จับตาคุมแอปฯ ธนาคารห้ามล่มเกิน 8.7 ชั่วโมงต่อปี เปิดสถิติแบงก์ล่มบ่อยสุด

จับตามการควบคุม ออกเกณฑ์ห้ามแอปพลิเคชั่นธนาคารล่มนานกว่า 8.7 ชั่วโมงต่อปี โดยเตรียมออกแนวทางปฏิบัติขณะแอปฯล่ม คาดว่าจะมีการนำเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทยเพื่อพิจารณาเห็นชอบและออกประกาศให้รับทราบร่วมกันต่อไป

นายกิตติ โฆษะวิสุทธิ์ ประธานกรรมการศูนย์ประสานงานการรักษาความมั่งคงปลอดภัยเทคโนโลยีสารสนเทศภาคการธนาคาร (TB CERT) เปิดเผยว่า หลังจาก ธปท. เตรียมออกแนวทางปฏิบัติกรณีแอปพลิเคชั่นธนาคารล่ม ซึ่งหากมีการกำหนดให้มีการดำเนินการแบบชัดเจนตามประกาศแล้ว สถาบันการเงินทุกแห่งต้องรับเงื่อนไขตามที่ ธปท.กำหนด

การออก Service Level Agreement (SLA) ข้อตกลงเกี่ยวกับระยะเวลาการให้บริการทางการเงินในด้านต่างๆ เช่น การเกิดเหตุการณ์ขัดข้องของระบบการทำธุรกรรมในแอปพลิเคชั่นของธนาคารต่างๆ เมื่อผู้ใช้บริการติดต่อกับธนาคารไม่ได้ โดยช่วงเวลาที่ธนาคารกำลังแก้ระบบที่ขัดข้องจะต้องอยู่ภายในเวลาที่กำหนด ตัวเลข SLA หรือระยะเวลาที่ยอมรับได้หากเกิดระบบล่มจะอยู่ที่ 99.99 หรือคิดเป็นยอดสะสมประมาณ 8.7 ชั่วโมงต่อปี และห้ามใช้เวลาสะสมทั้งปีเกินกว่าเกณฑ์ที่กำหนด

ธปท.จะออกเกณฑ์จะเน้นไปที่การอำนวยความสะดวก และไม่ต้องการให้ระบบสะดุด เนื่องจากปัจจุบันวิธีการชำระเงินผ่านระบบแอปฯ โมบายแบงก์กิ้ง หรือพร้อมเพย์มีการขยายตัวมากขึ้น เเละต้องการสร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชน ดังนั้น เรื่องของบทลงโทษคาดว่า ธปท.ยังคงไม่ออกมา

เรื่องระบบล่มอาจจะไม่เกี่ยวข้องกับส่วนของแอปฯธนาคารทั้งหมด ส่วนใหญ่ระบบจะล่มจากการทำธุรกรรมพร้อมกันในปริมาณมากจากจำนวนการเข้าใช้ระบบที่มีความถี่สูง 

ขณะที่ ศูนย์คุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน (ศคง.) ได้เปิดเผยสถิติระบบแบงก์ขัดข้องในไตรมาส 3 ประจำปี 2565 พบว่า 

- ธนาคารทหารไทยธนชาต (ttb) ล่มสูงสุดถึง 6 ครั้ง เป็นเวลา 46 ชั่วโมง 

- ธนาคารไทยพาณิชย์ล่ม 6 ครั้ง เป็นเวลา 6 ชั่วโมง 

- ธนาคารยูโอบี ล่ม 1 ครั้ง ระยะเวลา 2 ชั่วโมง

- ธนาคารกรุงไทย กรุงศรีอยุธยา ซิตี้แบงก์ ซีไอเอ็มบี และทิสโก้ ล่มธนาคารละ 1 ครั้ง 1 ชั่วโมง 

ที่เหลือไม่มีรายงานเรื่องความขัดข้องเกี่ยวกับแอปพลิเคชั่นเกิดขึ้น