อัปเดต! โรงงานผลิตพลุระเบิด ดับ 1 เจ็บสาหัส 3 ราย

อัปเดต! โรงงานผลิตพลุระเบิด ดับ 1 เจ็บสาหัส 3 ราย

ความคืบหน้าอัปเดต! โรงงานผลิตพลุระเบิด ที่สุพรรณบุรี เสียชีวิต 1 เจ็บสาหัส 3 ราย

จากกรณีเกิดเหตุโรงงานพลุระเบิด ที่บ้านไม่มีบ้านเลขที่ ตั้งอยู่กลางทุ่งนา ในพื้นที่ หมู่ 3 ต.ศาลาขาว อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี ส่งผลให้ นายบัวลอย บุญประเสริฐ 53 ปี ถูกไฟคลอกทั้งร่างไหม้เกรียมเสียชีวิต ส่วนนายธารา พิมลมิตร อายุ 28 ปี นายธงชัย กำเนิดนนท์ อายุ 55 ปี และ นางสมหมาย ทองเชื้อ อายุ 51 ปี ถูกไฟลวกตามตัวอาการสาหัส ทั้ง 3 คน ขณะเกิดเหตุคนงานกว่า 10 คน กำลังทำงานประกอบพลุอยู่

สอบสวนทราบว่าที่เกิดเหตุ เป็นโรงงานผลิตพลุลูกไข่ไล่นก จดทะเบียนในนาม นางแสงเดือน ปานจันทร์ เจ้าของ ขณะก่อนเกิดเหตุ นางแสงเดือน ไม่อยู่ มีเพียงสามี กับลูกชายและคนงานกว่า 10 คน กำลังทำงานอยู่ จากนั้นมีกลุ่มควันจากกองถ่านลอยขึ้นมา ด้านนายธาราลูกชายเจ้าของโรงงาน เห็นประกายไฟได้รีบเอาถังดับเพลิงไปฉีดทำให้สะเก็ดไฟจากกองถ่านกระเด็นไปถูกกองดินปืน จากนั้นนายบัวลอย ผู้เสียชีวิต ได้พยายามวิ่งเอาน้ำไปดับ ซึ่งคาดว่าผู้ตายคิดว่าไฟดับแล้ว จึงได้หันหลังกลับไปเพื่อเดินไปขยับรถจักรยานยนต์ ปรากฏว่าเกิดเปลวเพลิงลุกขึ้นอีกครั้งที่กองดินปืน ทำให้เกิดเกิดระเบิดขึ้นมา จนแรงระเบิดทำให้ไฟลามไปที่ตัวนายบัวลอย อย่างจังจนต้องทิ้งรถและวิ่งหนีไปล้มลงและเสียชีวิต คนงานถูกไฟลากได้รับบาดเจ็บอีก 3 คน

ช่วงสายวันที่ 1 ธ.ค. นางสังเวียน บุญประเสริฐ ภรรยา นายบัวลอย ผู้เสียชีวิต ได้นิมนต์พระสงฆ์มาประกอบพิธีอัญเชิญวิญญาณนายบัวลอยจากจุดที่พบศพ ขณะที่นายวรรณรัตน์ ศรีสุขใส รองปลัดกระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคม พร้อมคณะได้เดินทางมาตรวจสอบที่โรงงานจุดเกิดเหตุ พร้อมให้กำลังใจครอบครัวผู้เสียชีวิตและผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ ได้มอบเงินช่วยเหลือเยียวยาเบื้องต้นให้กับครอบครัวผู้เสียชีวิต จำนวน 240,000 บาท จากนั้นไปเยี่ยมดูอาการของผู้ได้รับบาดเจ็บที่โรงพยาบายเจ้าพระยายมราช

อัปเดต! โรงงานผลิตพลุระเบิด ดับ 1 เจ็บสาหัส 3 ราย

ด้านนายวรรณรัตน์ ศรีสุขใส รองปลัดกระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคม เปิดเผยว่าได้รับมอบงานจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ท่านสุชาติ ชมกลิ่น ได้มอบหมายให้ผมกับคณะทำงานชุดเฉพาะกิจ ได้มาตรวจสอบ มาดูแลที่เกิดเหตุ ที่พลุระเบิด สถานที่ตรงนี้ก็เป็นเขตอำเภอเมืองสุพรรณบุรี ซึ่งในเบื้องต้นมีผู้เสียชีวิต 1 ราย และผู้เสียชีวิต ตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดภูเขาดิน อ.เมืองสุพรรณบุรี ก่อนหน้าที่จะมาที่นี่ ผมไปที่วัดมแล้ว ได้ดูแลสิทธิ์ประโยชน์ผู้เสียชีวิตเป็นผู้ประกันตน ท่านรัฐมนตรีก็มอบหมายให้นำเงินมาช่วยเหลือเยียวยา ในเบื้องต้นก็เยียวยาไปประมาณ 2 แสน 4 หมื่นกว่าบาท กับทายาท

