เครียด! 'แอม' เมียรองผกก.ราชบุรี ข้อมูลเหยื่อ 10 ศพ รอด 1 คดีฆาตกรรมต่อเนื่อง

คดีสะเทือนขวัญ 'แอม' เมียรองผกก.ราชบุรี เครียดยังไม่ยอมรับ เปิดข้อมูลเหยื่อ 10 ศพ รอด 1 คดีฆาตกรรมต่อเนื่อง วางยาไซยาไนด์ สะเทือนใจชวนไปทำบุญแล้วฆ่าตาย

อัปเดตคดีดัง สะเทือนขวัญทั้งประเทศ กรณี ตำรวจจับกุมนางสรารัตน์ รังสิวุฒาพรณ์ หรือที่เรียกติดปากตอนนี้ว่า แอม เมียรองผกก.ราชบุรี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา วานนี้

ภายหลังการจับกุม แอม สรารัตน์ รังสิวุฒาพรณ์ ในข้อหา “ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน” พร้อมของกลาง ขวดไซยาไนด์ ซึ่งเป็นหลักฐานสำคัญ

หาม“แอม”ส่งรพ.กลางดึก ตร.กลัวจะช็อคคาห้องขังกองปราบ

วันที่ 26 เม.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากมีการนำตัวนางสรารัตน์ รังสิวุฒาพรณ์ หรือ แอม ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ข้อหา “ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน “ มาที่กองบังคับการปราบปราม เพื่อทำการสอบปากคำต่อ จนกระทั่งเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา

มีรายงานว่า พนักงานสอบสวน ของ กก.5 บก.ป. เริ่มสังเกตุเห็นอาการของนางสรารัตน์ที่มีอาการไม่ค่อยจะสู้ดีนัก หลังจากถูกควบคุมตัวกลับมาสอบสวนดำเนินคดี ประกอบกับตัวผู้ต้องหานั้นมีปัญหาความดันโลหิตสูง โดยเมื่อช่วงหัวค่ำ น.ส.ธันย์นิชา เอกสุวรรณวัฒน์ ทนายความของผู้ต้องหา ที่เข้ามาร่วมฟังการสอบสวนยังระบุด้วยว่า ความดันของนางสรารัตน์ ขึ้นไปสูงถึง 170-220 ต้องมีการวัดความดันอยู่ตลอดเวลา

จึงตัดสินใจเรียกเจ้าหน้ากู้ชีพจากศูนย์เอราวัณ เข้ามาตรวจสอบอาการอย่างเร่งด่วน ผลการตรวจค่อนข้างจะน่าวิตก เจ้าหน้าที่สิบเวรจึงรีบรายงานผู้บังคับบัญชา เพื่อตัดสินใจส่งตัวผู้ต้องหาเข้าไปรับการดูแลที่โรงพยาบาลตำรวจทันที

นางสาว ธันย์นิชา เอกสุวรรณวัฒน์ ทนายความ ของน.ส.แอม เปิดเผยกับทีมข่าวหลังจากตำรวจที่นำตัวผู้ต้องหามาทำการสอบสวนที่กองบังคับการปราบปราม หรือ กองปราบ ว่า หลังจากที่นำตัวมาที่กองบังคับการปราบปรามกว่า 6 ชั่วโมงแล้ว จนถึงเวลา 21.00 น. ยังไม่มีการเริ่มบันทึกถ้อยคำ หรือ สอบปากคำ โดยบอกว่ากำลังรอขั้นตอนต่างๆ ของตำรวจอยู่

ยืนยันว่า นางสาวแอม ยังคงให้การปฏิเสธ คือปฏิเสธตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ว่าไม่ได้ทำตามที่ถูกกล่าวหา แต่ยอมรับว่าเป็นคนอยู่กับผู้ตายเป็นคนสุดท้ายจริง

โดยลูกความไม่ได้มีการหลบหนีแต่อย่างใด หากครบกำหนด 48 ชั่วโมง ก็จะมีการนำตัวไปส่งที่ศาล ซึ่งขั้นตอนต่อไป ก็จะเป็นการยื่นประกันตัว หรือประกันตัวชั่วคราว ตามขั้นตอน ตรงนี้ก็ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของศาล

