'บิ๊กโจ๊ก' ถกเครียดคดี 'แอม ไซยาไนด์' จ่อเรียก รอง ผกก. อดีตสามีมาสอบเพิ่ม
'บิ๊กโจ๊ก' เรียกถกคดี 'แอม ไซยาไนด์' จ่อเรียก 'รอง ผกก.' อดีตสามีแอมสอบเพิ่ม เผย 'กอล์ฟ' คนสนิทแด้ให้การเป็นประโยชน์
ความคืบหน้ากรณี น.ส.สรารัตน์ หรือ 'แอม' ผู้ต้องหาในคดีการเสียชีวิตของ น.ส.ศิริพร หรือ 'ก้อย' ต่อมาได้มีการขยายผลพบว่ามีผู้เสียชีวิตในลักษณะเดียวกันมากถึง 13 ราย และมีผู้รอดชีวิต 1 รายนั้น ซึ่งในวันนี้(28 เมษายน 2566) พล.ต.ต.นำเกียรติ ธีระโรจนพงษ์ ผู้บังคับการศูนย์ฝึกอบรม กองบัญชาการตำรวจนครบาล ในฐานะหัวหน้ารวบรวมสำนวนคดี และ พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รองผู้บังคับการปราบปราม ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ภายหลังจากที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. เรียกประชุมทีมสืบสวนสอบสวนในคดี 'แอม ไซยาไนด์' ผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ โดยใช้เวลาการประชุมนานกว่า 5 ชั่วโมง
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง :
พล.ต.ต.นำเกียรติ กล่าวว่า การประชุมในวันนี้เป็นเรื่องของการนำข้อมูลในแต่ละท้องที่เกิดเหตุเข้ามาแลกเปลี่ยนกัน เพื่อใช้ในการสืบสวนสอบสวน ล่าสุดเหยื่อในคดีตามข้อมูลในสำนวนตอนนี้ยังคงอยู่ที่ 13 ศพ และรอดชีวิต 1 ราย โดยกองปราบยังคงทำคดี 'ก้อย' เพียงคดีเดียว ส่วนคดีอื่นๆขึ้นอยู่กับแต่ละพื้นที่ ส่วนกระแสข่าวเรื่องการออกหมายจับเพิ่มในวันนี้ ยืนยันว่ายังไม่มี เพราะคดีที่ออกหมายจับเพิ่มล่าสุดคือคดีของสารวัตรปู ในพื้นที่ สภ.เมืองนครปฐม
ในส่วนของการสอบปากคำ รอง ผกก.(สอบสวน) อดีตสามีแอม เป็นสิทธิที่เขาจะให้การอย่างไรก็ได้ เพราะจะต้องสืบสวนสอบสวนตามกระบวนการอยู่แล้ว รวมทั้งตรวจสอบเส้นทางการเงิน โทรศัพท์ของทั้งสองคนว่ามีความสัมพันธ์ หรือมีความเชื่อมโยงไปถึงบุคคลใดบ้าง หลังจากนี้จะต้องเชิญอดีตสามีแอมกลับมาให้ปากคำอีกครั้ง
พล.ต.ต.นำเกียรติ กล่าวต่ออีกว่า กรณีที่เรียกครอบครัวของ 'หนิม' หนึ่งในผู้เสียชีวิตที่พบว่าเป็นรายล่าสุดมาสอบปากคำ เนื่องจากพบเส้นทางการเงินที่ 'แอม' โอนไปให้ 6 แสนบาท ซึ่งแอมมีหลายบัญชีในการเบิกจ่ายเงิน จึงต้องไปตรวจสอบว่าเชื่อมโยงกับใครหรือไม่
ส่วนประเด็นการตรวจสอบรถเก๋งสีดำของแอม แล้วปรากฏว่าพบไซยาไนด์นั้นต้องรอตรวจสอบให้ชัดเจนอีกครั้ง ส่วนที่มีกระแสข่าวว่าพบกล่องวัสดุที่สั่งซื้อยามาจากต่างประเทศและระบุชื่อชัดเจนนั้นยังไม่พบข้อมูล นอกจากนี้จากการสอบปากคำ 'กอล์ฟ' ลูกน้องคนสนิทที่ไปเก็บเงินกู้กับนายแด้ (ผู้เสียชีวิต) ที่ จ.อุดรธานี โดยเรียกมาสอบในฐานะพยาน เจ้าตัวให้การเป็นประโยชน์ และยังไม่ได้รับสารภาพตามกระแสข่าวแต่อย่างใด
ขณะที่ พ.ต.อ.เอนก รองผู้บังคับการปราบปราม เผยว่า จากการสอบสวนพยานหลักฐานต่างๆ พบผู้เสียชีวิตที่ปรากฏชัดเจนว่า 'แอม' วางไซยาไนด์ 2 ศพ ในพื้นที่ อ.บ้านโป่ง และ อ.เมืองนครปฐม คือ 'น.ส.ก้อย' และ 'สารวัตรปู' โดยผลการตรวจพบไซยาไนด์มีปริมาณเป็นเหตุทำให้ถึงขั้นเสียชีวิตได้ แต่ในปริมาณเท่าไหร่นั้นยังไม่สามารถตอบได้ แต่ทั้งหมดอยู่ในสำนวนแล้ว
ส่วนกรณีที่มีผู้เสียชีวิตและมีการเผาศพไปแล้วนั้น ยืนยันว่าจะหาหลักฐานความผิดอื่นๆ ที่จะเชื่อมโยงเอาผิดกับแอมได้ ซึ่งพยานหลักฐานไม่ได้มีเพียงเรื่องสารพิษในร่างกายศพเพียงปัจจัยเดียว เป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวนที่จะรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อให้ศาลเห็นว่าผู้กระทำผิดนั้นกระทำผิดจริง เมื่อถามว่าปริมาณไซยาไนด์ต้องใช้เท่าไหร่ถึงจะทำให้ผู้ที่กินเข้าไปแล้วเสียชีวิต เรื่องนี้ต้องขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น เรื่องการกินเข้าไปขณะท้องว่าง หรือมีอาหารในกระเพาะซึ่งมีผลต่อการออกฤทธิ์ของยา