ส่วนผู้บาดเจ็บอีก 3 ราย ตอนนี้รักษาอยู่ที่โรงพยาบาลเจ้าพระยายมราช 1 ราย อีกหนึ่งรายรีเฟอร์ไปที่โรงพยาบาลรามา อีกคนก็รีเฟอร์ไปที่โรงพยาบาลพระสังฆราชองค์ที่ 17 อ.สองพี่น้อง ซึ่งเป็นภูมิลำเนาของผู้บาดเจ็บ ทางกระทรวงแรงงานฯ เป็นห่วงในเรื่องของการทำงาน ที่เกี่ยวกับพวกสารเคมี ดอกไม้เพลิง พวกนี้นะครับ ก็ได้สั่งการให้หน่วยงานของกระทรวงแรงงานฯ ท่านแรงงานจังหวัด ท่านสวัสดิการคุ้มครองแรงงาน 

เมื่อช่วงเช้าได้หาหรือกับท่านผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี ว่าต่อไปนี้จะต้องวางมาตรการ ในการที่จะดูแล คนที่ได้รับใบอนุญาตจากจังหวัดให้ประกอบธุรกิจ เกี่ยวกับดอกไม้เพลิง ในการทำงานนั้นต้องมีมาตรการในการดูแล ผู้ที่มาช่วยทำงาน หรือลูกจ้างให้มีความปลอดภัยในการทำงาน ก็จะขับเคลื่อนผ่านกลไกลของจังหวัด คณะอนุกรรมการความปลอดภัยของจังหวัด หรือคณะกรรมการเซฟตี้ไทยแลนด์จังหวัด ได้มอบหมายสั่งการไปแล้ว กระทรวงแรงงานเองจะร่วมมือกับจังหวัด ดูแลลูกบ้านดูแลผู้ประกอบการทั้งหมด ที่สุพรรณบุรีทราบว่า เฉพาะในอำเภอเมือง ก็จะมีผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการดอกไม้เพลิงประมาณร่วม 10 ราย จะได้นัดมาประชุมชี้แจง วางมาตรการในการทำงานให้มีความปลอดภัย ไม่ให้เกิดกรณีเช่นนี้ขึ้นอีก ในวันนี้เบื้องต้นที่ก็มาดูแลที่เกิดเหตุ เพื่อวางมาตรการจะป้องกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ำ แล้วก็ดูแลเยียวยาผู้เสียหาย ญาติผู้เสียหาย

อัปเดต! โรงงานผลิตพลุระเบิด ดับ 1 เจ็บสาหัส 3 ราย

ในจังหวัดสุพรรณบุรี มีการทำดอกไม้เพลิง เป็นกลุ่มของชาวบ้านหลายจุด และยิ่งช่วงเวลานี้ ใกล้กับปีใหม่ การทำดอกไม้เพลิงก็มีการทำตามออเดอร์มากยิ่งขึ้น ในการทำงานให้มีความปลอดภัยนั้น ทางกระทรวงแรงงานฯ โดยกรมสวัสดิการคุ้มครองแรงงาน เรามีเจ้าหน้าที่ซึ่งดูแล จะมาคอยตรวจดูแล ร่วมกันวางมาตรการ ในการที่จะดูแลลูกจ้างเหล่านี้ ทำงานกับพวกสารเคมี โปสเตสเซียม กำมะถัน พวกดินประสิวต่างๆ ให้มีความปลอดภัย อันนี้จะวางมาตรการร่วมกัน จะวางกับจังหวัด เพราะกรณีจังหวัดออกใบอนุญาตให้ประกอบกิจการพวกนี้ ซึ่งใบอนุญาตมีอายุประมาณ 1 ปี ที่ช่วงเวลาที่เขาได้รับใบอนุญาต ในช่วงเวลากาทำงานนั้น ทางจังหวัดต่อไปคงจะต้องจัดคณะกรรมการ คณะทำงานเข้ามาช่วยดูแลระหว่างที่ลูกจ้างทำงานนั้น วางระบบการทำงานให้มีความปลอดภัย แนะนำ สนับสนุน ข้อมูล องค์ความรู้ต่างๆให้เขาตระหนักถึงความปลอดภัย ก็จะทำให้มาตรการดูแลความปลอดภัยในการทำงานเหล่านี้ต่อเนื่องและยั้งยืน และเกิดความปลอดภัยในพื้นที่จังหวัด