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ทั้งนี้ทีมทนายความไม่ได้มีความกังวลในรูปคดี ตอนนี้ได้รวบรวมพยานหลักฐานเตรียมสู้คดีไว้เรียบร้อยแล้ว

พร้อมทั้งยืนยันว่า นางสาวแอมไม่ได้เป็นเท้าแชร์ และไม่ได้มีความขัดแย้งส่วนตัวกับผู้เสียหาย โดยเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาทางทีมทนายความได้มีการลงพื้นที่จุดริมแม่น้ำที่ผู้ตายได้ลงไปปล่อยปลาทำบุญ

ยอมรับว่า น.ส.แอม ค่อนข้างเครียด ความดันขึ้น 170-220 ซึ่งได้มีการวัดความดันอยู่ตลอดเวลา เนื่องจากเธอกำลังตั้งครรภ์ พร้อมขอบคุณตำรวจกองปราบปรามที่ดูแล และอำนวยความสะดวกเป็นอย่างดี

ข้อมูลเหยื่อ 10 ศพ รอด 1 พัน 'แอม' เมียรองผกก. คดีฆ่าต่อเนื่อง

รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับรายชื่อผู้เสียชีวิตทั้ง 10 ราย ที่เชื่อว่าน่าจะมีสาเหตุมาจากการกระทำของ นางสรารัตน์ รังสิวุฒาพรณ์ หรือ แอม ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 1285/2566 ลงวันที่ 25 เม.ย. 2566 ข้อหา “ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน” ดังนี้

1.น.ส.ดาริณี เทพหวี หรือ ฟ้า อายุ 34 ปี เสียชีวิตด้วยสาเหตุกล้ามเนื้อหัวใจผิดปกติ เมื่อวันที่ 13 ธ.ค. 2563 ที่ บ้านเลขที่ 11/1 ม.1 ต.ไร่ขิง อ.สามพราน จ.นครปฐม มีทรัพย์สินสูญหาย 60,000 บาท

2. นายสุรัตน์ ทรพับ อายุ 35 ปี เสียชีวิตด้วยสาเหตุหลอดเลือดหัวใจตีบ เมื่อวันที่ 6 ม.ค. 2564 ที่บ้านพักเลขที่ 24 ม.7 ต.ท่าไม้ อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี ช่วงเสียชีวิตพบเงินจากบัญชีธนาคารของผู้ตายโอนเข้าบัญชีธนาคาร นางสรารัตน์ ผู้ต้องหา จำนวน 60,000 บาท

3.ร.ต.อ. หญิงกานดา โตไร่ อายุ 36 ปี เสียชีวิตด้วยสาเหตุระบบไหลเวียนโลหิตและการหายใจล้มเหลว เมื่อวันที่ 10 ส.ค. 2565 ที่บริเวณหน้าห้างโกลบอล จังหวัดนครปฐม

4. นางจันทร์รัตน์ วงศ์ไกรสิณ เสียชีวิต เมื่อวันที่ 15 ส.ค.2565 ที่ บ้านพักในพื้นที่ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี

5.น.ส.กะณิกา ตุลาเดชารักษ์ อายุ 44 ปี สาเหตุการตายเลือดออกในสมอง เมื่อวันที่ 12 ก.ย. 2565 ที่ปั๊ม ปตท. บริเวณวงเวียน โพธาราม จ.ราชบุรี ช่วงเสียชีวิตพบเงินในบัญชีธนาคารของผู้ตายถูกถอนออกไปจำนวน 300,000 บาท พร้อมโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง สร้อยคอและสร้อยข้อมือทองคำสูญหายไปอีกอย่างละเส้น

6.นายสุทธิศักดิ์ พูนขวัญ หรือ แด้ อายุ 35 ปี เสียชีวิตด้วยสาเหตุ หัวใจเต้นผิดจังหวะ เมื่อวันที่ 12 มี.ค.2566

ที่ บ้านพักในพื้นที่ ต.สามพร้าว อ.เมือง จ.อุดรธานี ซึ่งทรัพย์สินที่สูญหายประกอบด้วย สร้อยคอทองคำและสร้อยข้อมือทองคำน้ำหนักรวม 8 บาท พระเครื่องมูลค่า 100,000 บาท พร้อมเงินสดอีกจำนวนหนึ่ง

