จับโจรแสบขโมยเงินผ้าป่าวันวิสาขบูชา 2 วัดดังกลางเมืองน่าน

เมื่อเวลา 18.00 น.วันที่ 3 มิถุนายน 2566 เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สถานีตำรวจภูธรเมืองน่าน นำกำลังเข้าจับกุมนายโจ้ (นามสมมุติ) อายุ 32 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดน่านในข้อหาลักทรัพย์ในเวลากลางคืน หลังจากเมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2566 เวลาประมาณ 21.00 น. ทางวัดมิ่งเมือง ได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า มีขโมยเข้ามาขโมยเงินที่ตั้งเป็นกองผ้าป่าในวันวิสาขบูชาแล้วหลบหนีไป

เจ้าหน้าจึงทำการตรวจสอบกล้องวงจรปิด พบว่า นายโจ้ ซึ่งเพึ่งพ้นโทษออกมาประมาณ 3 เดือนในคดีลักทรัพย์ ได้แอบย่องเข้าไปในอุโบสถวัดมิ่งเมือง ตำบลในเวียง อำเภอเมืองน่าน เข้าไปขโมยเงินผ้าป่าของทางวัดที่ตั้งต้นผ้าป่าไว้บริเวณประตูทางเข้าอุโบสถ แต่เป็นจังหวะเดียวกับที่สามเณรกำลังมาปิดประตูอุโบสถพอดี ทำให้ขโมยตกใจ กวาดเอาเงินเหรียญในบาตรพระประจำวันไป ได้เงินเป็นเหรียญบาทไปประมา 50 บาท แล้วหลบหนีไปนอนอยู่บ้านทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

เจ้าหน้าที่จึงรวบรวมพยานหลักฐานเป็นกล้องวงจรปิด พบว่า นายโจ้ได้แอบย่องเข้ามาทางด้านหลังวัดและเดินเข้าไปในอุโบสถ เข้าไปทำการลักทรัพย์ จึงรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขออนุมัติศาลออกหมายจับและทำการจับกุมตัวตามหมายได้ในเวลาดังกล่าว เจ้าตัวสารภาพได้ก่อเหตุจริง ได้เงินเป็นเหรียญบาทไปประมาณ 50 บาท นำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีข้อหาลักทรัพย์ในสถานที่บูชาสาธารณะในเวลากลางคืน และเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 ยาบ้า

ส่วนอีกรายทางวัดพระธาตุช้างค้ำวรวิหาร พระอารามหลวงกลางเมืองน่าน มอบอำนาจให้กรรมการวัดเข้าแจ้งความว่า เมื่อวันที่ 24 และ 25 พฤษภาคม 2566 ได้มีบุคคลลักษณะคล้ายผู้หญิงเข้าไปขโมยเงินผ้าป่าที่ทางวัดได้ ตั้งเป็นกองผ้าป่าไว้ที่บริเวณพระวิหาร เพื่อให้พุทธศาสนิกชนร่วมกันทำบุญเนื่องในวันวิสาขบูชา โดยมีภาพจากกล้องวงจรจับภาพพฤติกรรมของคนร้ายรายดังกล่าว โดยเดินเข้ามาแล้วหยิบเงินที่ญาติโยมเสียบปักไม้ทำบุญที่ต้นผ้าป่า จากนั้นได้เดินเข้าไปหยิบเงินที่ญาติโยมทำบุญไว้ในบาตรขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่บริเวณหน้าพระประธาน

เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนจึงตรวจสอบพยานหลักฐานจนพบว่า เป็นนายศักดิ์ (นามสมมุติ) ผู้ก่อเหตุเป็นกลุ่มบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศ ที่พึ่งพ้นโทษในคดีลักทรัพย์ออกมาได้ประมาณ 3 เดือน จึงรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขออนุมัติศาลออกหมายจับ โดยสามารถติดตามตัวและจับกุมตัวได้ตามหมาย

นายศักดิ์ ได้สารภาพว่าเป็นผู้เข้าไปก่อเหตุจริง โดยหลักก่อเหตุได้เงินมาประมาณ 3,000 บาท ได้นำเงินดังกล่าวไปซื้อยาบ้ามาเสพ และซื้อยาบ้ามาเลี้ยงวัยรุ่นชายคู่ขา และเลี้ยงหนุ่มๆ บางส่วนก็นำไปกินเที่ยว จนเจ้าหน้าที่เข้ามาจับกุมตัวดังกล่าว โดยเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจยึดเงินที่เหลือจาก นายศักดิ์คืนมาได้จำนวน 386 บาท นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรเมืองน่าน ดำเนินคดีข้อหา ลักทรัพย์ในสถานที่บูชาสาธารณะ ในเวลากลางคืน และเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 ยาบ้า นำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินการตามกฏหมาย

ด้าน พล.ต.ต.ปิยะพันธ์ ภัทรพงศ์สินธุ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดน่าน กล่าวว่า ขอฝากเตือนพี่น้องประชาชน รวมถึงวัดวาอาราม ขอให้มีการป้องกันโดยเฉพาะการติดตั้งกล้องวงจรปิด การตรวจสอบ หรือการล็อก หรือหมั่นตรวจสอบอุปกรณ์ล็อกตู้บริจาค เพื่อป้องกันไม่ให้มีเหตุการณ์เกิดขึ้นเหมือน 2 กรณีดังกล่าว