'บิ๊กก้อง' ยันแจ้งข้อหา 'สารวัตรซัว' ได้แน่ คดีพนันออนไลน์คืบหน้า 50%
พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช “บิ๊กก้อง” ยันแจ้งข้อหา “สารวัตรซัว” คนเกี่ยวข้องคดีพัวพันเว็บพนันออนไลน์ได้แน่นอน เตรียมเรียกบุคคลสอบปากคำ หาความเชื่อมโยง เส้นทางการเงิน ระบุไม่ได้ทำงานล่าช้า รวบรวมหลักฐานให้แน่นหนาที่สุด ไม่ทำงานลวกๆ ระดมนักสืบฝีมือดีทำงานหามรุ่งหามค่ำ
กรณี 'สารวัตรซัว' คดีพนันออนไลน์ ที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) เมื่อเวลา 11.00 น. “บิ๊กก้อง” พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. กล่าวถึงความคืบหน้าการตรวจสอบเส้นทางการเงินและธุรกิจของเครือข่าย พ.ต.ท.วสวัตติ์ มุครสกุล หรือ “สารวัตรซัว” อดีต สว.ฝ่ายโยธาธิการ 2 กองโยธาธิการ สำนักงานส่งกำลังบำรุง ที่มีส่วนพัวพันกับเว็บไซต์รับพนันว่า ขณะนี้คดีมีความคืบหน้าไปประมาณ 40-50 เปอร์เซ็นต์แล้ว ทั้งเรื่องการตรวจสอบบริษัทนอมีนี และทรัพย์สินที่ยักย้ายถ่ายเท ขอให้ใจเย็นอีกนิดเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมจะแจ้งความคืบหน้าให้ทราบอีกที
พล.ต.ท.จิรภพ ระบุอีกว่า จากการตรวจสอบบริษัทนอมินี 60 บริษัทและบุคคล 150 คน ที่เกี่ยวข้องกับสารวัตรซัวนั้น ทางเจ้าหน้าที่ได้พบข้อมูลและหลักฐานเชื่อมโยงกันมากขึ้นเรื่อยๆ ส่วนจะเชื่อมโยงกับนายพลตามที่เป็นข่าวหรือไม่นั้นขณะนี้ยังตอบไม่ได้ แต่ขอยืนยันว่าหากพบใครเข้าไปเกี่ยวข้องก็จะดำเนินทางกฎหมายอย่างแน่นอน
ผบช.ก. เปิดเผยอีกว่า ขั้นตอนต่อไปจะเรียกตัวบุคคลมาสอบปากคำหาความเชื่อมโยงของเส้นทางการเงิน ซึ่งรับประกันว่ามีอะไรดีๆ แน่นอน ขอยืนยันว่าคดีนี้ไม่ได้หนักใจหรือติดขัดอะไรแต่อย่างใด เราทำงานกันเต็มที่ทุกวัน ซึ่งบางคนอาจมองว่าล่าช้านั้นขอบอกว่าทางเรา พยายามรวบรวมพยานหลักฐานให้แน่นหนาที่สุด ไม่ทำงานแบบลวกๆ ขอไปที
"เชื่อว่าคดีนี้ไปถึงขั้นตอนการแจ้งข้อหากับ สารวัตรซัว ได้แน่นอน ทั้งนี้หากเจ้าตัวไม่มารับทราบข้อกล่าวหาก็จะออกหมายจับ และหากหนีออกนอกประเทศก็จะประสานขอตัวส่งเป็นผู้ร้ายข้ามแดนและจะตามล่าตัวไปเรื่อยๆ คดีนี้ทางคณะทำงานได้ทำงานกันหามรุ่งหามค่ำทุกวัน ระดมสมองนักสืบฝีมือดีมาช่วยกัน ซึ่งคดีก็คืบหน้าไปทุกวัน ยืนยันว่าสามารถแจ้งข้อหากับ สารวัตรซัว และผู้เกี่ยวข้องได้แน่นอน" ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ผบช.ก. กล่าว