เตรียมเปิดหลักฐานเพิ่ม บัญชีผู้ตายโยง 'แอม ไซยาไนด์' เคลื่อนไหวนับแสนบาท
“รพี” เตรียมเปิดหลักฐานเพิ่ม บัญชีผู้ตายโยง “แอม ไซยาไนด์” มีการเคลื่อนไหวทางบัญชีหลายแสนบาท ขณะที่ "บิ๊กโจ๊ก" เรียกประชุมใหญ่ดูสำนวนคดีทั้งหมด 2 พ.ค.นี้
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 1 พฤษภาคม 2566 ความคืบหน้าคดี "แอม ยาไซยาไนด์" นายรพี ชำนาญเรือ ผู้ประสานงานเหยื่อในคดีที่เกี่ยวข้องกับ แอม สรารัตน์ หรือ แอม ไซยาไนด์ เปิดเผยว่า วันนี้จะมาถามทางตำรวจเรื่องศพของ น.ส.ศิริพร ขันวงษ์ หรือ "ก้อย ท้าวแชร์" ว่าจะสามารถดำเนินการอะไรได้บ้าง เพื่อจะได้ทำพิธีทางศาสนาเพราะศพยังไม่ได้เผา
นอกจากนี้ ในวันนี้ตนเองจะเดินทางไปรับหลักฐานบัญชีทางการเงิน ที่จังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งเชื่อว่าจะเป็นประโยชน์ต่อรูปคดีที่เชื่อมโยงกับ แอม ไซยาไนด์ โดยหลักฐานดังกล่าว เกี่ยวกับเรื่องของการเงินของผู้เสียชีวิตรายหนึ่ง ที่ขณะนี้ยังมีการเดินบัญชีอยู่และเชื่อมโยงกับแอม ซึ่งคนทำธุรกรรมไม่ใช่ญาติ
"สงสัยว่าคนที่เสียชีวิตไปแล้ว ถ้ายังมีการเดินบัญชีอยู่ แต่ไม่ใช่ลูก ไม่ใช่เมีย จะเป็นใครกัน"
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
นายรพี กล่าวต่อว่า เบื้องต้นพบว่าเจ้าของบัญชีดังกล่าวเสียชีวิตไปแล้ว แต่บัญชียังมีความเคลื่อนไหว วงเงินหลายแสนบาท ทั้งยังพบบุคคลที่ทำธุรกรรมไม่ใช่ญาติพี่น้อง เพื่อจะนำมามอบให้กับพนักงานสอบสวนต่อไป
ส่วนคดีของ น.ส.มณฑาทิพย์ หรือ ทราย เหยื่อรายที่ 15 หลังตำรวจรับเรื่องร้องทุกข์ ที่มารดาเข้าพบพนักงานสอบสวนที่สโมสรตำรวจเมื่อช่วงเช้าวันนี้นั้น นายรพี ระบุว่า อยากให้ไปติดตามหาหลานสาวของนางสาวทราย หลังทราบว่า มีเอกสารบางอย่าง ที่นางแอมลงรายมือไว้ว่าเป็นผู้จัดการมรดก แล้วมีข้อมูลว่าเคยยื่นเอกสารชิ้นนี้ให้กับสามีชาวต่างชาติของนางสาวทราย ซึ่งเรื่องนี้จะเป็นประโยชน์ต่อข้อมูลและพยานหลักฐาน ในข้อเท็จจริงของคดีนี้
ขณะเดียวกันนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ได้เดินทางมามอบกระเช้ารังนก และเงินสดจำนวน 50,000 บาทให้กับนายรพี โดยระบุว่า เป็นเงินที่รวบรวมจากแฟนคลับในชมรมและตนเอง ประสงค์มอบเงิน เป็นกำลังใจให้บุคคลตัวอย่างที่เก่ง กล้า ไม่เพิกเฉยต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะหากไม่มีนายรพีก็ไม่รู้ว่านางแอมไปฆ่าคนอีกจำนวนเท่าไร โดยเงินจำนวน 50,000 บาท ต้องให้เป็นค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ส่วนกระเช้า รังนก เพื่อบำรุงร่างกายในการต่อสู้คดี
ขณะที่ นายรพี ปฏิเสธไม่ขอรับเงินเนื่องจากกังวลว่าจะผิดอุดมการ ที่เคยประกาศตัวว่าจะอุทิศตัวช่วยเหลือสังคมที่ไม่ได้รับความถูกต้อง การช่วยเหลือสังคมในวันนี้ตนเองไม่ใช่ฮีโร่แต่อยากทำความจริงให้ปรากฏเพื่อให้ความเป็นธรรมเกิดขึ้นในสังคมไทย หลังจากนั้นนายระพีได้ยกมือไหว้กราบแนบอก ก่อนบอกกับนายอัจฉริยะว่าผมไม่ได้หยิ่งแต่ไม่อยากผิดอุดมการณ์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันพรุ่งนี้ (2 พ.ค.) พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบ.ตร. จะเรียกประชุมทีมคลี่คลายคดี เพื่อสรุปคดี "แอม ไซยาไนด์" ทั้งหมดอีกครั้ง หลังจากที่มีการมอบหมายงานให้ตำรวจในแต่ละท้องที่ไปรวบรวมข้อเท็จจริง พร้อมกับรับเรื่องเพิ่มเติมว่าจะมีผู้เสียหายรายอื่นๆเพิ่มด้วยหรือไม่ ซึ่งจะถือเป็นการประชุมใหญ่ครั้งที่ 2 ของคดี