อัปเดต "พระมหาอภิวรรณ" โดนรวบคาโรงแรมหรู หมายจับคดีเสพเมถุน "สามเณร" วัย 15
หนีไม่รอด อัปเดต "พระมหาอภิวรรณ" โดนรวบคาโรงแรมหรู หมายจับคดีเสพเมถุน "สามเณร" วัย 15 เจ้าตัวสารภาพแล้วอ้างไม่เกี่ยววัด
เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2565 เวลา 03.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สถานีตำรวจภูธรเมืองน่าน รับตัว พระมหาอภิวรรณ อภิวณฺโณ หรือ นายอภิวรรณ จำปาวรรณ อายุ 41 ปี หลังตำรวจสอบสวนกลาง ร่วมกับตำรวจภูธรจังหวัดน่านตามรวบตัวได้คาโรงแรมหรูใกล้สนามหลวง กรุเทพมหานคร ตามหมายจับศาลจังหวัดน่านที่ จ.186/2565 ลงวันที่ 10 พฤศจิกายน 2565
ตั้งข้อหา 2 ข้อหาหนัก กระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ซึ่งมิใช่ภริยาหรือสามีของตนโดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม และกระทำอนาจารเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ซึ่งมิใช่ภริยาหรือสามีของตนโดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม
หลังตำรวจสอบสวนกลาง ร่วมกับตำรวจภูธรจังหวัดน่านสืบทราบมาว่า พระมหาอภิวรรณ อภิวณฺโณ หรือ นายอภิวรรณ จำปาวรรณ อายุ 41 ปี เข้าพักอาศัยอยู่ที่ห้องหมายเลข 128 ภายในโรงแรมหรูแห่งหนึ่ง แถวสนามหลวง กรุงเทพฯ เพื่อตามรอยพระปลัดธเนศพระรุ่นพี่ที่หลบหนีไปได้ก่อนหน้านี้
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม จึงวางแผนจับกุม โดยออกอุบายว่าเป็นแม่บ้านของโรงแรม เข้าไปเคาะประตู เมื่อพระมหาอภิวรรณ อภิวณฺโณ หรือ นายอภิวรรณ จำปาวรรณ อายุ 41 ปี ได้เปิดประตูเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้แสดงตัวพร้อมหมายจับ ทำการจับกุมตัว โดยพระมหาอภิวรรณได้รับสารภาพว่า ก่อนหน้านี้ตนได้ตนได้ใช้มือจับอวัยวะเพศและสวมกอดสามเณรจริง แต่ปฏิเสธว่า ตนไม่ได้ทำอนาจารผู้เสียหาย หรืออมอวัยวะเพศของสามเณรแต่อย่างใด โดยเจ้าหน้าที่ได้นำ พระมหาอภิวรรณไปทำการสึกจากความเป็นพระเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย
ทั้งนี้ สืบเนื่องจาก พนักงานเจ้าหน้าที่คุ้มครองเด็ก พม.น่าน และบิดามารดา ได้พาสามเณร อายุวัย 15 ปี เข้าพบ พล.ต.ต.ปิยะพันธ์ ภัทรพงศ์สินธุ์ ผบก.ภ.จว.น่าน และ พ.ต.ท.ทนงศักดิ์ พิชญ์วิชชาธรรม รอง ผกก.สส. สภ.เมืองน่านพนักงานสอบสวน เพื่อแจ้งความร้องทุกข์ว่าสามเณรได้ถูก พระมหาอภิวรรณ อภิวณฺโณ หรือ นายอภิวรรณ จำปาวรรณ ล่วงละเมิดทางเพศ
ก่อนหน้านี้ สามเณรรูปดังกล่าวได้บวชเรียนอยู่โรงเรียนนันทบุรี แผนกพระปริญัตติธรรม ที่ตั้งอยู่ในวัดพระธาตุช้างค้ำวรวิหาร และจำวัดสังกัดวัดพระธาตุช้างค้ำ วรวิหารตั้งแต่เดือนเมษายน 2563 จนเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2565 สามเณรได้รับหน้าที่ให้ไปปิดพระวิหารเพียงคนเดียว แล้วพระมหาอภิวรรณฯ เดินเข้ามาหาและบอกว่าให้ไปช่วยงานเอกสารที่กุฏิเจ้าอาวาส สามเณรก็ได้เข้าไปช่วยงานจนถึงเวลา 22.00 น. สามเณรรู้สึกง่วงนอนจึงขอตัวกลับไปจำวัด แต่พระมหาอภิวรรณ บอกว่าให้นอนที่ห้องของพระมหาอภิวรรณ จากนั้นเวลาประมาณ 01.00 น. สามเณรรู้สึกตัวและสะดุ้งตกใจตื่น
