นิติวิทย์ แจงแนวทาง-มาตรฐาน ชันสูตรศพตายผิดธรรมชาติ หลังเกิดคดีไซยาไนด์

นิติวิทย์ แจงแนวทาง-มาตรฐาน ชันสูตรศพตายผิดธรรมชาติ หลังเกิดคดีไซยาไนด์

นิติวิทย์ แจงแนวทางและมาตรฐานการชันสูตรศพที่เสียชีวิตโดยผิดธรรมชาติ หลังเกิดคดีไซยาไนด์ ย้ำเปิดกว้างให้ญาติผู้เสียชีวิตที่ติดใจสาเหตุการตาย สามารถติดต่อขอรับการตรวจชันสูตรซ้ำได้

เมื่อวันที่ 30 เมษายน 2566 นพ.ไตรยฤทธิ์ เตมหิวงศ์ ผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ มอบหมายให้ โฆษก สนว. แจงแนวทางและมาตรฐานการชันสูตรศพที่เสียชีวิตโดยผิดธรรมชาติ โดยการปฏิบัติงานเป็นไปตามแนวทางการปฏิบัติงานของ ราชวิทยาลัยพยาธิแพทย์แห่งประเทศไทย

โดยจะมีการผ่าศพตรวจโดยละเอียด รวมถึงการส่งตรวจ ชีววัตถุต่าง ๆ เช่น เลือด น้ำวุ้นลูกตา อาหารในกระเพาะอาหาร ปัสสาวะ เพื่อหาสารหรือยาที่อาจจะเป็นสาเหตุของการเสียชีวิต อีกทั้งยังเปิดกว้างให้ญาติผู้เสียชีวิตที่ติดใจสาเหตุการตาย สามารถติดต่อขอรับการตรวจชันสูตรซ้ำได้

โดย นพ.ศราวุฒิ สุจริตธรรม โฆษกสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ (สนว.) กล่าวถึงแนวทางและมาตรฐานการชันสูตรศพของสถาบันนิติวิทยาศาตร์ โดยการชันสูตรพลิกศพจะเริ่มตั้งแต่การตรวจสถานที่เกิดเหตุโดยแพทย์และพนักงานสอบสวนโดยเป็นไปตามกฎหมาย ป วิ อาญา มาตรา 150 ที่ได้กำหนดให้พนักงานสอบสวนแห่งท้องที่ที่ศพนั้นอยู่ กับแพทย์ทางนิติเวชศาสตร์ซึ่งได้รับวุฒิบัตร หรือได้รับหนังสืออนุมัติจากแพทยสภา ทำการชันสูตรพลิกศพโดยเร็ว

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง : 

ป วิ อาญา มาตรา 148 ได้กำหนดให้มีการชันสูตรพลิกศพที่ตายโดยผิดธรรมชาติ อันได้แก่

1.ฆ่าตัวตาย

2.ถูกผู้อื่นทำให้ตาย

3. ถูกสัตว์ทำร้ายตาย

4.ตายโดยอุบัติเหตุ

5.ตายโดยยังมิปรากฏเหตุ และรวมถึงการตายในระหว่างอยู่ในความควบคุมของเจ้าพนักงาน

นพ.ศราวุฒิ กล่าวว่า ปัจจุบันการปฏิบัติงานดังกล่าวข้างต้นของสถาบันนิติวิทยาศาตร์ ได้มีการจัดทำมาตรฐานการชันสูตรศพและได้รับการประกันคุณภาพจากราชวิทยาลัยพยาธิแพทย์แห่งประเทศไทย โดยการตรวจศพได้มีการกระทำโดยแพทย์นิติเวชและเป็นไปตามแนวทางการปฏิบัติงานของราชวิทยาลัยพยาธิแพทย์แห่งประเทศไทย ที่ได้กำกับโดยคณะอนุกรรมการกำหนดมาตรฐานทางนิติเวชศาสตร์ โดยมุ่งเน้นการปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและเป็นไปในแนวทางเดียวกัน

โดยตามแนวทางการปฏิบัติงานได้กำหนดให้แพทย์ต้องแจ้งพนักงานสอบสวนให้ส่งทั้งศพหรือบางส่วนไปชันสูตรเพิ่มเติมในกรณี ดังต่อไปนี้ 

1.ไม่สามารถระบุว่าผู้ตายเป็นใคร และการผ่าศพอาจช่วยในการระบุ

2.ศพที่เป็นโครงกระดูก หรือศพที่ไหม้เกรียม

3.การตายที่เกิดจากหรืออาจเกิดจากถูกผู้อื่นทำให้ตาย

4.การตายที่เกิดขึ้นโดยการกระทำของเจ้าพนักงานซึ่งอ้างว่าปฏิบัติราชการตามหน้าที่

5.การตายผิดธรรมชาติ ในระหว่างอยู่ในความควบคุมของเจ้าพนักงานซึ่งอ้างว่าปฏิบัติราชการตามหน้าที่

6.การตายในเด็กที่ไม่คาดคิดและไม่สามารถอธิบายได้

7.การตายที่เกิดจากสารพิษ

8.การตายที่เกี่ยวข้องกับการจราจร

9.การตายที่เกิดจากการบาดเจ็บจากการทำงาน ไฟฟ้าดูด การจมน้ำโดยไม่มีผู้พบเห็น

10.ไม่สามารถระบุ หรือสันนิษฐานสาเหตุการตายได้

11.มีผู้ใดผู้หนึ่ง สงสัยในสาเหตุการตายหรือพฤติการณ์การตาย หรืออาจมีปัญหาเกี่ยวกับการได้รับผลประโยชน์ของผู้ตาย

โฆษกสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ซึ่งกรณีที่ผู้เสียชีวิตได้รับการชันสูตรพลิกศพในที่เกิดเหตุ และเข้าข่ายในลักษณะดังกล่าวข้างต้น ศพจะได้รับการเคลื่อนย้ายมายังห้องผ่าชันสูตรศพ โดยจะมีการผ่าศพตรวจโดยละเอียด รวมถึงการส่งตรวจ ชีววัตถุต่าง ๆ เช่น เลือด น้ำวุ้นลูกตา อาหารในกระเพาะอาหาร ปัสสาวะ เพื่อหาสารหรือยาที่อาจจะเป็นสาเหตุของการเสียชีวิต ทั้งนี้เป็นไปมาตรฐานการชันสูตรศพ ซึ่งได้การรับรองจากราชวิทยาลัยพยาธิแพทย์

ทั้งนี้ ตาม พรบ.การให้บริการด้านนิติวิทยาศาสตร์ พ.ศ.2559 มาตรา 5(4) ได้เปิดกว้างให้ญาติผู้เสียชีวิตที่ติดใจสาเหตุการตาย สามารถติดต่อขอรับการตรวจชันสูตรซ้ำได้ที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เพื่อสร้างความเชื่อมั่น โปร่งใส อำนวยความยุติธรรม และเป็นไปตามนโยบายของกระทรวงยุติธรรมที่ได้มุ่งเน้นถึงกระบวนการที่ทำให้เกิดความยุติธรรมในสังคม