7. พ.ต.ต.หญิง นิภา แสนจันทร์ อายุ 38 ปี สาเหตุการตาย ระบบไหลเวียนโลหิตและการหายใจล้มเหลว เมื่อวันที่ 1 เม.ย.2566 ที่ บ้านเลขที่ 196 ถ.เทศา ต.พระปฐมเจดีย์ อ.เมือง จ.นครปฐม โดยทรัพย์สินที่สูญหายประกอบด้วย เงินสด 10,000 บาท และเงินจากบัญชีธนาคารที่ถูกถอนออกไปจำนวน 140,000 บาท

8. น.ส.ศิริพร ขันวงษ์ อายุ 33 ปี เสียชีวิตด้วยสาเหตุหัวใจล้มเหลว เมื่อวันที่ 14 เม.ย. 2566 ที่ ท่าน้ำบ้านโป่ง ต.บ้านโป่ง อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี โดยมีทรัพย์สินสูญหายเป็นกระเป๋าแบรนด์เนม 1 ใบ โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง และ เงินสด 50,000 บาท

ส่วนผู้เสียชีวิตคนที่ 9 และ 10 คือ คุณน้อยผัก และ ครูอ๊อด กลุ่มวงแชร์ ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อมูลที่แน่ชัด

ข่าวดังวันนี้

นอกจากนี้ ยังมีผู้รอดชีวิต คือ นางกานติมา แพสอาด อายุ 36 ปี มีอาการแน่นหน้าอก หายใจไม่ออก มือชา หลังรับประทานยาที่ได้รับจาก นางสรารัตน์ ขณะกำลังเดินเล่นอยู่ที่ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน กาญจนบุรี แต่เคราะห์ยังดีมีผู้ให้การข่วยเหลือได้ทัน ทั้งนี้จากการตรวจสอบพบว่า นางสรารัตน์ติดหนี้นางกานติมา เป็นเงินจำนวน 250,000 บาท

$เครียด! \'แอม\' เมียรองผกก.ราชบุรี ข้อมูลเหยื่อ 10 ศพ รอด 1 คดีฆาตกรรมต่อเนื่อง$

พิรุธ "แอม" รับผลประโยชน์ผู้เสียชีวิต

จากกรณีการเสียชีวิตของ น.ส.ก้อย ที่มีสาเหตุมาจากการเป็นลม และหัวใจวายเฉียบพลัน จนนำไปสู่ข้อพิรุธของการเสียชีวิต ว่าอาจจะเป็นการฆาตกรรม เมื่อข่าวแพร่กระจายออกไป กับพบว่า มีผู้ที่เสียชีวิตในลักษณะเดียวหลายราย และทุกรายมีความเกี่ยวข้องกับ น.ส.แอม เพราะทุกคนก่อนจะเสียชีวิตมีการไปพบปะ และอยู่กับ น.ส.แอม ด้วย

ล่าสุดทีมข่าวได้โทรสอบถามแม่ของ อดีตชายคนสนิท น.ส.แอม เปิดเผยว่า ลูกชายเสียชีวิต ตั้งแต่วันที่ 12 มีนาคม ที่ผ่านมา แม่ติดใจการเสียชีวิตของลูกชาย แต่ตอนนั้นที่ลูกเสียชีวิต ไม่ได้มีการตรวจละเอียด เพราะเกรงใจแอม ซึ่งเป็นเมีย และกำลังท้องลูกของลูกชายอยู่ ตามที่เขาอ้าง

ยอมรับว่าลูกชายรัก ผู้หญิงคนนี้มาก ยิ่ง น.ส.แอม ท้อง ก็ยิ่งรักมาก และอยากลงหลักปักฐานกับผู้หญิงคนนี้ มีทรัพย์สิน ก็ลงชื่อผู้หญิงคนนี้รับผลประโยชน์

