เช็คเงินประกันราคาข้าว (26 พ.ย.65) โอนเงินให้ 6 จังหวัด บรรยากาศชาวนาปรับ บช.

เช็คเงินประกันราคาข้าว (26 พ.ย.65) โอนเงินให้ 6 จังหวัด บรรยากาศชาวนาปรับ บช.

อัปเดต "ประกันรายได้ข้าว" ชาวนาเกษตรกร จ.มหาสารคาม ต่างนำสมุดบัญชีเงินฝากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) มาปรับเงินวันนี้ (26 พ.ย.2565) ขณะที่วันนี้ถึงคิวโอนเงินให้ 6 จังหวัด

การโอนเงินประกันรายได้ข้าว โครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 2565/66 จากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ช่วยเหลือชาวนาเกษตรกรไร่ละ 1,000 บาท สูงสุดไม่เกินครอบครัวละ 20 ไร่หรือไม่เกิน 20,000 บาท โดยที่ ธนาคาร ธ.ก.ส. สาขามหาสารคาม ต.ตลาด อ.เมือง เกษตรกรต่างนำสมุดบัญชีที่เป็นบัญชีคู่ฝากที่ขึ้นทะเบียนเกษตรกรเอาไว้มาปรับที่ตู้ปรับสมุดของธนาคาร เพื่อดูยอดเงินที่ทางรัฐบาลจะโอนเงินให้กับชาวนา

สำหรับมาตรการช่วยเหลือชาวนา ปีการผลิต 2565/2566 โดยเกษตรกรส่วนใหญ่ต่างก็สมหวังไปตามๆกัน เนื่องจากเงินเริ่มทยอยเข้าบัญชีชาวนาเกษตรกรแล้ว บางรายเลือกที่จะถอนเงินเลยเพื่อที่จะนำเงินไปใช้จ่าย และใช้หนี้ที่กู้ยืมมา ตลอดจนจ่ายให้กับผู้รับจ้างไถหว่านและเกี่ยวข้าวให้กับที่นาของตน ที่ส่วนใหญ่จะรอให้เกษตรกรขายข้าวก่อนแล้วค่อยนำเงินมาใช้คืน ทำให้วันนี้มีเกษตรกรมาทำธุรกรรมทางการเงินกับธนาคารกว่า 200 ราย หลายคนต่างพากันดีใจเพราะเงินถูกโอนเข้าบัญชีแล้ว ส่วนคนที่เงินยังไม่เข้าเป็นเพราะเป็นคนละหมู่บ้าน เนื่องจาก ธ.ก.ส กำหนดไว้เพื่อลดความแออัด

นายไพโรจน์ รุ่งพนารัตน์ ผู้อำนวยการสำนักงาน ธ.ก.ส. จังหวัดมหาสารคาม กล่าวว่า จังหวัดมหาสารคามมีเกษตรกรที่จะได้รับเงินในโครงการสนับสนุนค่าบริหารจัดการและพัฒนาคุณภาพผลผลิตเกษตรกรผู้ปลูกข้าว มีการผลิต 2565/2566 จำนวน 162,654 ราย รวมเป็นเงิน 1,933,848,340 บาท

ธนาคาร ธ.ก.ส. จะโอนเงินเข้าบัญชีเกษตรกรที่ได้ขึ้นทะเบียนผู้ปลูกข้าว โดยสามารถตรวจสอบในเว็บไซด์ของธนาคารหรือเว็บไซด์ของกรมส่งเสริมการเกษตรหรือสามารถเช็กได้ทางแอปพลิเคชั่น A-Mobile ของ ธ.ก.ส. (คลิก)

 

เช็คเงินประกันราคาข้าว (26 พ.ย.65) โอนเงินให้ 6 จังหวัด บรรยากาศชาวนาปรับ บช.