เมื่อพระมหาอภิวรรณ ได้ถลกสบงของสามเณรขึ้นและกำลังใช้ปากอมอวัยวะเพศของสามเณรอยู่ สามเณรจึงดิ้นขัดขืนแต่ไม่สามารถสู้แรงได้ประกอบกับสามเณรมีอาการเจ็บหลังพร้อมทั้งอาการเพลียจึงหลับไป จนเวลา 06.00 น. สามเณรได้สะดุ้งตื่นและพบว่าพระมหาอภิวรรณ นอนอยู่ข้างๆ จึงรีบเก็บของออกไปกฏิของสามเณรโดยไม่บอกใคร
จากนั้น เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 2565 สามเณรได้ไปเตรียมงานเข้าพรรษา พระมหาอภิวรรณ ได้ให้สามเณรไปช่วยงานเอกสารที่กุฏิเจ้าอาวาสอีก แต่สามเณรรู้สึกไม่สบาย พระมหาอภิวรรณ จึงบอกให้สามเณรไปนอนพักที่ห้องของตน จนเวลาประมาณ 13.00 น. พระมหาอภิวรรณ ได้เข้ามากอดจูบลูบคลำและจับอวัยวะเพศจนแข็งตัว แล้วเดินออกจากห้องไป
ภายหลัง จากกรณีเปิดโปงพฤติกรรมอื้อฉาวของ "พระปลัดธเนศ คงน้อย" ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระธาตุช้างค้ำวรวิหารพระอารามหลวง จังหวัดน่าน และหัวหน้าฝ่ายปกครองโรงเรียนพระปริยัติธรรมวัดดังกล่าว ก่อเหตุล่วงละเมิดทางเพศสามเณรลูกศิษย์ ที่บวชเรียนอยู่รูปหนึ่ง พร้อมทั้งข่มขู่ว่าหากสามเณรรายใดขัดขืน หรือนำเรื่องไปเผยแพร่ ก็จะไม่ได้รับทุนเรียนต่อ โดยทำมานานกว่า 2 ปี ทาง สภ.เมืองน่าน จึงตรวจสอบข้อเท็จจริงพร้อมกับรวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลออกหมายจับ แต่ระหว่างนั้นพระปลัดธเนศ ชิงหลบหนีออกนอกพื้นที่ไปได้ก่อน ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการติดตามตัวก่อนหน้านี้ สามเณรจึงขอทวงความยุติธรรมเนื่องจากตนเป็นหนึ่งในผู้ถูกกระทำ
อย่างไรก็ตาม หลังเรื่องถูกเผยแพร่ไปสื่อต่างๆ สามเณรอีกรูปหนึ่งพร้อมบิดามารดาจึงเข้าแจ้งกับทาง สภ.เมืองน่านว่าถูก พระมหาอภิวรรณ ผู้ต้องหารายนี้ ซึ่งมีตำแหน่งเป็นหัวหน้ากองเลขานุการเจ้าอาวาสวัดกระทำชำเราในลักษณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงสืบสวนสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลออกหมายจับ ต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ทราบว่า พระมหาอภิวรรณ หลังทราบว่าตนเองถูกแจ้งเอาผิดจึงรีบชิงหลบหนีมาหลบซ่อนตัวอยู่ในพื้นที่ กทม. เจ้าหน้าที่จึงเร่งนำกำลังตามจับกุมตัวได้ดังกล่าว
สอบสวน พระมหาอภิวรรณ ยืดอกให้การรับสารภาพว่าได้ล่วงละเมิดสามเณรรูปดังกล่าวจริง แต่อยากให้สังคมรับรู้ว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นการกระทำส่วนตัวไม่เกี่ยวกับวัด เบื้องต้นจึงนำตัวไปทำการสึกพร้อมส่งตัวมาที่ สภ.เมืองน่าน ท้องที่ที่เกิดเหตุ เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ด้าน พล.ต.ต.ปิยะพันธ์ ภัทรพงศ์สินธุ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดน่าน กล่าวว่า สำหรับคดีดังกล่าวเหตุเกิดขึ้นมานานแล้ว แล้วทางผู้เสียหายได้เข้ามาแจ้งความที่ตำรวจภูธรจังหวัดน่าน จึงกำชับให้พนักงานสอบสวนให้รวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อขออนุมัติหมายจับผู้กระทำความผิด เมื่อไปติดตามตัวที่วัดผู้ต้องหาไม่อยู่วัด จึงได้ประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จนสามารถจับกุมตัวได้ที่กรุงเทพมหานคร โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจมีพยานหลังฐานเพียงพอที่จะดำเนินการเอาผิดผู้เสียหาย อยู่แล้ว