"พระพยอม" ฉะยับเหรียญ "เทพซิ่ง" ชี้ต้องศรัทธาด้วยปัญญา ไม่ใช่พาคนงมงาย

"พระพยอม" ฉะยับเหรียญ "เทพซิ่ง" ชี้ต้องศรัทธาด้วยปัญญา ไม่ใช่พาคนงมงาย

"พระพยอม" เคลื่อนไหวปมโซเชียลแชร์ว่อนเหรียญ "เทพซิ่ง" ดึงสติต้องศรัทธาด้วยปัญญา ไม่ใช่พาคนงมงาย ห่วงอีกหน่อยคงมีอรหันต์ซิ่งตามมา

"พระพยอม" เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว ให้ความเห็นกรณีที่กำลังถูกสังคมวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวาง เมื่อเจ้าของเต็นท์รถยนต์มือสองรายหนึ่งได้โพสต์เรื่องราวความศรัทธาที่มีต่อ พระราชมงคลวัชราจารย์ หรือ หลวงปู่พัฒน์ ปุญฺญกาโม หรือ "หลวงพ่อพัฒน์" พระเกจิอาจารย์ชื่อดังในจังหวัดนครสวรรค์ ขณะนั่งอยู่ในรถสปอร์ตหรูของเจ้าของเต็นท์รถ ซึ่งต่อมาภาพดังกล่าวได้ถูกนำมาสร้างเป็นเหรียญวัตถุมงคลในชื่อ "เทพซิ่ง" โดยคนออกแบบอ้างว่าได้รับแรงบันดาลใจมาจากภาพหลวงพ่อพัฒน์ที่นั่งอยู่ในรถสปอร์ตหรู พร้อมกับระบุข้อความว่า

 

 

"ศรัทธาบารมีเกิด ผมทำวงการรถยนต์มือสองมาเกือบ 30 ปี ผ่านเรื่องราวมากมาย จนผมได้กราบหลวงพ่อพัฒน์ และท่านได้นั่งบนรถผม ผมรู้สึกถึงแรงบรรดาใจที่จะถ่ายทอดเรื่องราวนี้ลงบนวัตถุมงคลนี้ ซึ่งผมขอเรียกว่า "เทพซิ่ง" ใครได้มองภาพนี้ก็จะสามารถเห็นดวงตาความรู้สึกที่หลวงพ่อถ่ายทอดความเมตตาในขณะที่ท่านได้นั่งบนรถเรื่องราวเหล่านี้จะเป็นประวัติศาสตร์หน้าหนึ่ง สำหรับผู้ที่ศรัทธาหลวงพ่อพัฒน์กับวัตถุมงคลนี้ ขอให้บารมีหลวงพ่อปกปักรักษาผู้ที่ได้ครอบครองเหรียญวัตถุมงคลนี้ โดยการเดินทางด้วยยานพาหนะต่าง ๆ ให้ปลอดภัย ค้าขายดีเจริญรุ่งเรืองตลอดไป"

 

ซึ่งหลังจากที่ภาพของเหรียญดังกล่าวถูกเผยแพร่ลงในโลกโซเซียลก็ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารย์ตามมาถึงความไม่เหมาะสม

 

เกี่ยวกับเรื่องนี้เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 17 พฤศจิกายน 2565 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปพบพระราชธรรมนิเทศน์ หรือ พระพยอม กัลยาโณ เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว เพื่อสอบถามเกี่ยวกับความคิดเห็นในเรื่องดังกล่าว

 

โดย พระพยอม กล่าวว่า หลวงพ่อพัฒน์ท่านเป็นพระที่เคร่งครัดในพระธรรมวินัย ท่านไม่เคยแสดงความหวือหวาใด ๆ มาก่อน แทนที่จะนำรูปของหลวงพ่อพัฒน์ไปสร้างไว้ในใบโพธิ์ ธรรมจักร หรือเสมา จะแลดูขลังน่าเลื่อมใสมากกว่าที่นำท่านไปนั่งไว้ในรถอยู่ในภาพแบบนี้ แนวความคิดแบบนี้เป็นความคิดแบบเนื้องอกในศาสนาพุทธ ในด้านพระเครื่อง ตั้งชื่อก็น่าเกลียด ไปตั้งเป็น "เทพซิ่ง" แบบนี้อีกหน่อยก็คงมี "อรหันต์ซิ่ง" หรือ "พระพุทธเจ้าซิ่ง" ตามมา แล้วแบบนี้มันจะไม่เลยเถิดกันหรือยังไง

 

 

พระพยอม กล่าวต่ออีกว่า เพราะฉะนั้นการจะทำอะไรควรพิจารณาให้ดี เหมือนที่พระพุทธเจ้าท่านทรงตรัสไว้ว่า "นิสัมมะ กะรณัง เสยโย" ใคร่ครวญเสียก่อน แล้วค่อยทำดีกว่า แม้จะบอกจะอ้างว่าทำไปด้วยความศรัทธาต่อหลวงพ่อ แต่ถามว่าศรัทธาเป็นหรือเปล่า มันต้องศรัทธาด้วยสัมปยุต ด้วยปัญญา ไม่ใช่ศรัทธาแต่พาคนไปงมงาย วันนี้ถ้าทำออกมาแล้วไม่ดี ก็จะพลอยทำให้หลวงพ่อเสื่อมเสียไปด้วยอีก ทำให้พุทธศาสนาไม่มีหลักมีเกณฑ์ ทำให้ชาวพุทธพลัดหลักไปคลำหาฤทธิ์กันอยู่เรื่อย

 

"มันควรจะถึงยุคถึงเวลาแล้วที่ต้องห้ามขายพระเครื่องในวัดในโบสถ์เหมือนเมื่อครั้งหนึ่งที่ผ่านมา ต่อไปใครจะออกวัตถุมงคลใด ๆ ที่ตั้งชื่อแปลก ๆ รูปแบบแปลก ๆ ควรต้องมีการห้ามปราม อย่างเทพเขาอยู่แบบสงบเสงี่ยม ไม่ได้มาซิ่งแบบนี้ นิสัยซิ่ง ๆ แบบนี้เป็นนิสัยชาวบ้านแบบเรา ๆ นี่แหละ ไม่ใช่นิสัยของเทพ" พระพยอม กล่าวทิ้งท้าย

 

ข่าวโดย ศุภชัย สินธ์ประเสริฐ จ.นนทบุรี