ซึ่งก่อนที่ลูกชายจะเสียชีวิต ตนรู้มาว่า ทั้งคู่ทะเลากันจนกระทั่ง วันที่ 12 มีนาคม น.ส.แอม โทรมาแจ้งว่า ลูกชายเสียชีวิต และจะนำศพกลับมาทำพิธีที่ จ.ราชบุรี เลย ซึ่งตนมองว่า มันก็ดูเร่งรัดเกินไป แต่พอศพลูกชายมาถึง ก็ทำพิธีกรรมตามปกติ แอม ก็ไม่ได้เร่งรัดให้เผาหรือว่าอะไร ซึ่งมีการสวด 3 คืน ก่อนเผา แต่ตอนนั้นก็มีคนกระซิบให้เอาลูกชายไปผ่าตรวจพิสูจน์เหมือนกัน สุดท้ายก็ไม่ได้ทำ เพราะอย่างที่บอกว่า เห็นแก่หลานที่อยู่ในท้องด้วย หลังจากนี้หากตำรวจต้องการข้อมูลอะไร ก็พร้อมจะให้ ทุกอย่าง

ขณะที่ เพื่อนสนิท ของหนึ่งในผู้เสียชีวิต และผู้ตายยังเคยเป็นเพื่อนชายคนสนิทของ น.ส.แอม เปิดเผยว่า เพื่อนตนเอง ชื่อ ด้วง (นามสมมติ) เสียชีวิต เมื่อวันที่ 12 มีนาคม ที่ผ่านมา โดยเพื่อนเป็นคน จ.ราชบุรี อยู่และทำงานมีเพื่อนฝูงอยู่ที่ จ.ราชบุรี แต่ช่วงหลังเพื่อนไปปล่อยเงินกู้ที่ จ.อุดรราชธานี จึงได้อาศัยอยู่ที่นั้น และจะเดินทางกลับมา จ.ราชบุรี เป็นครั้งคราว

สำหรับ น.ส.แอม กลุ่มเพื่อนๆ ไม่ได้รู้จักกันมากนัก และไม่รู้ว่าไปเจอกันได้อย่างไร รู้อีกทีคือคบหากันแล้ว ซึ่งคาดว่า จะคบกันในช่วง กันยายน หรือตุลาคม ปี 65 ซึ่งทุกครั้งที่ผู้ตายกลับมาบ้านที่ อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี น.ส.แอม ก็จะเดินทางมาหาที่บ้านพักเกือบทุกครั้ง หรือบางครั้ง ก็วีดีโอคอลมาหาเพื่อนด้วย ซึ่งทุกครั้งก่อนที่จะวางสาย แอม ก็จะบอกให้เพื่อนตนโอนเงินให้ด้วยนะ

จนกระทั่งประมาณวันที่ 10 มีนาคมที่ผ่านมา ตอนนั้นเพื่อนตนอยู่ที่จ.อุดรฯ และเนื่องจากวันที่ 12 มีนาคม เป็นวันเกิดของ น.ส.แอม เพื่อนตนจึงบอกว่าให้แอม ขึ้นไปที่ จ.อุดรฯ เพื่อที่จะจัดงานวันเกิดให้ จากนั้น น.ส.แอม ได้บินไปที่อุดรฯ เพื่อให้เพื่อนตนจัดงานวันเกิด โดยช่วงเช้าวันที่ 12 มีนาคม เพื่อนตนยังบอกกับลูกน้องว่า ตื่น และพา น.ส.แอมไปใส่บาตรทำบุญวันเกิด

พอถึงช่วงบ่ายวันเดียวกัน ทางครอบครัวได้รับแจ้งว่า เพื่อนตนนอนเสียชีวิตในห้องพัก ซึ่งเมื่อสอบถาม น.ส.แอม อ้างว่าไม่รู้เรื่อง เพราะตอนช่วงสายผู้ตายก็นอนพัก ส่วนตัวเองลุกไปซักผ้า จนเวลาประมาณ 13.00น. ก็พบว่าเสียชีวิตแล้ว ซึ่งหลังจากนั้น คนที่ดำเนินการเรื่องศพของเพื่อนก็เป็น น.ส.แอม ทั้งหมด

