คืบหน้ารัวยิง "เสี่ยรับเหมา" ดับ รอง ผบช.ภ.8 ลงพื้นที่ มั่นใจจับคนร้ายได้แน่

จากกรณีเกิดเหตุคนร้ายไม่ต่ำกว่า 3 คน ขับรถยนต์เก๋งตามประกบยิงกว่า 20 นัด นายสมพร สินทอง อายุ 46 ปี ผู้รับเหมาก่อสร้างและนักธุรกิจคนดังเสียชีวิต ขณะขับรถกระบะอีซูซุดีแม็ก ทะเบียน ผน 7240 สุราษฎร์ธานี อยู่หน้าโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชเวียงสระ หมู่ 10 ต.บ้านส้อง อ.เวียงสระ จ.สุราษฎร์ธานี

 

ในที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุนปืนขนาด 11 มม. จำนวน 20 ปลอก โดยเหตุเกิดเมื่อช่วงสายของเมื่อวานที่ผ่านมา เบื้องต้นตำรวจพุ่งเป้าไปที่ประเด็นขัดแย้งส่วนตัว ขัดแย้งทางธุรกิจ และชู้สาว ทั้งนี้ภรรยาผู้เสียชีวิตได้ให้การกับตำรวจเบื้องต้นว่า สามีพูดก่อนเกิดเหตุว่าถูกลงขันตั้งค่าหัว 3 ล้าน โดยตอนนั้นตนคิดว่าสามีพูดด้วยความมึนเมาสุราหรือไม่ และประมาณ 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา ก่อนเกิดเหตุมีผู้หญิงโทรศัพท์มาเตือนให้ระวังตัวด้วยนั้น

 

 

ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อเวลา 11.00 น. วันนี้(12 พฤศจิกายน 2565) พล.ต.ท.สุรพงศ์ ถนอมจิตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 (ผบช.ภ.8) ได้มอบหมายให้ พล.ต.ต.วันไชย เอกพรพิชญ์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 (รอง ผบช.ภ.8) ลงพื้นที่ สภ.เวียงสระ เพื่อประชุมคลี่คลายคดี

 

และภายหลังการประชุม พล.ต.ต.วันไชย เอกพรพิชญ์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 (รอง ผบช.ภ.8) เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า เนื่องจากคดีเป็นคดีอุกฉกรรจ์ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ได้กำชับมาเป็นพิเศษ และพล.ต.ท.สุรพงศ์ ถนอมจิตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 (ผบช.ภ.8) ก็ได้สั่งการมา โดยวันนี้มีการประชุมทีมทำงานทั้งทีมสืบสวนสอบสวนภาค 8 และพิสูจน์หลักฐาน 8 โดยในส่วนพยานหลักฐานที่เกิดเหตุได้เก็บครบสมบูรณ์ และอาจจะเก็บเพิ่มเติมบ้างในส่วนที่ขาด

 

"ขอให้ความมั่นใจว่าคดีนี้จับกุมคนร้ายได้แน่นอน ประเด็นความขัดแย้งมีอยู่ 3-4 เรื่อง ทั้งเรื่องประเด็นทางธุรกิจ ประเด็นชู้สาว ประเด็นเรื่องหนี้สิน ส่วนการลงรายละเอียดในประเด็นนั้นจะมุ่งเป็นเคส ๆ ตามพยานหลักฐาน ซึ่งประเด็นธุรกิจการรับเหมาก็เป็นประเด็นหนึ่งอยู่ในสำนวนการสอบสวนแล้ว ส่วนคนร้ายที่ก่อเหตุอาจจะเป็นผู้ที่มีความขัดแย้งอาจจะลงมือทำเองหรือจ้างวานมือปืนรับจ้าง โดยตำรวจมีพยานหลักฐานในส่วนนี้แล้ว เชื่อว่าอีกไม่นานน่าจะคลี่คลายคดีได้"

 

 

รอง ผบช.ภ.8 กล่าวต่ออีกว่า สำหรับพฤติกรรมของคนร้ายที่ใช้รถยนต์เป็นยานพาหนะ ซึ่งอาจจะต่างจากอดีตที่ผู้ก่อเหตุมักจะใช้รถจักรยานยนต์เพื่อความรวดเร็วหรือความไวในการหลบหนีนั้น ผู้ก่อเหตุอาจจะมีการพรางตัวแล้วไปเปลี่ยนรถหลบหนี ทั้งนี้ในส่วนของพยานหลักฐานที่ได้จะมุ่งไปที่ผู้ก่อเหตุก่อนที่จะสาวไปถึงผู้จ้างวาน หากมีพยานหลักฐานก็สามารถออกหมายจับกุมได้ทันที

 

"ตอนนี้ตำรวจกำลังติดตามผู้ก่อเหตุอยู่ ทุกอย่างมีรายละเอียดอยู่แล้ว ขอเวลาให้ตำรวจทำงานอีกนิด โดยทีมสืบสวนภาค 8 มีความเข้มแข็งในการสอบสวน มีเทคโนโลยีทุกอย่างเป็นวิทยาศาสตร์มีเหตุมีผล ซึ่งคดีนี้ถือว่าไม่ใช่คดีรุนแรงสุด เคยมีคดีที่รุนแรงกว่านี้ก็สามารถคลี่คลายได้ ขอเวลาให้ตำรวจทำงานก่อน"

 

ข่าวโดย สุวรรณี บัณฑิศักดิ์ จ.สุราษฎร์ธานี