ส่วนเกษตรกรที่มีบัตร ATM ก็สามารถกดเงินได้ที่ตู้ ATM ของทุกธนาคาร โดยที่ไม่ต้องเดินทางมาที่ธนาคารเพื่อลดความแออัด 

นางคำปุ่น เกษตรกรบ้านเหล่าวิไล ต.เขวา อ.เมือง จ.มหาสารคาม เปิดเผยว่า ตนเองมีที่นา 10 ไร่ ได้ยินข่าวว่าเงินจะโอนเข้ามาวันนี้เลยนำสมุดบัญชีมาปรับก็พบว่าเงินเข้ามาแล้วจำนวนเงิน 7,000 บาทและ 927 บาท เป็นเงินไร่ละพันและเงินประกันรายได้ ซึ่งเงินที่ได้มาก็จะนำไปจ่ายค่ารถไถและค่ารถเกี่ยวซึ่งค่าไถหว่าน ไถปั่น คิดไร่ละ 250 บาท ค่าเกี่ยวข้าวไร่ละ 700 บาท รวม 10 ไร่ คิดเป็นเงิน 9,500 บาท

ปีนี้เกี่ยวข้าวและขายข้าวไปแล้ว โดยนำไปขายให้กับโรงสีในราคาเกี่ยวสด ทางโรงสีให้กิโลกรัมละ 10.60 บาmหรือตันละ 10,600 บาท ถ้าถามว่าคุ้มหรือไม่ บอกเลยว่าไม่คุ้มเพราะปีนี้ราคาปุ๋ยแพงขึ้นกว่าเท่าตัว

ปุ๋ยยูเรียจากเคยซื้อกระสอบละ 600-800 บาทก็ปรับขึ้นเป็น 1,250 บาท ปุ๋ยใส่ข้าวก็ปรับขึ้นเป็นกระสอบละ 1,450 บาท คิดดูว่าต้นทุนการผลิตจะสูงขนาดไหน แต่ยังไงได้ชื่อว่าเป็นชาวนายังไงก็ต้องทำ อยากให้รัฐบาลช่วยในเรื่องของราคาข้าว ถ้าข้าวขายได้ตันละ 15,000 บาท ก็เป็นที่น่าพอใจและคุ้มกับการลงทุน

ส่วนเกษตรกร บ้านดอนเรือ ต.ท่าตูม อ.เมือง จ.มหาสารคาม อีกรายเล่าว่า ตนมีที่นา 8 ไร่ นำสมุดมาปรับซึ่งเงินได้เข้าบัญชีแล้ว 8,000 บาท รู้สึกดีใจถ้าถามว่าคุ้มหรือไม่นั้น ไม่คุ้มเลยเพราะราคาปุ๋ยปีนี้ราคาสูงมาก ราคาข้าวก็น้อย แต่ก็ยังดีกว่าไม่ได้อะไรเลย ตนเองได้เงินมาแล้วจำนำเงินไปใช้หนี้งวดรถ และใช้หนี้ธนาคาร ธ.ก.ส. ต่อไป

 

ตารางโอนเงินประกันรายได้ข้าวเข้าบัญชีช่วยเหลือเกษตรกร ชาวนา

26 พ.ย.2565

  • ขอนแก่น สกลนคร นครพนม กาฬสินธุ์ นครราชสีมา ยโสธร

27 พ.ย.2565 

  • หนองบัวลำภู หนองคาย มุกดาหาร บึงกาฬ ศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ ชัยภูมิ

28 พ.ย.2565 

  • อำนาจเจริญ  ชัยนาท นนทบุรี ปทุมธานี พระนครศรีอยุธยา ลพบุรี สระบุรี สิงห์บุรี อ่างทอง จันทบุรี ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ตราด นครนายก ปราจีนบุรี ระยอง สมุทรปราการ สระแก้ว กาญจนบุรี นครปฐม ประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี ราชบุรี สมุทรสงคราม สมุทรสาคร สุพรรณบุรี กระบี่ ชุมพร พังงา ภูเก็ต ระนอง สุราษฎร์ธานี ตรัง นครศรีธรรมราช นราธิวาส ปัตตานี พัทลุง ยะลา สงขลา สตูล กรุงเทพ เลย