โดยเพื่อนตนเสียชีวิตในวันที่ 12 มีนาคม น.ส. แอม ก็รีบทำเรื่องนำศพกลับมาที่ จ.ราชบุรี ทันที พอศพถึง ที่ อ.บ้านโป้ง วันที่ 13 มีนาคม ช่วงประมาณ 05.00 น. หลังจากนั้นก็ได้จัดพิธีกรรมทางศาสนา ซึ่งก่อนที่จะฌาปนกิจศพ ตนได้เปิดโลงดู พบว่าศพเพื่อนตนดำไปทั้งตัว จึงตั้งข้อสงสัยว่า เพื่อนตนอาจจะถูกวางยา

ยืนยันว่าเพื่อนตนแข็งแรงมาก ไม่มีโรคประจำตัว จะเป็นไปได้อย่างไรที่เพื่อนจะเสียชีวิตจากอาการหัวใจวาย จึงให้แม่ และยายของเพื่อนเอาศพไปผ่าพิสูจน์อีกครั้ง แต่ตอนนั้น น.ส.แอม อ้างว่าท้องกับเพื่อนตน ทำให้ญาติๆ ไม่อยากเอาเรื่อง เพราะเห็นแก่หลาน และกลัวว่าแอม จะเสียใจที่ญาติไม่ไว้ใจ จึงไม่ได้มีการตรวจพิสูจน์

นอกจากนี้หลังจากที่เพื่อนของตนตายไปแล้ว น.ส.แอม ยังมีการโพสต์ภาพคลิปงานวันเกิดของตัวเองอยู่เลย ตนเลยมองว่า สามีเสียไปทั้งคน ยังมีอารมณ์มาโพสต์คลิปงานวันเกิดตัวเองอีกหรอ อีกทั้งหลังจากที่เพื่อนตายไป พวกกลุ่มเพื่อนได้เข้าไปในบ้านผู้ตายที่ จ.ราชบุรี ยังพบเอกสารการตรวจพิสูจน์การเสียชีวิต พร้อมทั้งขวดยาชนิดหนึ่ง(ไซยาไนด์) จึงได้เก็บรวบรวมทุกอย่างส่งให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจไปแล้ว

ตอนแรกก็สงสัยว่าเพื่อนถูกวางยา แต่พอมีข่าว น.ส.ก้อย ออกมาทำให้ตอนนี้ญาติๆ และเพื่อนๆ เริ่มมองไปในทางเดียวกันว่า การเสียชีวิตของเพื่อน อาจจะเกิดจากการฆาตกรรม

สำหรับสาเหตุที่ตนมองว่า อาจจะเป็นประเด็นหลักๆ ที่ทำให้เพื่อนถูกสังหารครั้งนี้ คือ

ประเด็นที่ 1.เรื่องเงิน และทรัพย์สิน เพราะเพื่อนคนปล่อยเงินกู้ มีเงิน มีทองเต็มไปหมด ซึ่งหลังจากเพื่อนเสียชีวิต น.ส.แอม ก็มาพูดคุยกับญาติว่า ผู้ตายมีทรัพย์สมบัติ นั้น นู้น นี้ และทำให้ญาติเห็นใจ ยกทรัพย์สินให้ เพราะเห็นกับหลานในท้อง

ประเด็นที่ 2 คือ เรื่องที่ น.ส.แอม ท้อง ซึ่งอ้างว่า ท้องกับเพื่อนตน ทั้งที่ระหว่างที่แอมมาหลับนอนกับเพื่อนตน หรือไปมาหาสู่ จะมาช่วงกลางวัน ส่วนช่วงกลางคืนก็กลับบ้าน อ้างว่าต้องไปดูคนที่บ้าน ซึ่งตนก็ไม่สามารถรู้ได้ว่า คนที่บ้านนี้หมายถึงญาติผู้ใหญ่ หรือสามีอีกคนหรือไม่ จะเป็นไปได้ หรือไม่ว่า น.ส.แอม ก่อเหตุแบบนี้กับเพื่อนตนเพื่อกำจัด หรือปิดปากเรื่องที่ท้อง และจะได้ไปอ้างกับ สามีตำรวจว่า ท้องลูกของตำรวจคนนั้น หรือไม่ อย่างไรก็ตามเพื่อนๆ ยังจะติดตามข่าวนี้ และจะให้ความร่วมมือเต็มที่ เพื่อลากคนผิดมาดำเนินคดี

