ตรวจสอบ 'บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ' รายเก่า ใช้ได้ถึงวันไหน ได้สิทธิสวัสดิการอะไรบ้าง ?

ตรวจสอบ 'บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ' รายเก่า ใช้ได้ถึงวันไหน ได้สิทธิสวัสดิการอะไรบ้าง ?

ตรวจสอบ "บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ" รายเก่า ใช้ได้ถึงวันไหน ได้สิทธิสวัสดิการอะไรบ้าง ? ส่วนผู้ที่ยืนยันตัวตนสำเร็จแล้ว เริ่มใช้สิทธิด้วยบัตรประชาชน 1 เม.ย. 66

ความคืบหน้าการยืนยันตัวตนของผู้ที่ผ่านเกณฑ์การพิจารณาคุณสมบัติ (ผู้ผ่านเกณฑ์) ตามโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐปี 2565 หรือ "บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ" โดยนายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ผู้ผ่านเกณฑ์ดำเนินการยืนยันตัวตนภายในวันที่ 1 – 26 มีนาคม 2566 และตรวจสอบพบว่า ผ่านการยืนยันตัวตน (e-KYC) จะสามารถใช้สิทธิสวัสดิการผ่านบัตรประจำตัวประชาชนได้ ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2566 

แต่หากผู้ผ่านการพิจารณาคุณสมบัติยืนยันตัวตนหลังวันที่ 26 มีนาคม 2566 จะได้ใช้สิทธิสวัสดิการแห่งรัฐได้ตามวันที่กระทรวงการคลังกำหนด

"บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ" รายเก่า ใช้ได้ถึงวันไหน ?

สำหรับ ผู้ได้รับสิทธิสวัสดิการแห่งรัฐปัจจุบัน จะสามารถใช้สิทธิสวัสดิการแห่งรัฐผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐได้จนถึงวันที่ 31 มีนาคม 2566 เท่านั้น

ตรวจสอบ \'บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ\' รายเก่า ใช้ได้ถึงวันไหน ได้สิทธิสวัสดิการอะไรบ้าง ?

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :

ทั้งนี้ ผู้ได้รับสิทธิสวัสดิการแห่งรัฐจะได้สิทธิซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคจากร้านธงฟ้า จำนวน 300 บาท/คน/เดือน และนำไปใช้จ่ายอื่นๆ ได้แก่ ส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้ม ค่าเดินทางระบบขนส่งสาธารณะ ค่าไฟฟ้า และค่าน้ำประปา

สำหรับมาตรการ "ลดค่าน้ำ-ค่าไฟ" ให้ผู้ถือ "บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ" ดังนี้

ลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิ ค่าไฟฟ้า และค่าน้ำประปาได้ตั้งแต่วันที่ 15 มีนาคม 2566 เป็นต้นไป กับหน่วยงานผู้ให้บริการที่ผู้มีบัตรรับบริการอยู่

ลงทะเบียนรับสิทธิลด "ค่าไฟฟ้า"

1. การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) หรือผ่านเว็บไซต์ https://meagate1.mea.or.th/welfareregis คลิกที่นี่ เบอร์ติดต่อ 1130

2. การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) หรือผ่านเว็บไซต์ https://welfareregis.pea.co.th คลิกที่นี่ เบอร์ติดต่อ 1129  

3. กิจการไฟฟ้า สวัสดิการสัมปทานกองทัพเรือ (กทร.) หรือผ่านเว็บไซต์ https://walfareregis.sea.co.th คลิกที่นี่ เบอร์ติดต่อ 086-848-1284 

ลงทะเบียนลด "ค่าน้ำ"

โดยหากลงทะเบียนรับสิทธิค่าไฟฟ้ากับ กฟน. หรือ กฟภ. สำเร็จภายในวันที่ 8 เมษายน 2566 เวลา 17.00 น. หรือลงทะเบียนกับ กทร. สำเร็จภายในวันที่ 20 เมษายน 2566 เวลา 17.00 น. หรือลงทะเบียนรับสิทธิค่าน้ำประปา กับ กปน. หรือ กปภ. สำเร็จภายในวันที่ 25 มีนาคม 2566 เวลา 17.00 น. จะได้รับสิทธิเดือนแรก คือ “ใบแจ้งหนี้ค่าบริการเดือนเมษายน 2566”

 

  • ผู้ที่ลงทะเบียนภายหลังวัน และเวลาดังกล่าว 

เมื่อลงทะเบียนรับสิทธิค่าไฟฟ้ากับ กฟน. หรือ กฟภ. สำเร็จภายในวันที่ 8 เวลา 17.00 น. ของแต่ละเดือน หรือลงทะเบียนกับ กทร. สำเร็จภายในวันที่ 20 เวลา17.00 น. ของแต่ละเดือน และ/หรือลงทะเบียนรับสิทธิค่าน้ำประปากับ กปน. หรือ กปภ. สำเร็จภายในวันที่ 25 เวลา 17.00 น. ของแต่ละเดือน จะสามารถได้รับสิทธิสำหรับใบแจ้งหนี้ค่าบริการในเดือนถัดไป (ไม่ได้รับสิทธิย้อนหลัง)

  • ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (รายเก่า)

สำหรับผู้ที่ใช้สิทธิตามมาตรการ "ลดค่าน้ำ-ค่าไฟ" ให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ภายใต้โครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2560 และปี 2561 (รายเก่า) จะสามารถใช้สิทธิในรอบใบแจ้งหนี้ค่าบริการเดือนมีนาคม 2566 เป็นเดือนสุดท้าย โดยสามารถนำใบแจ้งหนี้ค่าบริการที่ค้างชำระในช่วงที่ได้รับสิทธิตามมาตรการบรรเทาฯ ไปชำระเพื่อขอรับเงินสนับสนุนได้จนถึงวันที่ 30 เมษายน 2566 

  • ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2565 (รายใหม่)

ผู้ที่ผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2565 สามารถเข้าร่วมมาตรการบรรเทาฯ ได้ทุกคน แต่ต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขสวัสดิการของมาตรการบรรเทาฯ ที่กำหนดการให้สวัสดิการแบบ 1 ครัวเรือนต่อ 1 สิทธิต่อ 1 รหัสประจำบ้าน ซึ่งสามารถลงทะเบียนรับสิทธิค่าไฟฟ้าได้เพียงผู้ให้บริการ 1 หน่วยงาน เช่นเดียวกันกับค่าน้ำประปาที่สามารถลงทะเบียนรับสิทธิค่าบริการได้เพียงผู้ให้บริการ 1 หน่วยงาน 

ทั้งนี้ ประชาชนสามารถติดตามข้อมูลข่าวสารและรายละเอียดโครงการฯ เพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ https:// บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ.mof.go.th (คลิกที่นี่

สำนักงานปลัดกระทรวงการคลัง โทร. 09 4858 9794 (เวลาทำการ 08.30 – 16.30 น.)

สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง โทร. 02 273 9020 ต่อ 3502 3503 3506 3536 3542 3518 หรือ โทร. 08 5842 7102 , 08 5842 7103, 08 5842 7104 ,08 5842 7105, 08 5842 7106, 08 5842 7107 08 5842 7109 (เวลาทำการ 08.30 – 16.30 น.)

ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โทร. 02 109 2345 (เวลาทำการ 08.30 – 17.30 น.)