คืบหน้าคดี 'แอม ไซยาไนด์' พบรถ 2 คันสวมป้ายทะเบียนปลอม

คืบหน้าคดี 'แอม ไซยาไนด์' พบรถยนต์ 2 คัน 'วีออส-ฟอร์จูนเนอร์' สวมป้ายทะเบียนปลอม ตำรวจค้นบ้านพี่สาวเจ้าตัวยันไม่รู้เห็น

วันที่ 28 เมษายน 2566 ภายหลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการตั้งประเด็น น.ส.สรารัตน์ หรือ 'แอม' ผู้ต้องหาฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ด้วยการใช้สารพิษ 'ไซยาไนด์' และยังเข้าข่ายเชื่อมโยงเป็นคดีฆาตกรรมต่อเนื่อง ว่า เกี่ยวข้องกับธุรกิจจำนำรถยนต์ เนื่องจากในวันที่ถูกจับกุมพบว่ารถยนต์ที่แอมขับมานั้นมีการสวมทะเบียน

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง :

ล่าสุดจากการตรวจสอบทะเบียนรถยนต์โตโยต้า วีออส สีบรอนซ์ ทะเบียน กต 9532 นครปฐม ที่ 'แอมราชบุรี' ใช้ขับไปรับก้อย ก่อนที่ก้อยจะเสียชีวิตจาก 'สารพิษไซยาไนด์' รวมถึงรถยนต์โตโยต้า รุ่นฟอร์จูนเนอร์ ทะเบียน 5กศ 7028 กทม. รถในวันที่แอมถูกจับกุม

ทั้งนี้พบว่าป้ายทะเบียนของรถยนต์ทั้ง 2 คัน ไม่ปรากฏในสารบบข้อมูลของกรมการขนส่งทางบก ดังนั้นการตรวจสอบรถทั้งสองคันดังกล่าว จึงต้องตรวจสอบจากเลขแชสซีส์เพื่อดูการจดทะเบียนว่ารถทั้งสองคันเป็นของใคร เกี่ยวข้องกับรถที่ถูกโจรกรรมมาหรือไม่ รวมทั้งเหตุใดแอมถึงต้องมีการใช้รถสวมป้ายทะเบียนปลอมในชีวิตประจำวันของเธอ

$คืบหน้าคดี \'แอม ไซยาไนด์\' พบรถ 2 คันสวมป้ายทะเบียนปลอม - พี่สาวยันไม่รู้เห็น$

ผู้การฯราชบุรียันพบสารพิษไซยาไนด์ในรถยนต์ของ 'แอม'

หลังจากที่เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) จังหวัดราชบุรี ได้เข้าตรวจสอบหาสารพิษภายในรถเก๋งยี่ห้อ โตโยต้า วีออส สีบรอนเงิน หมายเลขทะเบียน กต 9532 นครปฐม ของน.ส.สรารัตน์ หรือ แอม โดยเบื้องต้น พล.ต.ต.วชิรพงษ์ อมราพิทักษ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดราชบุรีได้ให้ข้อมูลว่า จากการส่งสารที่ตรวจพบจากรถของผู้ต้องหาไปพิสูจน์ให้ห้องปฏิบัติการนิติวิทยาศาสตร์ ม.เกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน โดย อาจารย์วีรชัย พุทธวงศ์ (อาจารย์อ๊อด) อาจารย์ประจำภาควิชาเคมี ม.เกษตรศาสตร์ ผลการตรวจพิสูจน์ยืนยันพบ 'สารไซยาไนด์' ที่บริเวณคอนโซนหน้ารถฝั่งคนขับในรถยนต์ของแอม

ในส่วนของรถยนต์ของแอมนั้น ได้ทำการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่ารถยนต์คันนี้ได้ถูกยกเลิกทะเบียนไปแล้ว จากการสอบสวนทราบว่าผู้ต้องหาได้รถยนต์คันนี้มาจากการซื้อขายผ่านไฟแนนซ์ ในส่วนประเด็นอื่นๆ อยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวนของคณะทำงาน ในส่วนการตั้งข้อหาและการออกหมายจับนั้นในขณะนี้อยู่ระหว่างที่คณะทำงานของตำรวจภูธรจังหวัดราชบุรี ร่วมกับคณะทำงานตำรวจภูธรภาค 7 กำลังเร่งสืบสวนสอบสวนขยายผลอยู่ ในชั้นนี้ขอเป็นเรื่องในสำนวนการสอบสวน

และจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่ปรากฏตามสื่อโซเชียลต่างๆ นั้น ตำรวจภูธรจังหวัดราชบุรีจึงได้มีคำสั่งที่ 260/2566 ลงวันที่ 26 เม.ย.66 เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง เพื่อให้คณะกรรมการฯ ได้รวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ทราบถึงรายละเอียดของแห่งพฤติการณ์ และเพื่อให้คณะกรรมการฯ ได้ทำงานอย่างรวดเร็ว บริสุทธิ์ ยุติธรรม และมีประสิทธิภาพ ตำรวจภูธรจังหวัดราชบุรี จึงได้มีคำสั่งที่ 261/2566 ลงวันที่ 26 เม.ย.66 ให้ พ.ต.ท.วิฑูรย์ รังสิวุฒาพรณ์ รอง ผกก.สส.สภ.บ้านโป่ง ไปปฏิบัติราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรจังหวัดราชบุรี ตั้งแต่วันที่ 26 เม.ย.66 เป็นต้นไป

ตำรวจค้นบ้านพี่สาวแอม ยันบริสุทธิ์-ปฏิเสธไม่รู้เห็น

และหลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำหมายค้นของศาลจังหวัดราชบุรีที่ 326/2566 ลงวันที่ 27 เม.ย.66 เข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 9 หมู่ 1 ต.วังเย็น อ.บางแพ จ.ราชบุรี ซึ่งถูกอ้างว่าเป็นสถานที่ที่ น.ส.ปวีณา ป้องลม ได้มาซื้อยาที่สถานที่ดังกล่าว โดยมี น.ส.พิชญากร หรือ ปู เป็นคนส่งมอบให้ ในการตรวจค้นครั้งนี้มี 1. น.ส.พิชญากร วังป่า 2. นางเบญจา อัคฆกาญจนสุภา เป็นผู้นำตรวจค้น

จากการค้นสถานที่ดังกล่าวพบว่าไม่ใช่ร้านขายยา แต่นางเบญจา อัคฆกาญจนสุภา ได้มีใบประกอบโรคศิลป์นวดแผนไทย และเภสัชกรรมไทย การผดุงครรภ์ไทย และด้านเวชกรรมไทย และใบประกอบวิชาชีพพยาบาล และการผดุงครรภ์โรงพยาบาลมะการักษ์ จังหวัดกาญจนบุรี

ผลการตรวจค้นพบยาชนิดแคปซูล และสมุนไพรที่เป็นผง และที่เป็นไม้เล็กๆ อยู่จำนวนมาก จึงให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน และเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ร่วมกันตรวจเก็บตัวอย่างเพื่อทำการส่งตรวจพิสูจน์ต่อไป ในส่วนคำให้การของพี่สาวทั้ง 2 คนของ 'แอม' ยังยืนยันความบริสุทธิ์ของตนเองว่าไม่รู้เห็นในการกระทำความผิดของน้องสาว ซึ่งเป็นหน้าที่ของคณะทำงานจะได้เร่งทำการสืบสวนสอบหาความจริงต่อไป

เปิดศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์คดีต้องสงสัยฆาตกรรมต่อเนื่อง 'แอม ไซยาไนด์'

ทั้งนี้ ตำรวจภูธรภาค 7 ได้เปิดศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์คดีต้องสงสัย 'ฆาตกรรมต่อเนื่อง' ซึ่งหากประชาชนมีญาติเสียชีวิตเชื่อว่าอาจเกี่ยวเนื่องกับคดีของ น.ส.สรารัตน์ หรือ 'แอม' หรือมีเบาะแสเกี่ยวกับคดี สามารถโทรแจ้งได้ที่ศูนย์ 191 ทุกจังหวัด โดยแจ้งชื่อ ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ และสถานที่ที่ต้องการให้ตำรวจไปพบได้เลย