เร่งพิสูจน์การตายเหยื่อรายอื่น เข้าข่ายฆาตกรต่อเนื่อง

พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) เปิดเผยว่า เบื้องต้นพบว่ามีเหยื่ออย่างน้อย 7-9 รายที่เดินทางไปกับตัวผู้ต้องหาแล้วเสียชีวิตขณะที่อยู่ด้วยกัน หรือเสียชีวิตหลังจากหมดสติและนำส่งโรงพยาบาล ขณะนี้กำลังอยู่ในขั้นตอนของการพิสูจน์ทราบการตายของผู้เสียชีวิตแต่ละราย

“อย่างไรก็ตาม ในจำนวนนี้มีตำรวจหญิงเสียชีวิตด้วย 2 นาย หนึ่งในนั้นเป็นนายตำรวจระดับสารวัตรผู้ใต้บังคับบัญชาของตนสังกัดฝ่ายอำนวยการ บช.ก. ด้วย ซึ่งหลังการตายมีทรัพย์สินหายไปราว 1.4 แสนบาท ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการสอบสวนเช่นเดียวกันว่าเสียชีวิตจากฝีมือผู้ต้องหาด้วยหรือไม่ ส่วนสามีที่เป็นตำรวจของผู้ต้องหาจะรู้เห็นกับการกระทำผิดของภรรยาหรือไม่นั้น ขณะนี้ยังสอบสวนไม่พบ”

ด้าน พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผู้บังคับการกองปราบปราม (ผบก.ป.) ผู้การกองปราบ กล่าวว่า ขณะนี้รู้ชื่อบุคคลที่เสียชีวิตที่กำลังพิสูจน์ทราบครบแล้ว ขั้นตอนต่อจากนี้ได้ให้ชุดสืบสวนสอบสวนประสานงานกับกองพิสูจน์หลักฐานกลาง และโรงพยาบาลตำรวจ ในการแสวงหาหลักฐานต่างๆเพื่อพิสูจน์ความเชื่อมโยง หากพบว่าเกี่ยวข้องกับการฆาตกรรมรายอื่นๆด้วยก็จะดำเนินคดีเพิ่มเติม อย่างไรก็ตามกำลังจะแจ้งข้อหาอื่นๆกับผู้ต้องหาเพิ่มเติมด้วย เช่น ข้อหาชิงทรัพย์ เป็นต้น เพราะการกระทำประสงค์ต่อทรัพย์ของผู้ตาย

“ผู้ต้องหารายนี้เป็นฆาตกรที่หวังทรัพย์สินของผู้ตาย หากพบว่าเกี่ยวข้องกับการตายของรายอื่นๆด้วย ก็ถือว่าเป็นฆาตกรต่อเนื่องด้วย” พล.ต.ต.มนตรี กล่าว

ข้อมูลยาพิษ 'ไซยาไนด์'

'ไซยาไนด์' หรือ Cyanide สารเคมีอันตรายที่ออกฤทธิ์ได้อย่างรวดเร็ว เมื่อเข้าสู่ร่างกายอาจเข้าไปยับยั้งการทำงานของเซลล์จนอาจเป็นอันตรายถึงชีวิต เป็นสารเคมีที่มีพันธะคาร์บอนไนโตรเจน มักนำมาใช้ในอุตสาหกรรมการผลิตกระดาษ สิ่งทอ และพลาสติก สามารถปนเปื้อนได้ทั้งในอากาศ ดิน น้ำ และอาหาร

ไซยาไนด์ สามารถเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ โดยพบในพืชบางชนิด อย่างอัลมอนด์ แอปเปิ้ล และยังเกิดได้จากกระบวนการเผาผลาญภายในร่างกายมนุษย์ อย่างไรก็ตามไซยาไนด์ปริมาณเพียงเล็กน้อยที่พบในพืชและกระบวนการเผาผลาญนั้นไม่เป็นอันตรายต่อสิ่งมีชีวิต

ไซยาไนด์รูปแบบอันตรายต่อชีวิต สารเคมีอันตรายชนิดนี้มีรูปแบบที่หลากหลายทั้งในรูปแบบของแข็ง ของเหลว และแก๊ส โดยแต่ละชนิดมีแหล่งที่มาและคุณสมบัติที่แตกต่างกันไป