที่สุดในช่วงสิ้นปี
หลังจากสถานการณ์โควิด-19 เริ่มคลี่คลาย และรัฐบาลประกาศให้เป็นโรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวังประชาชนสามารถเดินทางไปเที่ยวใช้ชีวิตได้ตามปกติ ทำให้หลายฝ่ายมองว่าการเปิดประเทศและการกระตุ้นเรื่องท่องเที่ยวในช่วงปลายปีน่าจะเป็นโอกาสอันดีที่จะทำให้บรรยากาศในประเทศกลับมาคึกคัก เศรษฐกิจเดินหน้าต่อไปได้
เพื่อสะท้อนความคิดเห็นของประชาชน “สวนดุสิตโพล” มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ได้สำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศ จำนวนทั้งสิ้น 1,148 คน (สำรวจทางออนไลน์) ระหว่างวันที่ 23-28 ต.ค.65 สรุปผลได้ ดังนี้
1.หลังจากประกาศยกเลิกโควิด-19 จากโรคติดต่ออันตรายเป็นโรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวัง ประชาชนคิดว่าสถานการณ์ท่องเที่ยวไทยในช่วงสิ้นปีนี้จะเป็นอย่างไร
- ดีขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา 79.88%
- เหมือนเดิม 17.94%
- แย่ลงกว่าปีที่ผ่านมา 2.18%
2.ในช่วงสิ้นปี-ปีใหม่ประชาชนคิดว่าจังหวัดใดน่าท่องเที่ยวมากที่สุด
- อันดับ 1 เชียงใหม่ 38.85%
- อันดับ 2 เชียงราย 19.30%
- อันดับ 3 น่าน 15.79%
- อันดับ 4 ภูเก็ต 13.28%
- อันดับ 5 ประจวบคีรีขันธ์ 12.78%
3.ประชาชนสนใจการท่องเที่ยวแบบใด
- อันดับ 1 เน้นการพักผ่อน พักโรงแรมที่สวยงาม สะดวกสบาย 55.62%
- อันดับ 2 ไปทะเล ชายหาด 51.41%
- อันดับ 3 เที่ยววัด ทำบุญ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ 45.43%
4.ปัจจัยใดที่จะทำให้ประชาชนเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศมากขึ้น
- อันดับ 1 ค่าใช้จ่ายเหมาะสม คุ้มค่า 71.65%
- อันดับ 2 ความสะดวกในการเดินทาง 68.50%
- อันดับ 3 มีโปรโมชั่น ส่วนลดต่างๆ เช่น ค่าที่พัก ค่าเดินทาง ค่าอาหาร เป็นต้น 46.98%
5.หลังจากสถานการณ์โควิด-19 เริ่มคลี่คลาย รัฐบาลควรเร่งดำเนินการส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างไร
- อันดับ 1 กำหนดให้เป็นวาระแห่งชาติ กระตุ้นการท่องเที่ยวทั้งในประเทศและจากต่างประเทศ 60.16%
- อันดับ 2 ส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองหลักและเมืองรอง 57.34%
- อันดับ 3 เปิดตลาดการท่องเที่ยวใหม่ๆ มีเส้นทางท่องเที่ยวใหม่ๆ 56.29%
6.ประชาชนมีการวางแผนเดินทางท่องเที่ยวในช่วงปลายปีนี้หรือไม่
- อันดับ 1 มี 54.01%
- อันดับ 2 ยังไม่แน่ใจ 32.49%
- อันดับ 3 ไม่มี 13.50%
7.กรณีที่ประชาชนมีการวางแผนเดินทางท่องเที่ยวในช่วงปลายปีนี้ เป็นการท่องเที่ยวแบบใด ค่าใช้จ่ายประมาณกี่บาท
- อันดับ 1 เที่ยวในประเทศ (คาดการณ์ใช้จ่ายต่อทริปเฉลี่ยประมาณ 11,977 บาท) 87.58%
- อันดับ 2 เที่ยวต่างประเทศ (คาดการณ์ใช้จ่ายต่อทริปเฉลี่ยประมาณ 75,900 บาท) 12.42%
นางสาวพรพรรณ บัวทอง นักวิจัย สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต กล่าวว่า “การฟื้นประเทศด้วยท่องเที่ยว” เริ่มเห็นภาพชัดเจนยิ่งขึ้นจากสถานการณ์ท่องเที่ยวไทยที่เริ่มกลับมาครึกครื้น จะเห็นได้จากผลสำรวจที่ประชาชนมองว่าการท่องเที่ยวไทยในสิ้นปีนี้น่าจะดีขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา ยิ่งไปกว่านั้นกลุ่มตัวอย่างเกินครึ่งได้มีแผนเดินทางท่องเที่ยวไว้แล้ว โดยสนใจท่องเที่ยวเพื่อพักผ่อน เน้นความสะดวกสบายมากขึ้น หากภาครัฐมีการส่งเสริมเรื่องค่าใช้จ่าย โปรโมชั่น การเดินทางที่สะดวก มีเส้นทางท่องเที่ยวใหม่ ๆ ทั้งเมืองหลักและเมืองรองก็จะช่วยกระตุ้นการเดินทางในประเทศได้ตรงใจประชาชน และทำให้ประชาชนกล้าที่จะใช้จ่ายมากขึ้น
ด้านผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.พิมพ์มาดา วิชาศิลป์ คณบดีโรงเรียนการท่องเที่ยวและบริการ มหาวิทยาลัยสวนดุสิต กล่าวว่า ผลจากการสนทนากลุ่ม (Focus Group) เรื่องคำตอบท่องเที่ยวไทยหลังโควิด-19 พบว่า สถานการณ์การท่องเที่ยวไทยในช่วงครึ่งปีหลังนี้ดีขึ้นกว่าครึ่งปีแรก โดยในไตรมาส 4 นี้จะมีการเดินทางท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้นทั้งจากนักท่องเที่ยวในประเทศและต่างประเทศ โดยทางสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยเห็นว่าคำตอบของท่องเที่ยวไทยหลังโควิด-19 ควรมาจากการออกแบบการท่องเที่ยวใหม่ หรือ Tourism Redesign โดยนำเสนอยุทธศาสตร์สมดุล 4 ประการเพื่อสร้างการท่องเที่ยวที่ยั่งยืนคือ 1) สมดุลเมืองหลักและเมืองรอง 2) สมดุลผู้ประกอบการรายย่อยและรายใหญ่ 3) สมดุลด้านการใช้ทรัพยากรการท่องเที่ยวทางธรรมชาติและที่มนุษย์สร้างขึ้น และ 4) สมดุลของแผนด้านการท่องเที่ยวระยะสั้นและระยะยาว
ทั้งนี้ หลายภาคส่วนที่เข้าร่วมสนทนากลุ่มมีความคิดเห็นไปในทิศทางเดียวกันในประเด็นด้านอุปทานการท่องเที่ยวควรดำเนินการควบคู่ไปกับการส่งเสริมการตลาดสำหรับนักท่องเที่ยวในฝั่งอุปสงค์ โดยดำเนินการไปในทิศทางเดียวกันในทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวจากต้นน้ำ กลางน้ำและปลายน้ำ ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน สิ่งสำคัญที่สุด คือ การนำเสนอคุณค่าและประสบการณ์การท่องเที่ยวไทยอย่างจริงแท้ ซื่อตรง เพื่อสร้างความประทับใจแก่นักท่องเที่ยวเพื่อให้กลับมาเยือนประเทศไทยอีกครั้ง